ปัจจุบันเทคโนโลยีต่าง ๆ นั้นก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก รวมไปถึงหุ่นยนต์ต่าง ๆ เช่นกัน ในวันนี้เราเลยอยากมาแนะนำทุก ๆ ท่านเกี่ยวกับวิศวกรรมชีวการแพทย์ หรือ Rehabilitation engineering ซึ่งสามารถสร้างอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สามารถช่วยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต รวมไปถึงผู้ป่วยในกลุ่ม cognitive function เช่น ผู้ป่วยพาร์กินสัน เป็นต้น ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันใกล้เคียงกับผู้คนทั่วไปได้ ซึ่งอาจเปรียบเป็นการมอบโอกาสใหม่ให้แก่ผู้ป่วยได้เลยทีเดียว จึงทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นRehabilitation engineering คืออะไร? โดยหลักการคือการส่งเสริมบุคคลที่ไม่สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันจากภาวะหรือโรคต่าง ๆ ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและลดภาวะพึ่งพิงได้ จึงทำให้เกิดเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนผู้ป่วยภาวะต่าง ๆ เช่น ผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากอุบัติเหตุ ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบที่กระดูกไขสันหลัง ผู้ป่วยที่ต้องรับการกายภาพบำบัด ซึ่งต้องได้รับการกายภาพบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญหรือบุคลากรทางการแพทย์ในทุก ๆ วัน ก่อให้เกิดความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ในด้านนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความท้าทายในการผลิต rehabilitation robotic ขึ้น ซึ่งหุ่นยนต์นี้สามารถช่วยกายภาพบำบัดผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวแทนมนุษย์ได้ หรือ virtual rehabilitation ซึ่งเป็นเครื่องจำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือนเพื่อให้ผู้ป่วยฝึกการเคลื่อนไหว มีข้อดีคือผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยแพทย์สามารถติดตามหรือดูแลผู้ป่วยผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้เลย จึงเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาได้นั่นเองนอกจากนี้ในผู้ป่วยพิการที่ต้องใช้ขาเทียม โดยปกติแล้วจะมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมือนเดิม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ป่วยไม่สามารถรับรู้ได้ถึงผิวสัมผัสที่เท้าได้ จึงนำมาสู่การพัฒนา physical prosthetics เช่น smarter artificial legs ซี่งเป็นขาเทียมที่ส่งสัญญาณดิจิทัลและมี censor บริเวณพื้นรองเท้าที่จะส่งสัญญาน wifi มายังขา ซึ่งมีเข็มเล็ก ๆ ฝังใต้ผิวหนังอยู่ ส่งผลให้ผู้ป่วยทราบได้ว่าเท้ากำลังสัมผัสพื้นอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามนอกจากผู้ป่วยแล้ว neural และ rehabilitation engineering ยังสามารถลดการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวในการทำงานได้ เช่น พยาบาลที่ต้องยกตัวผู้ป่วย การยกของหนัก การเดินลาดตระเวนระยะไกลของทหาร การทำงานที่ต้องอยู่ท่าเดิมนาน ๆ เป็นต้น ซึ่งเรียกว่า occupitional exoskeleton ในอนาคต เรามีความเห็นว่านวัตกรรมเหล่านี้อาจนำไปสู่ด้านอื่นนอกจากการช่วยเหลือผู้ป่วย เช่น การใช้หุ่นยนต์ที่เป็น occupitional exoskeleton มาช่วยกลุ่มแรงงานในการก่อสร้าง ทำให้ลดจำนวนคนที่ต้องใช้และสามารถลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ การใช้หุ่นยนต์ช่วยเหลือกู้ภัยหรือนักดับเพลิงในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม สึนามิ แผ่นดินไหว หรืออาจเป็น physical prosthetics ที่พัฒนาจนสามารถแทนที่ขาเทียม แขนเทียมซึ่งมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับอวัยวะเดิมเกือบ 100% หรืออาจเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกควบคุมผ่านสมองมนุษย์แทนระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำหลาย ๆ ครั้ง เป็นต้นขอขอบคุณรูปปกจาก Counselling Pixabayรูปประกอบที่ 1 จาก Sandro Gatillo รูปกระกอบที่ 2 จาก Pexels Pixabayรูปกระกอบที่ 3 จาก Pexels Pixabay