ตอนนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าการสตรีมเกม หรือการเป็นสตรีมเมอร์ ไม่ใช่อาชีพอีกต่อไป กลับกัน สตรีเมอร์กลายเป็นอาชีพที่หอมหวานสำหรับใครหลายคน ทั้งเงิน ชื่อเสียง และความสนุกของการเล่นเกม ซึ่งกลิ่นหอมหวานนั้นก็ยังโชยไปยังบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ในการสร้าง “แพลตฟอร์ม” ขึ้นมาเพื่อรองรับสตรีมเมอร์ และผู้ชมที่กำลังขยายตัวในความเร็วที่บ้าคลั่ง และแพลตฟอร์มที่ neighborhood จะพาไปรู้จักในวันนี้ ก็คือ MIXER Mixer คือใคร อธิบายแบบสามนาทีรู้เรื่อง Mixer ก็คือ แพลตฟอร์มการเผยแพร่ภาพและรับชมเกม (Video game live streaming) แบบที่ Twitch , Youtube Gaming , Facebook Gaming ทำนั่นแหละครับ สร้างช่องทางให้สตรีมเมอร์แพร่ภาพ และช่องทางที่คนทั่วไปได้รับชม มีระบบแช็ต โดเนทเพื่อสนับสนุน หรือสมัครเป็นผู้สนับสนุนรายเดือน บลา ๆ แต่เพื่อจะทำให้คุณรู้จัก Mixer ชัดขึ้น เราไปย้อนดูการเดินทางของมันกันดีกว่า Mixer เริ่มต้นในวันที่ 5 มกราคม 2016 ในงาน Startup Battlefield โดย TechCrunch ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา Matthew Salsamendi เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสตาร์ตอัพด้านไอที Beam Interactive ได้ขึ้นแสดงผลงาน Beam แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเกมที่พวกเขามั่นใจว่าจะเข้ามาเปลี่ยนวงการสตรีมมิ่ง ที่ ณ วันนั้น มีเจ้าตลาดอย่าง Twitch และ Youtube ครองอยู่ก่อนแล้ว ภาพจาก techcrunch.com “Twitch เหมือนกับกอลิล่าหนัก 700 ปอนด์ ” ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า Twitch หรือแม้แต่ Youtube คือคู่แข่งยักษ์ใหญ่ของพวกเขา ทั้งคู่มีทั้งเงินทุนมหาศาล นักพัฒนาหลายร้อยชีวิต และที่สำคัญ ฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลที่หมุนเวียนใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน การจะสร้างแพลตฟอร์มสักหนึ่งอันขึ้นมาเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก 2 ยักษ์ใหญ่นี้เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่พวกเขามองเห็นบางอย่างที่พวกเขาคิดว่าจะทำให้ Beam เอาชนะ หรือโดดเด่นจากเจ้าตลาดเดิมได้ สิ่งนั้นคือ “การมีส่วนร่วมของผู้ชม” ในตอนนั้น ทั้ง Twitch และ Youtube ต่างก็มีระบบ Live Chat อยู่แล้วครับ สตรีมเมอร์สามารถสื่อสารกับผู้ชม ผู้ชมก็สามารถสื่อสารกับสตรีมเมอร์ได้เป็นปกติ แล้วมันไม่มีส่วนร่วมยังไง? เพราะ Live Chat มันไม่ สด จริง ๆ ยังไงหละครับ ตามปกติแล้ว ในแช็ตระหว่างการสตรีมนั้นจะมี “ความหน่วง” อยู่ที่ประมาณ 10–20 วินาที หมายความว่า เราพิมพ์ไปตอนนี้ กว่าที่สตรีมเมอร์จะเห็นข้อความที่เราพิมพ์ไป ก็อีก 10 วินาทีต่อมาแล้ว ซึ่งความหน่วงตรงนี้มันลดการมีส่วนร่วมตรงที่ว่า สมมุติ เราแนะนำวิธีเอาชนะบอสใหญ่ให้สตรีมเมอร์ กว่าข้อความจะส่งไปถึง ตัวละครในเกมก็อาจม่องเท่งไปเสียแล้ว (ปัจจุบันมีการพัฒนาให้ความหน่วงนี้ลดลงแล้ว) ซึ่งนี้เป็น 1 จุดแข็งที่ Beam ชูขึ้นมา และอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ Beam น่าจับตามอง คือการสร้างฟังก์ชันที่ผู้ชม สามารถ “บังคับเกม” กับสตรีมเมอร์ได้ อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้น