บางวันเราก็มีความรู้สึกเบื่อชีวิต เบื่อการมีชีวิต เบื่อการใช้ชีวิตขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่อยากอยู่แล้ว อยากหายวับไปจากโลกนี้ เหงา ๆ เศร้า ๆ แต่จะให้ทำร้าย หรือฆ่าตัวตายก็คงไม่ทำหรอก ชีวิตมันก็ยังคงดีอยู่นี่นา เรายังคงมีบ้าน มีรถ แต่กับบางเวลาสิ่งที่มีอยู่มันดูห่วยแตกขึ้นมาซะอย่างนั้น อีกทั้งสถานการณ์รอบข้างเราในปัจจุบัน ไวรัสยังระบาด บางคนยังตกงาน บางบริษัทต้องปิดกิจการ บางคนได้รับวัคซีนครบแล้วจะบูทเข็มสาม เข็มสี่ ส่วนบางคนยังไม่ได้สักเข็ม บางคนอาจกำลังรอวัคซีนทางเลือก รอ และยังคงรออยู่ คงใกล้ถึงคิวแล้วรออีกนิด ชีวิตดูหม่นหมอง ทางเดินดูจะยาวไกลไม่รู้เมื่อไหร่จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ดูเหมือนชีวิตที่มีอยู่ตอนนี้มันจะอยู่ต่อไปก็ได้หรือจะตายไปเสียเลยก็คงไม่เป็นไรด้วยเหตุผลนานับประการทำให้รู้สึกชินชาจนไม่อยากสนใจใยดีต่อการมีชีวิตอยู่รู้สึกกล้าที่จะเผชิญกับความตาย หากความตายจะเดินมาถึงตัวในเวลาอันใกล้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับร่างไร้จิตวิญญาณของคุณหลังนั้น ความรู้สึกนี้วนเวียนมาทักทายอยู่เสมอ จนบางครั้งจินตนาการถึงขนาดอยากหายวับไปจากโลกนี้เสียเลย Passive Death Wish หรืออยู่ก็ได้ ตายก็ไม่เป็นไร หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้มาแล้ว เพราะไม่ใช่คำใหม่ที่เพิ่งบัญญัติขึ้นบนโลกใบนี้ Passive Death Wish เป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติ การให้คุณค่ากับตัวเอง คนที่มีอาการนี้จะรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ ลึก ๆ แล้วเกลียดตัวเองเสียด้วยซ้ำ ไม่ร้ายแรงถึงขนาดต้องการทำร้ายหรือฆ่าตัวเองให้ตาย แต่ก็ไม่ยี่หระกับความตายที่อาจจะเกิดขึ้น อาการที่ใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย จึงกลายเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ และมักจินตนาการเรื่องความตายของตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ นั่งดูข่าวอุบัติเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ก็นึกไปว่าตัวเองน่าจะตายด้วยอุบัติเหตุนั้นเสียเองจะรับมืออย่างไร หากคุณเกิดอาการ Passive death wish มาทักทาย การให้ความสำคัญกับตัวเองสำคัญที่สุด ทุกคนที่เกิดมาต่างเป็นปัจเจก และมีคุณค่าในตัวเอง จงหาความสุขให้กับตัวเองด้วยหลักคิดเรียบง่าย เริ่มจากสิ่งรอบตัว กอดสัตว์เลี้ยง จูงออกไปเดินรับลมนอกบ้าน การหาเป้าหมายใหม่ให้กับชีวิตของคุณ ดินทางท่องเที่ยวบ้าง และปรับความคิดกับทุกสิ่งให้เป็นแง่บวก มันง่าย ๆ แบบนี้เลย เราทุกคนไม่อยากจมอยู่กับสิ่งที่บั่นทอน เซาะกร่อน ความสุขของเรานาน ๆ หรอกจริงไหมหากทำอย่างไรก็ไม่หลุดจากอาการนี้เสียที มันรบกวนการใช้ชีวิตของคุณมากขึ้น และนานขึ้นทุกวัน สำคัญมากคือคุณต้องตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ การบำบัดเริ่มจากการพูดคุยกับใครสักคนที่ไว้ใจได้และยอมรับฟังคุณ อย่าอยู่คนเดียวนานเกินไป หากยังคงไม่ดีขึ้นการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อวินิจฉัยอาการและเข้ารับการบำบัดที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะ Passive death wish มันอาจพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าที่ร้ายกาจกว่าได้ สุดท้ายขอบอกกับทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม หากคุณกำลังตกอยู่ในวังวนของการ "อยู่ก็ได้ ตายก็ไม่เป็นไร" ขอให้คุณตระหนักไว้เสมอว่าคนทุกคนเกิดมาพร้อมความพิเศษ เป็นคนสำคัญโดยเฉพาะกับคนที่คุณรัก และคนที่รักคุณ คุณนี่แหละมีหนึ่งเดียวในโลกไม่มีใครมาทดแทนได้ แค่เพียงคุณใช้ชีวิตแบบไม่เบียดเบียนใคร เพียงคุณไม่ทิ้งขยะลงพื้นถนน คุณไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก้เพื่อนบ้าน คุณมักจะให้คำปรึกษาที่ดีกับใครต่อใครเสมอ คุณดูแลหมา แมวของคุณอย่างดี อาจดูเล็กน้อยแต่นี่ทำให้การมีชีวิตของของคุณเป็นประโยชน์ และมีความหมายมากเพียงพอที่จะอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้นานเท่าที่มันควรจะเป็น บทความโดย : Butr Club เครดิตภาพประกอบ : Pixabay ภาพปก จาก Usinglightภาพที่ 1 จาก Engin_Akyurtภาพที่ 2 จาก Engin_Akyurtภาพที่ 3 จาก Simedblackภาพที่ 4 จาก Seaq68ภาพที่ 5 จาก nikolapeskova เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !