*เนื้อหาของบทความไม่มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องภาพยนตร์แต่อย่างใดเมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้มีโอกาสหยิบเอาหนังเรื่อง Love, Simon กลับมาดูอีกครั้ง ความประทับใจแรกเป็นอย่างไร ความประทับใจที่สองก็ละมุนและทำให้ยิ้มกรุ่นได้เหมือนเดิม นอกจากนั้นยังมองเห็นข้อคิดดี ๆ มากมายในหนังจนอยากแชร์และชักชวนให้ทุกคนไปดูกันแม้จะนิยามตัวเองว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นแบบโรแมนติกคอมเมดี้ แต่ตัวหนังยังนำเสนอภาพการเติบโตรวมถึงปัญหาที่วัยรุ่นคนหนึ่งอาจต้องเผชิญในชีวิตมัธยมได้อย่างครบถ้วน Love, Simon เลยไม่ได้เหมาะแค่กับเด็กวัยรุ่นเท่านั้น แต่เป็นหนัง Coming of age ที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่และผู้ปกครองซึ่งลูกกำลังอยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อด้วย เพราะหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าใจลูก ๆ และเปิดใจมากขึ้นLove, Simon หรือชื่อภาษาไทยคือ อีเมลลับฉบับไซม่อน เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มไฮสคูล “ไซม่อน” (รับบทโดย Nick Robinson จาก Jurassic World) มองผิวเผินไซม่อนเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง อยู่ในครอบครัวที่ดี และมีเพื่อนสนิทที่น่ารัก แต่ภายใต้ความปกติสุขทุกอย่างที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งจะมีได้ ไซม่อนปิดบังความลับข้อหนึ่งไว้...เขาเป็นเกย์จุดเปลี่ยนของทุกอย่างคือวันที่มีบล็อกหนึ่งถูกเขียนขึ้น “บลู” เด็กหนุ่มปริศนาคนหนึ่งในโรงเรียนเดียวกับเขาเปิดตัวว่าเป็นเกย์ นั่นคือครั้งแรกที่ไซม่อนรู้สึกว่าเจอใครที่เหมือนกับตัวเอง เขาตัดสินใจส่งอีเมลหาไปหาบลู แล้วทั้งสองก็เริ่มต้นแลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตและความลับที่ต้องปกปิดกับคนรอบตัว ความรู้สึกดี ๆ กำลังก่อตัวจนกระทั่งเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งเห็นอีเมลลับเหล่านั้น ไซม่อนเลยต้องวุ่นวายปกป้องความลับของตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับการค้นหาว่าบลูคือใครกันแน่ในโรงเรียนแห่งนี้ เพราะดูเหมือนไซม่อนจะมีความรักเข้าซะแล้วตลอดเรื่องจะมีเกร็ดความรู้จิตวิยาสอดแทรกไว้อย่างแนบเนียน ต้องยกความดีความชอบให้ Becky Albertalli นักเขียนเจ้าของหนังสือ Simon vs. the homo sapiens agenda ต้นเรื่องของหนังเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นนักจิตวิทยาคลินิกผู้เชี่ยวชาญด้านวัยรุ่นโดยเฉพาะ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Love, Simon จะนำเสนอหลากหลายปัญหาของวัยรุ่นเท่าที่คุณจะคิดออก ทั้งการถูกกลั่นแกล้งหรือล้อเลียนในโรงเรียน การทะเลาะกับเพื่อน ความไม่เข้าใจจากคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือครู ปัญหายอดฮิตอย่างเรื่องความรัก หรือแม้แต่การไม่เข้าใจตัวเองของวัยรุ่น ทุกเรื่องราวปัญหาที่ไซม่อนต้องเผชิญถูกร้อยเรียงแบบย่อยง่าย และไม่ลืมที่จะแอบสอดแทรกวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นเข้าไปด้วยอย่างเนียน ๆหนังเรื่องนี้เป็นหนังฟีลกู๊ดมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่ง มีความคอมเมดี้ให้อมยิ้มได้ ฉากอารมณ์ก็บีบหัวใจ คงทัชความรู้สึกหลาย ๆ คน (โดยเฉพาะคนมีประสบการณ์ตรง) ตัวละครแต่ละตัวก็โดดเด่นน่าสนใจในตัวเอง ซึ่งนักแสดงทุกคนก็ถ่ายทอดคาร์แร็กเตอร์ออกมาได้ดีและน่ารักมาก โดยเฉพาะตัวเอกอย่างไซม่อน หนังดำเนินเรื่องเร็วไม่ทิ้งช่วงให้ผู้ชมเบื่อเลย และด้วยความที่เป็นหนังรักของเด็กหนุ่มที่ต้องปกปิดความชอบของตัวเอง มันจึงไม่ใช่หนังรักจ๋า ๆ ที่หวือหวาและเน้นเพียงแค่เรื่องของคู่รักเหมือนหนังรักเรื่องอื่น แต่เป็นการเล่าเรื่องราวความรักในแต่ละบริบทของไซม่อน ที่พยายามมองว่าตัวเองไม่แตกต่างจากคนอื่น ๆ แค่เพราะรสนิยมทางเพศที่แตกต่าง (I’m just like you ประโยคเด็ดของหนังเรื่องนี้) ทั้งความรักความเข้าใจในครอบครัว มิตรภาพความรักระหว่างเพื่อน และความรักดี ๆ ที่เขาคู่ควรได้รับเช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศทั่วไปหากคุณมีเวลาว่างซักสองชั่วโมง... แล้วอย่างลองดูหนังรักดี ๆ ซักเรื่อง Love, Simon เป็นหนึ่งในตัวเลือกดี ๆ เหล่านั้นแน่นอน แล้วคุณจะได้เสพหนังที่เป็นมากกว่าหนังรักที่ทำให้หัวใจเต้นแรง Tip : สำหรับสายอ่านทั้งหลายที่อยากอ่านหนังสือมากกว่าดูหนัง Simon vs. the homo sapiens agenda ได้แปลเป็นหนังสือภาษาไทยในชื่อ “อีเมลลับฉบับไซม่อน” ของสำนักพิมพ์ TAISEI BOOKS ใครที่ดูหนังแล้วอยากลองอ่านหนังสือก็ได้ความสนุกอีกแบบเหมือนกันนะ ขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก 20th Century Studios : Love, Simonและ Love, Simon : official Trailer >> https://youtu.be/ykHeGtN4m94