PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หากนึกภาพไม่ออกว่าเล็กขนาดไหนให้ลองนึกภาพตามว่า ถ้าเอาเส้นผมของคนเรามาหนึ่งเส้นแล้วแบ่งออกเป็น 100 ส่วนเท่าๆ กัน ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดประมาณ 3% นั่นคือมีขนาดเล็กมากและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์ ด้วยขนาดที่เล็กมากจึงทำให้มีสภาพแขวนลอยอยู่ในอากาศนานกว่าฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ ฝุ่น PM 2.5 ไม่สามารถตกลงสู่พื้นดินหรือพื้นน้ำได้เองในระยะเวลาอันสั้น จึงพบฝุ่น PM 2.5 ได้ในระยะไกลจากแหล่งกำเนิดต้นทางจากการพัดพาของลม หลังจากนั้นบางส่วนอาจสูญเสียสภาพแขวนลอยในอากาศได้ จะเห็นภาพได้ชัดในกรณีที่มีฝนตก ลักษณะเช่นนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดฝนกรดในบางพื้นที่การเกิดผลกระทบต่อสุขภาพจะเริ่มจากการสูดหายใจเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในร่างกาย โดยสามารถเข้าสู่ได้ทางจมูก ลำคอ จนกระทั่งแทรกซึมเข้าสู่ปอด และบางส่วนมีความสามารถซึมผ่านเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดได้ ฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ถ้ามีปริมาณที่สูงในอากาศ เมื่อมีปริมาณความเข้มข้นที่สูงจะทำให้สามารถสังเกตเห็นเป็นกลุ่มหมอกควันโดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศสงบนิ่ง ไม่มีลม หรือในวันที่สภาพอากาศแปรปรวนก็ได้เช่นเดียวกัน ฝุ่น PM 2.5 มาจากแหล่งกำเนิดที่หลากหลายแหล่ง หากมองไปโดยรอบในชีวิตประจำวันของเราก็สามารถพบได้ง่ายๆ ได้แก่ จากไอเสียของยานพาหนะต่างๆ รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน แหล่งก่อสร้าง ถนน จากไฟป่า การเผาในทางการเกษตร กิจกรรมปิ้งย่าง พายุฝุ่น ปล่องควันจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น จึงทำให้ฝุ่น PM 2.5 มีได้หลากหลายรูปแบบหลายรูปร่างและต่างชนิดของสารประกอบทางเคมี ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของฝุ่น PM 2.5 ทำให้แหล่งน้ำมีสภาพความเป็นกรดด่างมากขึ้นซึ่งส่งผลโดยตรงกับสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำนั้น ทำให้ธาตุอาหารในดินเปลี่ยนแปลง ทำให้ป่าไม้หรือพืชในทางการเกษตรได้รับความเสียหาย เกิดคราบและทำลายหินรวมไปถึงวัสดุชนิดอื่นๆ การป้องกันตัวเองจาก PM 2.5 ยึดหลักการลดการสัมผัส เช่น ลดกิจกรรมกลางแจ้งในแหล่งที่มีฝุ่น PM 2.5 เข้มข้นสูง ติดตั้งเครื่องกรองอากาศในรถยนต์ ปิดประตูหน้าต่างอาคารบ้านเรือน สวมหน้ากากที่มีความคุณภาพสูง เช่น N95 ขอบคุณภาพประกอบจาก:ภาพปก: PM/ภาพที่1:PM1/ภาพที่2:PM2/ภาพที่3:PM3/ภาพที่4:PM4/ภาพที่5:PM5