Covid-19 ถูกยกระดับให้กลายเป็นการระบาดใหญ่ระดับโลกหรือที่เรียกกันว่า”Pandemic” แล้ว pandemic แปลว่าอะไร? แล้วทำไมต้องเป็น ”Pandemic” มีคำตอบมาให้แล้วค่ะขอบคุณรูปภาพจากhttps://pixabay.com/th/มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลกโดยประกาศให้ covid-19 เป็นโรคระบาดระดับโลกหรือที่เรียกกันว่า”Pandemic” ดร. เทดรอส อัดฮานอม จีเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า เราจำเป็นต้องตัดสินใจให้ covid-19 จัดอยู่ในจำพวกโรคระบาดระดับโลกหรือที่เรียกว่า”Pandemic”จริง ๆ แล้ว ”Pandemic” แปลว่าอะไร? หลายคนให้ความหมายหลายอย่างกับ ”Pandemic” แต่ถ้าพูดกันง่าย ๆ ก็คือ ต้องเริ่มมาจากว่าโลกของเรามีคำหลายคำในการเรียกชื่อโรคระบาดเหล่านั้น โดยในระดับต่ำสุดคือ “Endemic” หรือโรคประจำถิ่นซึ่งมักจะเกิดเป็นประจำในบางชุมชนเท่านั้น แต่ถ้าโรคที่มีการขยายตัวจากพื้นที่หนึ่งไปยังพื้นที่หนึ่งทำให้มีคนป่วยจำนวนมากเรียกโรคเหล่านี้ว่า “Epidemic” หรือโรคระบาดนั่นเองซึ่งการระบาดนั่นคือการที่ระบาดจากภูมิภาคหนึ่งไปยังอีกภูมิภาค หรือการที่ระบาดจากประเทศหนึ่งไปยังประเทศหนึ่งที่ใกล้เคียง เช่นการระบาดของเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ปี 2013 แต่ ”Pandemic” หรือโรคระบาดใหญ่ระดับโลก องค์การอนามัยโลกระบุไว้ว่า เกิดขึ้นเมื่อโรคระบาดธรรมดากระจายไปยังทั่วโลกนอกจากนี้แล้วยังเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่โดยที่ยังไม่มีใครมีภูมิคุ้มกันมาก่อน การแพร่ระบาดข้ามชาติข้ามทวีปถือว่าเป็นโรคที่มีความอันตรายมาก โดยก่อนหน้านี้โลกเคยมีการประกาศ ”Pandemic” ไปแล้วหลายครั้ง เช่นไข้หวัดใหญ่สเปน ในปี 1918 ไข้หวัดใหญ่เอเชีย ในปี 1957 ไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง ในปี 1968 และล่าสุดในปี 2009 มีไข้หวัดหมูระบาดขึ้นมาในระดับโลกขอบคุณรูปภาพจากhttps://pixabay.com/th/Covid-19 ตรงตามความหมายของ ”Pandemic” ทุกประการไม่ว่าจะเป็น การเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ ถูกแพร่กระจายไปยังแต่ละทวีปของโลก แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่ถูกประกาศให้เป็นโรคระบาดใหญ่เนื่องจากว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นสามารถสืบสาวไปยังต้นทางได้ โดยชื่อที่ถูกตั้งขึ้นเป็นชื่อแรกหลังจากค้นพบเชื้อไวรัสก็คือ ไวรัสโคโรน่าหรือไวรัสโคโรน่า 7 นั่นเองขอบคุณรูปภาพจากhttps://pixabay.com/th/