สถานการณ์ของโรคโควิด – 19 ในประเทศไทยถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อลดน้อยลง บางจังหวัดตอนนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว ด้วยการควบคุมจากมาตรการที่เข้มงวดของรัฐ และความร่วมมือของประชาชน ทุกภาคส่วนในสังคม อย่างไรก็ตามเรายังไม่สามารถไว้วางใจได้ ด้วยไม่รู้ว่าโรคนี้จะกลับมาระบาดแพร่อีกครั้งก็ได้ ดังนั้นการควบคุมก็ยังต้องดำเนินต่อไป แต่ถ้าควบคุมแล้วเศรษฐกิจไม่สามารถเดินต่อไปได้ แน่นอนว่าคนในประเทศก็ต้องปากกัดตีนถีบเลยทีเดียว ดังนั้นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 จึงต้องควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ ในบทความนี้ผมจะพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับเวทีแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติของไทยในระบบออนไลน์ ในชื่องาน “Multimedia Online Virtual Exhibition (Move)” “Multimedia Online Virtual Exhibition (Move)” ถือเป็นงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติของไทยในระบบออนไลน์ครั้งแรก และครั้งประวัติศาสตร์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้ากับสถานการณ์โลก โดยงานนี้เป็นการจัดแสดงสินค้าแบบออนไลน์เสมือนจริง มีทั้งการเจรจาทางธุรกิจ การนำสินค้ามาจัดแสดง มีพิธีเปิด ความพิเศษของงานก็คือ ผู้ชมสามารถเข้าชมผ่านระบบออนไลน์ได้เลย โดยจะมีกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย งานแสดงสินค้าและบริการด้านคอนเทนต์ เช่น ภาพยนตร์ แอนิเมชันเกม และมัลติมีเดียอื่น ๆ โดยงานล่าสุดที่จะจัดขึ้นมีชื่อว่า “Multimedia Online Virtual Exhibition (Move)” ในวันที่ 25 – 27 พฤษภาคม 2020 นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://move.ditp.go.th/login นะครับ ในมุมมองของผมคิดว่าตลาดออนไลน์ครั้งนี้ดีมาก ด้วยธุรกิจด้านคอนเทนต์กำลังมาแรง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้หลายประเทศออกนโยบายให้คนต้องอยู่บ้าน ด้วยเหตุนี้การเสพสื่อในระบบออนไลน์ และคอนเทนต์ด้านอื่น ๆ จึงมีความต้องการเป็นอย่างมาก อีกทั้งงานนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแสดงสินค้าและบริการแนวใหม่ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดีที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ในการทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยระบบออนไลน์ สำหรับเพื่อน ๆ นักอ่านที่สนใจอย่าลืมเข้าไป ลงทะเบียนได้ที่ https://move.ditp.go.th/login นะครับ รับรองเลยว่าได้ความรู้ และแนวคิดใหม่ ๆ จากงานแสดงสินค้าและบริการด้านคอนเทนต์เปิดมุมมองในโลกดิจิทัลมัลติมีเดียมากยิ่งขึ้นครับ ภาพประกอบที่ 1 และ 2 จาก move.ditp.go.th / ภาพประกอบที่ 3 Gerd Altmann จาก Pixabay / ภาพหน้าปกโดย ผู้เขียน