ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อเหลือเกินว่ามีหลายคนเลือกซื้ออาหารลดราคาจากไฮเปอร์มาร์เก็ตเข้าบ้าน แทนการซื้ออาหารในราคาเต็ม วิถีของคนกลุ่มนี้คือรออาหารสำเร็จรูปพร้อมทานลดราคาในเวลาประจำของไฮเปอร์มาร์เก็ตนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนปิดทำการ บางคนจะเดินตรงไปยังชั้นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดราคาก่อน เพื่อดูว่ามีสิ่งไหนที่ตัวเองสามารถนำมากินหรือมาใช้ได้ หากใครที่สามารถทำอาหารเองได้ก็จะมีทางเลือกในการซื้ออาหารสดลดราคาเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ลักษณะพิเศษที่พบในคนกลุ่มนี้คือจะมีทัศนคติเปิดกว้างให้กับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ด้วยเพราะสินค้าลดราคาเหล่านั้นเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาหารลดราคาไม่ใช่อาหารที่หมดอายุหรือเก่าจนต้องทิ้ง แต่เป็นเกณฑ์กำหนดช่วงระยะเวลาการวางจำหน่ายสินค้าประเภทนั้น ๆ ตามที่มีการตกลงกันไว้ ในต่างประเทศมีการตื่นตัวกับ Reduce Food Waste เป็นเทรนด์การจัดการกับอาหารประเภทอาหารที่หมดอายุหรือใกล้จะหมดอายุแต่ยังมีคุณภาพดีอยู่ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดขยะที่เกินความจำเป็นในโลกของเรา หากมองให้ลึกลงไปกว่าการแก้ปัญหาขยะล้นโลก นี่ถือเป็นโอกาสอันดี ที่กลุ่มผู้ซื้อซึ่งมีงบประมาณน้อยหรือกลุ่มที่ชอบสินค้าลดราคาจะมีโอกาสได้เข้าถึงสินค้าราคาสูงจากแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมทั้งหลาย อาธิ สินค้ากลุ่มออร์แกนิคหรือเกษตรอินทรีย์ ไฮโดรโปนิกส์ ผลไม้นำเข้า ฯลฯ สำหรับบทความนี้ดิฉันจะนำเสนอการ Reduce Food Waste at Home โดยนำผักสดลดราคาจากห้างบิ๊กซี สาขาศรีสะเกษ ซึ่งเป็น ผักโขมขาว ไฮโดรโปนิกส์ น้ำหนักสุทธิ 200 กรัม/แพ็ค ผลิตโดย บริษัทโกลด์เด้น สปอต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาแปลงเป็นเมนูหรูหราอันเป็นของโปรดของทุกเพศทุกวัยอย่าง 'ผักโขมอบชีส' ภาพด้านบน จะเห็นว่าผักแพ็คนี้ผ่านการลดราคามาแล้ว 2 ครั้ง คือ จากราคาขาย 35 บาท ลดเหลือ 26.25 บาท และลดราคาอีกครั้งเหลือ 17.50 บาท หรือลดราคาลงครึ่งหนึ่งของราคาขาย ดิฉันตัดสินใจซื้อมา 2 แพ็ค ราคาแพ็คละ 17.50 บาท รวมเป็น 35 บาท หรือจะมองในด้านการตลาด การจ่ายราคานี้ก็เปรียบเสมือนกับการ ซื้อ 1 แถม 1 นั่นเองค่ะคุณ ลองนึกเทียบกันดูนะคะว่าระหว่าง ผักโขมขาวผัดน้ำมันหอย กับ ผักโขมขาวอบชีส อย่างไหนดูเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผักลดราคามากกว่ากัน แม้จะมีค่าใช้จ่ายของเครื่องปรุงและวัตถุดิบเพิ่มเข้ามา แต่เมื่อนับจากต้นทุนถัวเฉลี่ยแล้วราคาก็ไม่ถึงร้อยอยู่ดีค่ะ อันดับแรก เรามาจัดการผักโขมขาวกันก่อนค่ะคุณ 1. ดิฉันตัดเอาส่วนก้านออกตามภาพด้านล่าง เราจะใช้เฉพาะส่วนลำต้นที่ติดใบเท่านั้น 2. นำไปต้มในน้ำเดือด 5 นาที แล้วตักขึ้นมาน็อคน้ำแข็ง เพื่อให้สีของผักยังคงสดอยู่ 3. บีบน้ำออกจากผักให้มากที่สุด 4. สับผักโขมแบบหยาบ ๆ ดิฉันมีตัวอย่างของ ผักโขมเขียวแช่แข็งสับ และ ผักโขมขาวสด ต้ม สับ มาฝากตามภาพด้านล่างค่ะ ส่วนประกอบเมนู ผักโขมขาวอบชีส ผักโขมต้มสับ 1 ถ้วยตวง (จากผักโขมขาว 2 แพ็ค) วิปปิ้งครีม (ในที่นี้ดิฉันจะเรียกสั้น ๆ ว่า 'ครีม' นะคะ) ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์อะไรก็ได้) พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา เกลือหิมาลายัน 1+1/2 ช้อนชา (หากเป็นเกลือป่นธรรมดา ใช้เพียง 3/4 ช้อนชาก็พอ เนื่องจากเกลือหิมาลายันนั้นมีความเค็มน้อยกว่า) มอสซาเรลล่าชีสขูด ปริมาณตามชอบ ขั้นตอนการทำ 1. ใส่ผักโขมสับ ครีม ไข่ พริกไทยดำป่น เกลือหิมาลายัน ลงในกระทะ 2. ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน กวนพอให้ไข่สุก ไม่ต้องกวนจนทุกอย่างแห้ง เพราะเวลานำมาอบจะไม่มีความฉ่ำ 3. ตักใส่ถ้วยเซรามิกหรือภาชนะที่นำเข้าเตาอบได้ หากอยากได้หน้าชีสมากและชั้นผักไม่หนาก็เลือกภาชนะที่แบนกว้าง หากอยากได้หน้าชีสหนาและชั้นผักหนาก็เลือกภาชนะทรงลึกที่หน้าแคบ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณผักที่จะใส่) 4. ใช้ช้อนกดให้ผิวหน้าแบนเรียบเสมอกัน 5. โรยมอสซาเรลล่าชีสขูดในปริมาณตามชอบ 6. เกลี่ยชีสปิดหน้าผักให้ทั่ว 7. นำเข้าเตาอบ ใช้ไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที อาจใช้เวลามากหรือน้อยกว่านี้ตามยี่ห้อของชีสที่ใช้ ความจุของเตาอบ และความสูงของภาชนะ 8. หลังจากอบเสร็จ ดิฉันโรยหน้าด้วยออริกาโนเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมค่ะคุณ หากใครทานไม่หมดสามารถเก็บเข้าตู้เย็นไว้ เมื่อจะทานให้นำเข้าไมโครเวฟสัก 3-5 นาที ก็จะได้ผักโขมอบชีสร้อน ๆ ที่ชีสยืด ๆ หอม ๆ พร้อมทานอีกรอบค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ ดิฉันยังมีบทความเกี่ยวกับเทรนด์ Reduce Food Waste at Home อีกหลายบทความ ยังไงฝากกดติดตามกันด้วยนะคะ ไว้เจอกันบทความหน้า รักนะคะ บาย เครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน) ผู้ผลิตสินค้า : บริษัท โกลด์เด้น สปอต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 998 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองไผ่แก้ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี 20220 โทรศัพท์ 038-160428 แฟกซ์ 038-160427