สวัสดีครับทุกคน // ช่วงกักตัวอยู่บ้านในเวลาที่โรคระบาดโควิด-19 กำลังคุกคามคนทั้งโลกแบบนี้ เราลองหากิจกรรมทำคร่าเวลากันไหมครับ หลายๆ ท่านคงจะใช้ช่วงเวลานี้ดูซีรีย์ที่ตัวเองดองไว้เป็นเวลานาน หรือหนังที่จดรายชื่อเพื่อรอเวลาว่างจะมาเปิดดู และหลายๆท่านก็เริ่มฝึกทำอาหารทานเอง ถือว่าเป็นการเพิ่มทักษะการเข้าครัวให้กับตัวเองได้ดีมากเลยหล่ะครับ แต่เห็นว่าจะมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้กันและกำลังได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก คือ กิจกรรมปลูกต้นไม้นั่นเองครับ กิจกรรมนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อโลกของเรามากเลยครับ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับผืนโลก อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านของเราเองให้ยิ่งดูน่ารัก สวยงามและมีชีวิตชีวาขึ้นด้วย การช่วยลดภาวะโลกร้อนหรือปัญหามลภาวะไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเข้าร่วมโครงการปลูกป่าเพียงอย่างเดียวนะครับ อาจเริ่มได้ที่เราเพียงจุดเล็กๆหลายๆจุดก่อน เริ่มจากการงดใช้ถุงพลาสติก รับประทานอาหาร plants base ให้มากขึ้นเพราะการทานอาหารจากเนื้อสัตว์เยอะๆ เป็นหนึ่งขั้นตอนที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้ นอกจากนี้การเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากจุดเล็ก เช่น การปลูกต้นไม้ในบ้านหรือบริเวณรอบบ้าน ก็เป็นการสร้างจิตสำนึกให้เรารัก(ษ์)ธรรมชาติได้มากขึ้นครับ เมื่อเรามีโอกาสเพิ่มขึ้น ค่อยขยับขยายเข้าร่วมโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ขึ้นดูครับ ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำต้นไม้ที่เหมาะแก่การเริ่มต้นปลูกในบ้าน หรือประดับโต๊ะทำงานเพื่อการทำงานที่มีชีวิตชีวาขึ้น มาดูกันเลยครับว่าผมนำต้นอะไรมานำเสนอบ้าง... 1. ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant หรือ India Rubber Fig) เรียกได้ว่าตอนนี้ต้นยางอินเดียเปรียบเสมือนพระเอกหน้าใหม่ในวงการต้นไม้ก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะมีชื่อเสียงในวงการต้นไม้มานานแล้วก็ตาม แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19เช่นนี้ ผู้คนต่างกันหันมาสนใจต้นไม้เยอะขึ้น เจ้าต้นยางอินเดียจึงได้รับความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย ด้วยเอกลักษณ์สุดเท่ของเขา คือ มีใบที่เงางามเหมือนเอาแว็กซ์เกอร์ผสมน้ำรดให้เช้าเย็นอย่างไรอย่างนั้น ประกอบกับใบที่มนเกือบจะเป็นวงรีและลำต้นที่ตั้งตรงทรงสง่า ส่งผลให้รูปลักษณ์ภายนอกของต้นยางอินเดียดูเท่ เรียบหรู มีราคามากๆ และแน่นอนว่าหากดูมีราคาเช่นนี้เจ้าต้นยางอินเดียในช่วงนี้ก็ราคาสูงไม่เบา เท่าที่ผมเจอมามีตั้งแต่ต้นละหลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่นเลยล่ะครับ เจ้ายางอินเดียมีหลายสายพันธ์ด้วยกัน ประกอบด้วย ยางอินเดียดำ ยางอินเดียแดง ยางอินเดียแคระ และยางอินเดียใบด่าง ซึ่งแต่ละสายพันธ์ก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากน่าจะเป็นยางอินเดียดำนะครับ เพราะสีดำนำไปตกแต่งบ้านหรือห้องทำงานก็ดูเท่ ดูคูลไปหมด นอกจากนี้เจ้ายางอินเดียยังมีคุณสมบัติฟอกอากาศ ดูดซับมลพิษในอากาศได้อีกด้วย เหมาะกับการปลูกในบ้านและการดักจับฝุ่น PM2.5 เสียจริงๆ ครับ หากท่านใดสนใจต้นไม้คูลๆ เท่ๆ ต้นยางอินเดียเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเลยนะครับ 2.ต้นเปปเปอร์โรเมีย หรือเปเปอร์หยก ( Peperomia obtusifolia (L.) Dietr.) คุณเปเปอร์หยกนี่คือนิยามของต้นไม้น่ารักๆ ตะมุตะมิมากๆ ใบของเจ้าเปเปอร์หยกนี้มีขนาดพอดีที่จะนำไปวางตกแต่งโต๊ะทำงานมากๆ ไม่ใหญ่เกินไปและไม่เล็กเกินไป อีกทั้งลักษณะของเจ้านี่คือเป็นพืชไม้พุ่มไม่ใช่พืชไม้ยืนต้น จึงทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมเจ้าเปเปอร์หยกนี้ก็ดูคล้ายดอกกุหลาบสีเขียวเงามันขลับที่กลีบดอกบานสะพรั่ง เวลามองแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายเหมือนคนรักนำดอกกุหลาบมาวางไว้บนโต๊ะอย่างไรอย่างนั้น คุณเปเปอร์หยกเป็นพืชฉ่ำน้ำ ขณะเดียวกันก็ไม่ชอบดินแฉะ ไม่เช่นนั้นเขาจะเน่าเอาได้ เหมาะกับสภาพอากาศชื้น อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงคอยส่องให้ใบสร้างคลอโรฟิลล์อยู่สม่ำเสมอ หากไม่โดนแสงเจ้านี่อาจจะมีสีใบที่ซีดได้ ฟังๆดูแล้วเหมือนเลี้ยงยากใช่ไหมครับ แต่ความจริงแล้วไม่เลย ถ้าเราใส่ใจเขาเพียงพอ ยิ่งเอาไปเลี้ยงในบ้านหรือประดับโต๊ะทำงานด้วยแล้ว การรดน้ำเพียงแค่ใช้สเปรย์ฉีดให้ดินชุ่ม เจ้านี่ก็จะมีชีวิตสร้างสีสันให้โต๊ะทำงานเราไปยาวนานเลยล่ะครับ 3.