เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำ 9 สิ่งที่เราต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อให้ห่างภัยโควิด วันนี้จะพาทุกคนมาเตรียมตัวไปพร้อม ๆ กันพร้อมกับดูว่าแต่ละข้อยากแค่ไหนในการปรับตัว ข้อที่ 1 พยายามอยู่บ้าน ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น ความยากในการปรับตัว 5/5 ในกาทำงานหรือการเรียนในปัจจุบันอาจมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นระบบออนไลน์ โดยในช่วง Quarantine ที่ผ่านมานี้หลายคนคงรับรู้ถึงการทำงานหรือเรียนผ่านระบบออนไลน์แล้วว่า เหนื่อยกว่าการไปที่ทำงานหรือที่เรียนหลายเท่าตัว เพราะการทำงานที่บ้านหลุดโฟกัสได้ง่ายมาก ทั้งเสียงรบกวนจากคนอื่นที่อยู่ในบ้าน ภาระงานบ้านที่ต้องทำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่มีบรรยากาศกดดันอย่างในที่ทำงานหรือที่เรียนทำให้เราต้องใช้สมาธิและฝึกควบคุมตัวเองให้มากขึ้น การทำ To-do list จะช่วยให้เราทำงานตามแผนได้มากขึ้น และควรจัดบริเวณทำงานให้เป็นที่เป็นทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แน่นอนมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปพบปะผู้คน ทำให้ใครหลายคนรู้สึกเครียดเลยล่ะ รวมทั้งตัวผู้เขียนก็คิดถึงการไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ การทานอาหารบุฟเฟ่ต์กับเพื่อน การไปนั่งร้านกาแฟชิว ๆ การพยายามอยู่แต่บ้านจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดของ New Normal เลย ข้อที่ 2 ใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ เมื่อต้องออกบ้าน ความยากในการปรับตัว 3/5 การใส่หน้ากากปิดจมูกนาน ๆ อาจทำให้เราหายใจลำบาก และรู้สึกอึดอัดบ้าง จนทำให้บางคนไม่ชอบใส่หน้ากากปิดจมูก แต่จากมาตรการหลาย ๆ สถานที่ที่กำหนดให้ต้องสวมหน้ากากก่อนถึงจะสามารถเข้าสถานที่ได้ เช่น ตลาดสดแถวบ้านผู้เขียน ทำให้ชาวบ้านหลายคนต้องทำตามเพราะเป็นกฎ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีหากสังคมบังคับกัน การสวมหน้ากากปิดจมูกไม่ใช่สิ่งที่ยากนัก รวมถึงการพกเจลแอลกอฮอล์ ในปัจจุบันนั้นเจลหาซื้อได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากการผลิตที่เริ่มล้นตลาด (ไม่เหมือนกับหน้ากากอนามันทางการแพทย์) ราคาก็จะเริ่มถูกลง การเข้าถึงของประชาชนจะง่ายขึ้น การพกเจลจึงไม่ยากเท่าไหร่นัก รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ก็มีเจลแอลกอฮอล์วางให้เราสามารถกดใช้ได้ ข้อที่ 3 ใช้รถสาธารณะเมื่อจำเป็นเท่านั้น หลีกเลี่ยงช่วงเวลาแออัด ความยากในการปรับตัว 5/5 ข้อนี้จะลำบากมากในประชาชนที่ไม่มีรถประจำตัว เพราะยังไงก็ต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างรถเมล์ รถแท็กซี่ รถไฟฟ้า หรือวินมอเตอร์ไซค์ และยิ่งให้หลีกเลี่ยงในช่วงเวลาแออัด โดยส่วนใหญ่ช่วงเวลาแออัดก็คือก่อนเข้างานและหลังเลิกงาน ซึ่งทั้งวัยเรียนและวัยทำงานต่างก็ต้องใช้รถสาธารณะเหล่านี้ ดังนั้นก็ต้องหาทางปรับตัวกันไป เช่น ไปทำงานหรือกลับบ้านให้เร็วขึ้นหรือช้าลง หากใครพอมีกำลังทรัพย์ก็ควรจะมีรถส่วนตัวเพื่อความสบายใจในการดำเนินชีวิต ข้อที่ 4 ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ความยากในการปรับตัว 3/5 ความยากจะอยู่ที่ความเคยชิน เพราะหลาย ๆ ครั้งเราไม่ได้ล้างมือบ่อย แต่ New Normal นั้น หลังจากไปซื้อของก็ต้องล้างมือ หยิบจับของส่วนรวมก็ต้องล้างมือ ทำให้เราต้องคิดตลอดเวลา แต่เมื่อทำไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดเป็นความเคยชินในที่สุด ข้อที่ 5 ยืนห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตรเสมอ ความยากในการปรับตัว 2/5 หากเป็นคนแปลกหน้า เราก็มักยืนห่างกันอยู่แล้ว แต่จะมีความยากอย่างเช่น ยืนกับกลุ่มเพื่อน การยืนห่างกันก็จะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างแปลก (เหมือนกำลังโกรธกันเลยทีเดียว) แต่เราก็ต้องนึกไว้เสมอว่าส่วนใหญ่เชื้อโควิดก็ติดต่อจากคนที่สนิทกันแบบนี้แหละค่า ข้อที่ 6 หากต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ ควรนั่งหันข้าง ความยากในการปรับตัว 4/5 การนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แบบหันข้างจะทำให้เราอยู่ห่างจากคนขับมากขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรค ซึ่งในผู้หญิงก็คงมีประสบการณ์ในการนั่งหันข้างบ้าง แต่ในผู้ชายอาจจะต้องมาฝึกฝน ขอบอกเลยว่าถึงผู้เขียนจะเป็นผู้หญิงแต่การนั่งหันข้างก็ช่างท้าทายเหลือเกิน เพราะต้องทรงตัวให้รถสมดุล แล้วถ้ายิ่งถือของพะรุงพะรังคือความยากขั้นสุดเลยค่ะ ข้อที่ 7 กินอาหารปรุงสุกใหม่ ควรแยกสำรับอาหาร ความยากในการปรับตัว 3/5 หลาย ๆ คนมักจะซื้ออาหารตุนไว้ทีเดียว แล้วกินหลาย ๆ มื้อ การกินอาหารปรุงสุกใหม่อาจเป็นเรื่องยากที่เราต้องมาปรับตัว โดย อาจปรับมาทำอาหารทานเอง เป็นต้น และการกินอาหารร่วมกับครอบครัว บางครั้งเราก็ไม่มีช้อนกลาง หรือมีแต่ลืมใช้ การแยกสำรับอาหารก็เป็นสิ่งที่ต้องพยายามปรับตัวเช่นกัน ข้อที่ 8 แยกของใช้ส่วนตัว ไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น ความยากในการปรับตัว 4/5 ของใช้ส่วนตัวอย่างเช่นช้อนส้อม หรือจานในที่สาธารณะนั้นบางครั้งก็ไม่สะอาดเพียงพอ การต้องพกอุปกรณ์พวกนี้ไปเองอาจลำบากสำหรับหลาย ๆ คน รวมถึงการไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น อย่างพวกหลอดดูด แก้วน้ำ หรือช้อนส้อม ข้อที่ 9 เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบอาบน้ำทันที ความยากในการปรับตัว 4/5 การกลับถึงบ้านเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เพราะความเครียดจากการทำงานหรือการเดินทาง เราจึงมักจะนั่งพักผ่อนดูทีวีหรือเล่นมือถือเสียหน่อย บางครั้งก็อาจเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว การที่กลับมาถึงบ้านแล้วต้องอาบน้ำเลยก็จะค่อนข้างเหนื่อยเล็กน้อย แต่หากทำติดเป็นนิสัยแล้วก็จะไม่ยากเลยค่ะ การปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตแบบใหม่อาจต้องใช้เวลาค่อย ๆ ปรับไป หลาย ๆ ครั้งเราอาจมีลืมบ้าง ไม่ได้ทำบ้าง แต่อยากให้คิดไว้เสมอว่าเชื้อโรคอยู่ใกล้ตัวเรา เราอาจเป็นคนโชคร้ายที่ได้รับเชื้อ เมื่อเราติดเชื้อ เราก็จะแพร่ไปสู่คนที่เรารักได้ ดังนั้นการปรับตัวตามหลัก New Normal New “Me” คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ให้เราดำเนินชีวิตโดยห่างไกลโรคร้าย ขอบคุณ ความรู้เกี่ยวกับวิธีหนีโควิด จาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รูปภาพประกอบจาก pixabay (รูปปก / รูปประกอบที่ 1/ รูปประกอบที่ 2/ รูปประกอบที่ 3/ รูปประกอบที่ 4/ รูปประกอบที่ 5/ รูปประกอบที่ 6)