สมมุติคุณดูผมสตรีมเกม Minecraft ใน Beam หากคุณดูผมครบระยะเวลาที่ผมกำหนดไว้ ที่หน้าจอคุณจะมีช่องให้กด ซอมบี้ หรือ อาหาร ซึ่งถ้าคุณกดซอมบี้ ก็จะมีซอมบี้ปรากฏในเกมที่ผมเล่นอยู่ด้วย ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่การสร้าง “การมีส่วนร่วมของผู้ชม” แต่แมตทิวคิดว่านี่จะเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเกมให้เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ดูมากยิ่งขึ้น และผู้ชมก็จะไม่ใช่แค่ดู แต่มีส่วนร่วมในระดับที่มากกว่าดูและการพิมพ์โต้ตอบ ภาพจาก techcrunch.com และนั่นก็ทำให้ Beam Interactive ชนะเลิศการประกวด Startup Battlefield พร้อมรับเงินสนับสนุน 1,500,000 บาทไปพัฒนาต่อยอด ซึ่งในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Microsoft ก็เข้าซื้อกิจการ Beam Interactive โดยหวังว่าจะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาแพลตฟอร์มเกมของตน ทั้งใน Xbox One และ Windows 10 เมื่อ Beam ได้อยู่ในร่มบารมีของยักษ์ใหญ่ Microsoft ก็ถึงเวลาฟาดฟัน ในเดินพฤษภาคม 2017 Microsoft ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อ Beam เป็น Mixer โดยให้เหตุผลว่า เป็นชื่อที่เหมาะกว่าในการทำตลาดทั่วโลก เป็นการประกาศกลาย ๆ ว่า Mixer พร้อมแล้วที่จะต่อสู้กับแพลตฟอร์มอื่น และที่สำคัญ แย่งชิงที่บัลลังค์ที่ตอนนี้ Twitch ถือครอง และเหตุการณ์ที่จุดกระแสให้เกมเมอร์เกือบทั้งโลกรู้จัก Mixer ก็คือการที่ Ninja สตรีมเมอร์ชื่อก้องโลกประกาศย้ายแพลตฟอร์มการสตรีมจาก Twitch ที่เขาปลุกปั้นจนมีผู้ติดตามถึง 14 ล้านคน มาใช้แพลตฟอร์ม Mixer ในการสตรีมแทน ซึ่งการย้ายค่ายครั้งนี้ หลายคนยกว่าเป็นการทำการปฏิวัติของ Mixer ที่ทำเพื่อโค่นบัลลังค์เบอร์ 1 จาก Twitch เลย ภาพจาก espn นอกจาก Ninja แล้ว Shroud สตรีมเมอร์เทพเกม FPS ที่หลายคนชื่นชอบ รวมถึงสตรีมเมอร์ต่างประเทศหลายคน ก็เริ่มเปลี่ยนจาก Twitch มาสตรีมลง Mixer กันบ้างแล้ว และยังเริ่มมีสตรีมเมอร์หน้าใหม่ที่หวังจะไปสร้างชื่อเสียงที่ Mixer หลั่งไหลไปสร้างช่องของตัวเอง แม้จะยังเทียบกับ Twitch ไม่ได้ แต่ ก็ถือเป็นการเติบโตที่น่าสนใจ ถึงจะดึงตัวสตรีมเมอร์ชื่อดังไปลงแพลตฟอร์มของตัวเองสำเร็จ Mixer ก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองในการดึงคนดูไปยังแพลตฟอร์มของตัวเองให้ได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ผู้ชมก็ยังเป็นส่วนสำคัญของคอมมูนิตี้ ขนาด Ninja ที่สมัย Twitch มีผู้ติดตามถึง 14 ล้าน แต่ที่ Mixer ยังมีผู้ติดตามแค่ 2.5 ล้านคน ก็ต้องมาดูกันว่า Mixer จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า ในวันที่ Twitch เริ่มต้นนั้น กว่าจะเป็นเบอร์ 1 อย่างทุกวันนี้ ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ให้เวลามันหน่อย แต่ในวันนี้ วันที่คนไม่ภักดีต่อแบรนด์ และพร้อมกระโจนเข้าหาสิ่งที่ดีกว่า หาก Mixer ดีกว่าจริง ๆ การจะชิงบัลลังค์เจ้าแห่งเกมสตรีมมิ่งก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอย่าลืมว่านอกจาก Twitch แล้ว ก็มีทั้ง Facebook Gaming, Youtube Gaming ที่ต่างก็หวังจะเป็นเจ้าตลาดอยู่เหมือนกัน โดยตอนนี้ ส่วนแบ่งการตลาดของ Mixer มีอยู่ที่ 3.2%