ต้นแก้วแคระ (Murraya paniculata (L.) Jack) ต้นแก้วแคระ แก้วจิ๋ว ขออนุญาตเรียกน้องแก้วนะครับ เพราะชื่อน้องดูน่าทะนุถนอมจริงๆ ฮ่าๆๆ น้องแก้วของเรานี้ ก็น่ารักไม่แพ้ต้นไม้ตะมุตะมิต้นอื่นๆเลยครับ น้องแก้วเป็นพืชไม้พุ่ม มีลักษณะใบที่เล็กจิ๋ว เหมาะแก่การนำไปวางบนโต๊ะทำงานหรือตกแต่งมุมบ้านมากๆครับ หากเลือกกระถางสวยๆไม่ว่าจะเป็นลายโมเดิร์นทันสมัยหรือลายคลาสสิคให้น้องสวมใส่ ผมว่าน้องแก้วของเราต้องดูดีมากๆแน่นอนครับ เหมือนกับคำพูดติดปากว่า "คนสวยใส่อะไรก็สวย" ฮ่าๆๆ แต่ว่าครับแต่ว่า น้องแก้วมีดียิ่งกว่านั้น เขาว่ากันว่า(เขานี่คือใครผมก็ไม่รู้นะครับ)น้องแก้วนี่เหมาะกับการนำไปตั้งบนโต๊ะทำงานในออฟฟิศนะครับ เพราะอิทธิฤทธิ์ความเชื่อของน้องแก้วมีอยู่ว่า เป็นต้นไม้มงคล จะนำโชคลาภมาให้ครับ เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจว่าจริงไหมนะครับ ฮ่าๆๆ แต่ความจริงที่เห็นได้ชัดเจนจากน้องแก้วนั้น คือ หากนำไปปลูกประดับตกแต่งบ้านหรือโต๊ะทำงานจะทำให้สถานที่นั้นๆน่าอยู่มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ 4.ต้นว่านหางจระเข้ (Aloe vera) ว้าว...ต้นไม้คลาสสิคต้นนี้กลับมานิยมอีกแล้วครับ คุณว่านหางจระเข้นั่นเอง ขออนุญาตเรียกแม่ว่านนะครับ รู้สึกว่าสถานะแม่เข้ากับชื่อว่านดี ฮ่าๆๆ(เกี่ยวไหมเนี่ย?) แม่ว่านของเรานอกจากขึ้นชื่อลือชาเรื่องสรรพคุณทางยาแล้ว ไม่ว่าจะรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลผุผอง ต่างๆ นานา แม่ว่านของเราก็มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแปลกตาไม่แพ้พืชอื่นๆเลยครับ คือมีลักษณะใบที่อวบอ้วนเป็นปล้องและยังมีหนามเล็กขึ้นระหว่างใบสองฝั่งด้วย ทำให้รูปร่างลักษณะคล้ายกับหางของจระเข้ตามชื่อ หากหากระถางเล็กๆ น่ารักๆ สีพื้นหรือสีสันสดใสให้แม่ว่านสวมใส่ แล้วนำไปตั้งหน้าทีวีคงจะทำให้มุมโต๊ะทีวีดูดีไม่เบาเลยล่ะครับ หรือว่าจะวางบนโต๊ะทำงานก็ย่อมได้ เพราะว่าหางจระเข้สามารถดูดรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ที่ทำลายสายตาได้อีกด้วย แต่มีคำเตือนเล็กน้อยครับ คือว่า แม่ว่านเป็นคนกิน(น้ำ)น้อย แต่เจริญเติบโตเร็วมาก ดังนั้นหากต้องการเลี้ยงแม่ว่านประดับเพื่อความน่ารัก ควรหาแม่ว่านขนาดmini จะดีกว่า แต่หากจะปลูกเพื่อใช้สรรพคุณทางยา แนะนำปลูกนอกบ้านดีกว่าครับ... ถ้าหากว่าทุกท่านเจอแม่ว่านขนาดmini พอที่จะนำไปตกแต่งบ้านหรือโต๊ะทำงานแล้วล่ะก็ อย่าเดินผ่านเลยเชียว รีบคว้าโดยไวเลยครับ เพราะแม่ว่าน หรือว่านหางจระเข้เป็นต้นไม้ตัวเลือกที่จะนำไปปลูกตกแต่งบ้านหรือโต๊ะทำงานที่น่าสนใจมากๆเลย 5.ต้นปอตูลากา (Portulaca molokiniensis) มาถึงต้นนี้กันบ้าง...