สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้หลายๆ คนคงพบเห็นท้องฟ้าสีหม่นซึ่งบางคนอาจเข้าใจว่าเป็นหมอกควันแต่จริงๆ แล้วหมอกที่เราเห็นนั้นคือฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กระจายอยู่เป็นมลพิษทางอากาศที่ร้ายแรง ซึ่งปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาระดับประเทศที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งฝุ่นเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายๆ คนคงสงสัยว่าทำไมฝุ่นชนิดนี้มีอันตรายและส่งผลเสียมากมาย ดังนั้นเราควรจะมาทำความรู้จักกับเจ้าฝุ่น PM 2.5 ว่ามันคืออะไร รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพและวิธีป้องกันกันดีกว่านะคะ ขอบคุณรูปภาพจาก :https://www.freepik.com/premium-vector/woman-is-wearing-mask-protect-outdoor-air-pollution_6296015.htm#page=2&query=dust+pollution&position=49 PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เทียบได้ว่ามีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ ซึ่งถือว่าเล็กมากเล็กจนขนจมูกของมนุษย์ที่ทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถกรองได้ จึงแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และเข้าสู่อวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้ และที่สำคัญตัวฝุ่นนั้นเป็นพาหะนำสารอื่นเข้ามาด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก และสารก่อมะเร็งอื่นๆ ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/global-warming-environment_673235.htm สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 มี 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.แหล่งกำเนิดโดยตรง ได้แก่ -การเผาในที่โล่ง ปล่อย PM2.5 มากที่สุดถึง 209,937 ตันต่อปี -การคมนาคมขนส่ง ปล่อย PM2.5 ราว 50,240 ตันต่อปี -การผลิตไฟฟ้า ปล่อย PM2.5 ราว 31,793 ตันต่อปี -อุตสาหกรรมการผลิต ปล่อย PM2.5 ราว 65,140 ตันต่อปี 2.การรวมตัวของก๊าซอื่นๆ ในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) รวมทั้งสารพิษอื่นๆ ที่ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่น สารปรอท (Hg), แคดเมียม (Cd), อาร์เซนิก (As) หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ขอบคุณรูปภาพจาก :https://www.pexels.com/th-th/photo/221000/ อันตรายและผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจาก PM2.5 ร่างกายของคนเรามีภูมิต้านทานที่ต่างกัน ผู้ที่มีภูมิต้านทานน้อยเมื่อสูดดมฝุ่นเหล่านี้เข้าไปอาจจะแสดงอาการผิดปกติได้ทันที แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานสูงอาจจะยังไม่แสดงอาการผิดปกติแต่หากได้รับติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือสะสมในร่างกายก็จะมีผลกระทบภายหลังได้ค่ะ ซึ่งผลกระทบ มีดังนี้ ผลกระทบทางสุขภาพ -เกิดโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง -เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง -เกิดโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอด -เกิดอาการไอ จาม หรือภูมิแพ้ -เกิดโรคสมอง อาทิเช่น มีสติปัญญาด้อยลง,การพัฒนาการช้าลง,มีปัญหาการได้ยินและการพูด,สมาธิสั้นและภาวะออทิซึม เพิ่มมากขึ้นถึง 68% ผลกระทบทางผิวหนัง -มีผื่นคันตามตัว -ปวดแสบปวดร้อน มีอาการระคายเคือง -เป็นลมพิษ บริเวณใบหน้า ข้อพับ ขาหนีบ -ทำร้ายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวอ่อนแอ เหี่ยวย่นง่าย ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/man-wearing-mask-protect-fine-dust-air-pollution-environment_4666810.htm#page=1&query=dust pollution&position=10 วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 1) ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกข้างนอกบ้าน หรือที่โล่งแจ้ง โดยหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นชนิดนี้ได้ดี คือ หน้ากาก N95 2) หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง 3) อย่าชะล่าใจแม้ในบ้านหรือในรถยนต์ฝุ่นก็สามารถเข้ามาได้ ดังนั้นควรใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อความปลอดภัย 4) หากมีอาการผิดปกติที่คาดว่าจะเกิดจากฝุ่นละออง PM 2.5 ควรพบแพทย์ทันที 5) สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรพวกยาประจำตัวติดไว้ 6) รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีส่วนช่วยในการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 เช่นวิตามินซีหรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/premium-vector/boy-wearing-mask-protect-pollution_6347975.htm#page=2&query=dust+pollution&position=18 สุดท้ายนี้หวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพที่แข็งแรงปลอดภัยและใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากฝุ่นละอองตัวร้ายอย่าง PM 2.5 กันนะคะ