ว่ากันว่าการอยู่คนเดียวอาจทำให้สัตว์สังคมอย่างมนุษย์เราคิดฟุ้งซ่านจนเป็นบ้าได้ แล้วจะเป็นได้หนักขนาดไหนหากเราต้องอาศัยอยู่ในเมืองที่ไร้ซึ่งผู้คน มีแค่สุนัขเพียงตัวเดียวที่มันก็พูดไม่ได้คอยเป็นเพื่อน ซึ่งถ้าเป็นผมบอกเลยว่าผมคงจะทนไม่ไหว ถ้าไม่ฆ่าตัวตายก็คงสติแตกแน่ ๆ แต่สำหรับ โรเบิร์ต เนวิลล์ ในภาพยนตร์เรื่อง I am Legend (ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ) ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างที่ผมเกริ่นไปด้านบนนั้น สิ่งที่เขาต้องเผชิญนอกจากความอ้างว้างจนจะเป็นบ้าแล้วยังมีความสิ้นหวังและอันตรายจากอะไรบางอย่างอีกด้วย เปิดเรื่องมาคือจะเป็นภาพข่าวในทีวีที่กำลังนำเสนอข่าว ดร.อลิส คลิปปิน กำลังให้สัมภาษณ์ว่าเธอค้นพบไวรัสตัวหนึ่งที่สามารถรักษาโรคมะเร็งและได้นำมาทดลองกับคนได้สำเร็จ หลังจากนั้นหนังก็ตัดภาพมาที่ 3 ปีต่อมาที่มีแค่พระเอกกับหมาใช้ชีวิตด้วยกันในเมืองร้างแห่งหนึ่ง เล่าแค่นี้ผู้อ่านบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดหรือเปล่า? คำตอบคือไม่ใช่นะครับ เพราะการใช้ชีวิตและการเอาตัวรอดของพระเอกหนังจะเล่าให้เราเห็นแค่ช่วงต้น ๆ เท่านั้น เพื่อให้เราเห็นว่าโรเบิร์ตและหมาของเขาทำอะไรบ้างในแต่ละวัน หลังจากนั้นหนังจะค่อย ๆ เล่าให้เราเห็นว่าพระเอกเป็นใคร รู้ว่าเขาพยายามทดลองและคิดค้นยารักษาอะไรบางอย่าง ซึ่งหากดูไปเรื่อย ๆ เราจะเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทีละนิด ๆ ทั้งสาเหตุที่ทำให้มหานครนิวยอร์คอันแสนรุ่งเรืองกลับกลายเป็นเมืองร้างภายในเวลาแค่ 3 ปี และทำไมพระเอกถึงยังคงมีชีวิตรอด โดยหนังมันไม่ได้บอกเราตรง ๆ นะครับ ไม่ได้มีใครมาอธิบายหรือสรุปเรื่องราวให้เราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เราจะเข้าใจทุกอย่างจากการคาดเดาและปะติดปะต่อทุกอย่างด้วยตัวเอง สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้สามารถดึงผมให้สามารถติดตามไปได้จนจบ โดยไม่กดปิดไปเสียก่อน ทั้งที่เนื้อหาและการดำเนินเรื่องกว่าจะไปถึงจุดที่เริ่มตื่นเต้นก็ปาเอาไปเกือบค่อนเรื่องแล้วนั้น น่าจะเป็นเสน่ห์ของนักแสดงนำอย่าง วิลล์ สมิธ ที่เล่นได้ดีมาก สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครที่มีทั้งความเบื่อ มีความหวังและสิ้นหวังในคราวเดียวกัน สับสน เหงาและบางทีก็เหมือนบ้าไปแล้วด้วย เราจะค่อย ๆ ดำดิ่งไปตามอารมณ์และความนึกคิดของพระเอกทีละนิดและพอถึงจุดที่เขาตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเราก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น I am Legend (ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ) เป็นหนังเก่าฉายตั้งแต่ปี 2007 หรือก็ประมาณ 13 ปีที่แล้ว เนื้อหาของหนังเรื่องนี้อาจจะคิดว่าไม่ค่อยมีอะไรเพราะหนังเกือบทั้งเรื่องมีแค่พระเอกกับหมาแทบจะไม่มีตัวละครอื่น ๆ เลย แต่หนังก็ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินและอยากติดตามไปเรื่อย ๆ ดูแล้วไม่น่าเบื่อส่วนเรื่องของ CG นั้น พยายามมองข้ามไปหน่อยก็แล้วกันครับ เพราะด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้นก็ทำได้ประมาณนี้แหละซึ่งก็ไม่ได้แย่นะครับ เพียงแต่ไม่ได้ว้าวหรือดีมากอะไร เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วผมว่าสนุกดีครับ ส่วนตอนจบนั้นจะเป็นยังไงเพื่อน ๆ ลองไปติดตามดูกันต่อได้ที่ Netflix ผ่านกล่อง True ID ได้เลย มีพากย์ไทยด้วยครับ ขอบคุณภาพจาก Netflix และ I AM Legend