คุณนายปาตูลากา ที่ผมเรียกว่าคุณนายเพราะว่าพืชชนิดเป็นตระกูลเดียวกับต้นคุณนายตื่นสายนั่นเองครับ ต้นปาตูลากามีความน่ารักอยู่ที่ใบและดอกครับ ใบมีลักษณะเล็กขึ้นถี่ขึ้นติดต่อกันตลอดก้านลำต้น ด้วยลักษณะใบที่มีลักษณะเล็กนี้เมื่อนำมาใส่กระถางใบเล็กน่ารัก มันช่างเข้ากันมากๆเลยครับ แต่ผมแนะนำเป็นกระถางที่ลวดลายไม่เยอะนะครับ เพราะคุณนายปาตูลากามีความเยอะของใบและดอกอยู่แล้ว เดี๋ยวจะแย่งซีนกันไปหมด ฮ่าๆๆ ดอกของคุณนายปาตูลากานี้ก็ออกง่ายครับ เลี้ยงไม้นานก็ออกแล้ว แต่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษนิดหนึ่งนะครับ ขึ้นชื่อว่าคุณนายการเลี้ยงดูเลยต้องพิถีพิถันหน่อย (เกี่ยวไหมเนี่ย?) คือต้องให้น้ำบ่อยหน่อยคครับ ขณะเดียวกันก็ต้องไม่เยอะเกินเพราะต้นจะเน่าได้ และที่สำคัญคุณนายท่านชอบแดดครับ ยิ่งให้โดนแดดจะยิ่งเจริญเติบโต ดังนั้นควรนำไปตกแต่งบ้านบริเวณที่มีแสงส่องถึง เช่น หน้าต่าง ระเบียงหรือบริเวณที่แสงแดดเข้าถึงจะดีมากๆครับ ใครที่ชอบต้นไม้ขนาดน่ารักแถมมีดอกง่าย คุณนายปาตูลากาคือหนึ่งตัวเลือกที่คู่ควรเลยล่ะครับ 6.ต้นพรมออสเตรเลีย (Nerve plant) ต้นพรมออสเตรเลีย ชื่อเหมือนต้นไม้จบการศึกษาจากต่างประเทศเลยแหะ ฮ่าๆๆ คุณพรมออสเตรเลียมีลวดลายใบที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ จึงทำให้เป็นที่นิยมนำมาปลูกตกแต่งบ้านและโต๊ะทำงาน เป็นพืชประเภทไม้พุ่มและดูแลไม่ยากเลยครับ เพียงแค่รดน้ำวันละครั้ง หากอากาศไม่ร้อนมากรดเพียง 2-3 วันต่อหนึ่งครั้งก็เพียงพอ แต่สิ่งที่เหมาะสมต่อการปลูกในบ้านยิ่งกว่านั้นคือ คุณพรมออสเตรเลียไม่ชอบแดดครับ เหมาะมากแก่การวางไว้บนโต๊ะรับแขกหรือโต๊ะทำงานมาก เครียดจากการทำงานก็นั่งมากลวดลายบนใบไปเพลินๆ หรือจะ speak English กับเขาก็ได้นะครับ เพราะชื่อพรมออสเตรเลียน่าจะฟังภาษาอังกฤษออก ฮ่าๆ หยอกเล่นนะครับ แต่ผมชอบพูดกับต้นไม้บ่อยๆ นะครับ ผมคิดว่าเขาก็มีชีวิตเหมือนเราๆนั่นแหละ ออกนอกเรื่องมาเยอะเลย เอาเป็นว่าถ้าหากต้องการให้บ้านหรือโต๊ะทำงานเรามีชีวิตชีวา มีความเป็นธรรมชาติ ดูสดใสมากขึ้นล่ะก็ คุณพรมออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ห้ามพลาดเลยล่ะครับ 7.ต้นมอนสเตอรา (Monstera) ...มาถึงนางเอกตลอดกาลแบบคุณต้นมอนสเตอรากันบ้างดีกว่าครับ ต้นมอนสเตอรามีลักษณะใบที่เงามัน เขียวขลับอีกทั้งยังมีรูปร่างลักษณะใบที่สุดจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนใบไม้ในเทพนิยาย จึงทำให้ผู้คนในวงการต้นไม้ขนานนามเธอว่าเป็น "ราชินีแห่งใบไม้" ดูยิ่งใหญ่อลังกาลมากเลยใช่ไหมครับ แต่ว่าไม่ได้นะครับ คุณราชินีมอนสเตอราก็มีลุคที่สมยศจริงๆ ไม่ว่าจะนำไปวางตกแต่งที่บ้าน ออฟฟิศ หรือบริษัทสำนักงาน ก็จะทำให้สถานที่นั้นๆดูเรียบหรู สวยแพงขึ้นมาทันที แต่ครับแต่ ราคาของเธอก็แพงสมยศราชินีเช่นเดียวกันครับ คุณราชินีใบไม้หรือมอนสเตอรา เลี้ยงดูง่ายครับ รดน้ำวันละหนึ่งครั้ง ไม่ชอบแดดมาก จะนำไปตั้งตกแต่งภายในบ้านหรือภายนอกนอกบ้านก็ย่อมได้ แต่ระวังอย่าให้โดนแดดมากนะครับเดี๋ยวใบคุณเขาจะไหม้เสียก่อน นอกจากนี้คุณราชินีมอนสเตอรายังมีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศด้วยนะครับ เหมาะสำหรับช่วงเหตุการณ์ที่ฝุ่น PM2.5 กำลังกระจายทั่วเมืองแบบนี้จริงๆ เรียกได้ว่าจะนำไปตกแต่งเพื่อความสวยงาม คุณเขาก็ทำได้ดี หรือจะในไปใช้ประโยชน์ทางมลภาวะ คุณเขาก็ไม่น้อยหน้าพืชอื่นเช่นกัน ดังนั้นคุณมอนสเตอราคือต้นไม้ตกแต่งบ้านอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะครับ 8.ต้นกวักมรกตเล็ก (Zamioculcas Zamiifolia หรือ Emerald Palm) ต้นกวักมรกตเล็ก เอ๊...เติมสถานะอะไรให้ดีน้า นางกวักดีไหม (ดูไสยศาสตร์ขึ้นมาทันที) นางสาวกวักละกัน ฮ่าๆๆ คุณนางสาวกวักไม่รู้ว่ากวักโชคกวักลาภมาให้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คุณนางสาวกวักดูสวยแพง สวยคูลมากๆ ชนิดที่ว่าหากนำไปวางตกแต่งบ้านหรือโต๊ะทำงานจะดูเป็นผู้ดีมีเทสมากๆเลยล่ะครับ ฮ่าๆๆ คุณนางสาวกวักมีใบที่แข็ง เงามัน มีให้เลือกสองสี คือสีเขียวและสีดำ แน่นอนครับ ไม่ต้องสืบเลยว่าสีอะไรดูคูลมากกว่า และก็แน่นอนอีกครั้งครับว่าสีอะไรจะราคาแพงกว่า ต้นสีเขียวเท่าที่พบเจอราคาย่อมเยาว์อยู่ประมาณ 40 บาทขึ้นไป แต่สีดำ 400 เลยล่ะครับ ทั้งที่ขนาดต้นเท่าๆกัน ทำไมทั้งสองถึงแตกต่างกันเพียงนี้ (ซื้อสีเขียวมากพ่นสีดำได้ไหมครับ แห่ะๆ) แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณเขาจะสีไหนหากเลือกกระถางคูลๆ เรียบๆ ผมว่าคุณนางสาวกวักใบมรกตก็สวย สง่างามพอๆกันเลยครับ นอกจากจะสง่างามแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของคุณนางสาวมรกตเลยก็คือ การคลายออกซิเจน(Oxygen)สร้างอากาศบริสุทธ์ให้เรา จึงทำให้ผู้คนในวงการต้นไม้นิยมนำคุณกวักมรกตทั้งพันธุ์ใหญ่และเล็กไปตกแต่งบ้าน หากขนาดใหญ่หน่อยก็วางไว้มุมบ้านจะดูมีคลาสขึ้นมาทันที แต่ถ้าหากต้องการตกแต่งโต๊ะทำงานให้ดูมีเทสขึ้นมาบ้าง ก็หาต้นที่มีขนาดmini น่ารักๆพอ นอกจากจะมีคลาสมีเทสแล้ว ที่สำคัญต้นไม้จะทำให้เราดูมีชีวิตชีวา ดูสดใส และช่วยโลกเราได้ทีละนิดๆ หากทุกท่านไม่อยากตกเทรนด์วงการต้นไม้ยอดนิยม ก็อย่าลืมนึกถึงคุณนางสาวกวักมรกตเล็กนะครับ... 9.ต้นเดหลี (Peace Lily) คุณหนูเดหลี...ที่ผมเรียกคุณหนูไม่ใช่เพราะชื่อนะครับ แต่เป็นเพราะรูปลักษณ์ของคุณต้นเดหลีที่ดูคุณหนู๊คุณหนู คุณหนูเดหลีมีใบสีเขียวมันเงา แต่ใบไม่แข็งนะครับ ดูอ่อนนุ่ม อีกทั้งยังมีดอกสีขาวนวลชวนหลงไหล มีกลีบดอกหนึ่งกลีบห่อหุ้มเกสรดอกภายใน ช่างดูน่าประคบประหงมจริงๆครับ ผมเลยขอเรียกต้นเดลีว่าคุณหนูเดหลีนะครับ คุณหนูเดหลีเหมือนแก่การนำไปตั้งตกแต่งมุมบ้านครับ ผมว่าน่าจะทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเยอะเลยล่ะ เพราะใบคุณหนูนั้นใหญ่อย่าบอกใคร มองดูแล้วรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในอุทยานอย่างไรอย่างนั้น ฮ่าๆๆ นอกจากความสวยงามของคุณหนูแล้ว เขาว่ากันว่า(เขามาอีกแล้วครับ เขาที่ผมก็ไม่รู้ว่าคือใคร)คุณหนูเดหลีหากปลูกไว้จะทำให้ผู้ปลูกอายุมั่นขวัญยืน จะนำโชคลาภมาให้ หรือเรียกว่าเป็นไม้มงคลนั่นเองครับ แต่เรื่องมงคลไม่มงคลผมก็ไม่ค่อยจะแน่ใจ แต่คุณหนูเดหลีควรได้รับมงพืชที่สวยงามเหมาะแก่การนำไปตกแต่งบ้านและโต๊ะทำงานมากๆ ครับ 10.ต้นอุดมทรัพย์ (Chinese Evergreen) ต้นอุดมทรัพย์...อะแฮ่ม ฟังชื่อแล้วก็รู้เลยนะครับว่าเป็นไม้มงคลแน่นอน (หลีกหนีไม่พ้นเรื่องนี้จริงๆ) เจ้าต้นนี้เขาว่ากันว่าปลูกแล้วจะร่ำรวยครับ(ตามชื่อเลยแหละ ฮ่าๆๆ) แต่สิ่งที่ได้ยิ่งกว่าความร่ำรวยคืออากาศที่ดีนั่นเองครับ เจ้าต้นอุดมทรัพย์เก่งเรื่องการกรองอากาศบริสุทธิ์ให้เรา หากนำไปปลูกในบ้าน บอกเลยว่าปอดสะอาดแน่นอนครับ ใบของเจ้าต้นอุดมทรัพย์ก็มีเอกลักษณ์ไม่แพ้พืชอื่นๆเลยนะครับ มีลวดลายคล้ายหินอ่อนสีขาวผสมสีเขียว บางสายพันธุ์ก็มีสีแดงผสมกับสีเขียวและสีขาว ผมชอบเรียกเจ้าต้นนี้ว่าต้นลายปลากัด เพราะลวดลายบนใบของเขาเหมือนกันกับลายของปลากัดเลย ใครชอบต้นไม้คลาสสิคๆ ต้นอุดมทรัพย์ถือว่าเป็นต้นไม้แนวหน้าที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้เลยล่ะครับ 11.ต้นช้อนเงินช้อนทองแคระ (Banyan Tree) มาถึงอีกต้นที่ผมได้นิยามคำว่าน่ารักไว้เหมือนกัน คือต้นช้อนเงินช้อนทองแคระนั่นเองครับ น้องช้อนเงินช้อนทองมีความน่ารักขั้นสุดจริงๆ น้องเป็นพืชตระกูลเดียวกับไทรนะครับ ใบน้องมีความกลมคล้ายช้อนทานอาหาร เลยได้ชื่อตามลักษณะเลย อย่างที่กล่าวว่าน้องเป็นพืชตระกูลเดียวกับไทร ลักษณะใบจึงมีความมันเงา ยิ่งโดนน้ำก็จะยิ่งเงา ยิ่งโดนแดดเยอะก็ยิ่งเงาไปอีก ฮ่าๆๆ ฉะนั้นหากใครต้องการรับน้องไปดูแล ควรให้น้องโดนแดดบ่อยๆ ครับ น้องชอบแดด ผมคิดว่าน้องช้อนเงินช้อนทองเหมาะมากๆแก่การนำไปตกแต่งโต๊ะทำงาน เลือกต้นน้อยๆ ให้พอเหมาะกับกระถางจิ๋วๆ น่ารักๆ โต๊ะทำงานเราก็จะดูคิ้วทึขึ้นมาทันทีครับ ใครสายแบ๊ว สายหวาน ห้ามพลาดต้นนี้นะครับบอกเลย 12.ต้นฟิโลเดนดรอน ซานาดู (Philodendron Xanadu) เจ้าต้นชื่อแปลกๆนี้เราขออนุญาตเรียกสั้นๆว่า "ฟิโล"นะครับ เพราะชื่อเต็มเรียกยากเกินไปสำหรับผม เหตุผลที่ชื่อเขายากน่าจะเป็นเพราะเขาเป็นพืขที่ถือกำเนิดต่างประเทศนั่นเองครับ ประเทศฝั่งที่เจ้าต้นนี้กำเนิดคือประเทศฝั่งอเมริกาใต้ครับ เจ้าฟิโลมีทั้งประเภทพืชเลื้อยและพืชเลื้อยช้าครับ บ้านเรานิยมปลูกแบบเลื้อยช้า เพราะต้องการให้ต้นตั้งตรงทำให้ประหยัดพื้นที่และดูสวยสง่ามากกว่า ส่วนใหญ่นิยมปลูกในบ้านและในห้องรับแขกนะครับ เพราะเจ้านี่จะสูงขึ้นเลื่อย หากไว้บนโต๊ะทำงานเกรงว่าจะกินพื้นที่เยอะเกินไป ฮ่าๆๆๆ เจ้าต้นฟิโล ชื่อของเขามีเรื่องราวนะครับ ขออนุญาตแชร์ให้ฟังละกัน คำว่า Philodendron มีรากมาจากภาษากรีกครับประกอบด้วย 2 คำ คือ Phileo หมายถึง ความรัก และ dendron หมายถึง ต้นไม้ เราจึงจินตนาการได้ว่า เป็นต้นไม้แห่งความรักหรือเป็นต้นไม้พลอดรักนั่นเองครับ ผู้เลี้ยงอาจใช้ลูกเล่นนี้ซื้อเจ้าต้นฟิโลให้คนที่รักใช้ตกแต่งบ้านหรือมุมห้อง แล้วแอบบอกความหมายไปด้วย ผมว่าคนรักของเราคงจะรู้สึกดีไม่น้อยเลยล่ะครับ 13.ต้นกระบองเพชรหรือตะบองเพชร (Cactus) ในที่สุดก็มาถึง Mini plant กระถางสุดท้ายที่ผมนำเสนอให้ผู้อ่านทุกท่านแล้วนะครับ คุณคนนี้ถือว่าเป็นพระเอกตลอดกาลของจริง ที่สุดของความนิยม เพราะคุณคนนี้เลี้ยงง่ายชนิดที่ว่าปอกกล้อยบวชชีเข้าปาก(ทั้งที่กล้วยบวชชีไม่มีเปลือก) นั่นก็คือ คุณกระบองเพชร หรือ ตะบองเพชร หรือที่เรียกติดปากว่าแคคตัส ในปัจจุบันคุณแคคตัสมีหลายสายพันธุ์มากๆ แต่ละสายพันธุ์สวยๆทั้งนั้น หากนึกถึงต้นไม้ประดับบ้านหรือโต๊ะทำงานผมเชื่อว่าทุกท่านคงจะนึกถึงคุณแคคตัสเป็นอันดับต้นๆแน่ๆ เรื่องราวสรรพคุณของคุณแคคตัสทุกคนคงจะทราบกันดี ว่าเขามีความฉลาดในการกักเก็บน้ำที่ว่าเปลี่ยนใบเป็นหนาม ทำให้ไม่จำเป็นต้องรดน้ำคุณต้นแคคตัสเขาบ่อยๆ วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องความเชื่อของคุณแคคตัสบ้างดีกว่าครับ (ไม่พ้นเรื่องนี้จนต้นสุดท้าย) ฮ่าๆๆ เขาว่ากันว่าคุณแคคตัสหากปลูกไว้จะนำโชคลาภมาให้ผู้ปลูกและทำให้อายุยืน อีกทั้งยังช่วยป้องกันศัตรู ความเชื่อนี้น่าจะมาจากรูปลักษณ์และคุณสมบัติของคุณเขานะครับ เพราะแคคตัสมีอายุได้นานมาก ทนร้อนทนหนาวได้สบาย อีกทั้งมีหนามแหลม ผู้คนเลยนำมาผูกกับเรื่องป้องกันศัตรู เรื่องแบบนี้เชื่อไว้ก็ไม่เสียหา ย(ผมเปล๊าชวนทุกคนงมงายนะครับ) แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนแน่ๆคือ คุณแคคตัสเมื่อมีดอกสวยงามมากครับ ออกดอกทีคนเลี้ยงก็ภูมิใจที ฮ่าๆๆ อีกทั้งหากนำไปตั้งไว้หน้าคอมพิวเตอร์หรือหน้าทีวี ก็จะช่วยป้องกันสายตาเสียได้ครับ หากท่านใดต้องการไอเทมที่ทุกบ้านนิยมรับไปดูแล แคคตัสถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ควรเลี้ยงติดบ้านเลยครับ ทั้งหมดนี้ก็คือ 13 mini plants ที่ผมคิดว่ากำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ครับ หากทุกท่านสนใจในตัวน้องๆ อยากจะรับเขาไปดูแล สิ่งสำคัญอย่าลืมเลยนะครับว่า ถึงแม้น้องจะไปชอบแดดและความชื้นขนาดไหน แต่แสงแดดและน้ำก็เป็นสิ่งที่น้องต้องการมากที่สุด ดังนั้นควรหาพื้นที่ให้น้องโดนแดดบ้าง และที่สำคัญกว่าข้อก่อนหน้าคือ ความใส่ใจครับ หากเรารับเขาไปดูแลแล้วก็เหมือนรับสมาชิกใหม่เข้าครอบครัว ใส่ใจคนในครอบครัวขนาดไหน ก็ควรใส่ใจน้องเท่านั้นนะครับน้องๆจะได้อยู่เป็นกำลังใจให้เราไปนานๆ ^_^ หากใครว่างๆ จากการทำงานหรือรู้สึกเบื่อๆ การปลูกต้นไม้ คุยกับต้นไม้บ้าง คงจะช่วยให้เราเข้าใกล้ธรรมชาติมากยิ่งขึ้นนะครับ ยิ่งสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกคนต่างต้องทำงาน work from home หรือทำกิจกรรมต่างๆผ่านสื่อออนไลน์หมด คงจะเหงาน่าดู หากิจกรรมเล่นกับเพื่อนหรือหากิจกรรมปลูกต้นไม้ คงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คลายเหงาไม่เบาเลยครับ การช่วยธรรมชาติไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการปลูกป่าหรือสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อลบล้างสิ่งที่เรากระทำกับธรรมชาติเท่านั้น เพียงแค่เราปรับพฤติกรรมที่ทำลายโลกทีละเล็กทีละน้อย จากหนึ่งคนไปสู่หลายๆ คน ผมว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่านะครับ การเริ่มปลูกต้นไม้เล็กๆภายในบ้านก็เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นการสร้างพื้นสีเขียวเล็กๆ แต่อย่างน้อยก็ได้สร้างพื้นที่จิตสำนึกขนาดใหญ่ให้เราห่วงใยและชิดใกล้ธรรมชาติมากขึ้น มาร่วมดูแลบ้านหลังใหญ่ของเรากันเถอะครับ เครดิตรูปภาพ : จากผู้เขียน