ปัญหาสิวนี่คงเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน รวมถึงผมด้วย บ่อยครั้งที่ก่อความรำคาญใจ ทำให้เราไม่มั่นใจ และอาจทำให้เราเสียโอกาสบางอย่างได้เลยนะครับ เช่น ถ้าเราอยากสมัครงานที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ที่ดูดี การมีสิวบนใบหน้านั้นก็อาจทำให้เราพลาดโอกาสได้งานเลยทีเดียว ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามรักษาสิวด้วยตัวเองมาโดยตลอดอะไรเขาบอกว่าดีเราก็ไปลองมาหมด ลองผิดลองถูกกันไปเรื่อย แต่มันไม่ได้ผลสักที ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะครับว่าผมเป็นคนที่เป็นสิวอุดตัน และมีสิวอักเสบบ้างนาน ๆ ครั้ง อยู่มาวันหนึ่งก็อยากหน้าใสเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง เลยได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เข้ารักษาอย่างถูกวิธีกับแพทย์ผิวหนังโดยตรงเพื่อหาทางออกให้กับชีวิต ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พอถึงคิวคุณหมอก็ตรวจดูสภาพผิว สิวที่อยู่บนใบหน้า ถามว่าเคยใช้อะไรมาบ้าง พอเราบอกไปว่าใช้อะไรรักษา คุณหมอก็บอกกับเราว่า “ก็รักษาผิดวิธีจะหายได้ยังไง” จากนั้นคุณหมอก็จัดเซตรักษาสิวมาให้ชุดหนึ่ง ในนั้นมีของอยู่แค่ 2 อย่างเองครับทุกคน แอบตกใจนิดหน่อย แต่ก็ดีที่ไม่ต้องใช้อะไรหลายอย่างหลายขั้นตอน มีแค่เจลทำความสะอาดหน้า Eucerin Pro Acne Solution และเจลแต้มสิวของ Differin ความเข้มข้น 0.1% ผมเลยอยากรู้ว่ามันช่วยอะไรได้บ้าง เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สองอย่างนี้มา และจะอธิบายให้ฟังคร่าว ๆ ดังนี้นะครับ Eucerin Pro Acne Solution ตัวนี้เป็นเจลทำความสะอาดผิวหน้าที่มีความอ่อนโยน พร้อมกับสารทำความสะอาดที่ค่อนข้างปลอดภัย คือ Sodium Cocoamphoacetate และ Sodium Laureth Sulfate เลยนะ และยังมีสารช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังคือ Acetic acid , Salicylic acid พร้อมกับ pH balance ช่วยปรับสมดุลไม่ให้ผิวแห้งตึงอีกด้วย เวลาล้างแล้วจะไม่ค่อยมีฟองเท่าไหร่ แนะนำให้ล้างมือให้สะอาดก่อนล้างหน้านะครับ ไม่งั้นฟองจะน้อยมาก เหมือนกันเอาเจลล้างหน้ามาล้างมือแทน จากนั้นก็ให้ถูวน ๆ บริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ ๆ เช่น จมูก หรือ คาง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง คุณหมอแนะนำให้ใช้สองครั้ง เช้า-เย็น เป็นประจำทุกวัน หลังจากใช้ได้ประมาณ 3 เดือน ทุกครั้งที่ล้างหน้าผมรู้สึกได้เลยว่าผิวสะอาด ไม่แห้งตึง ผิวดูใสขึ้นด้วย เพราะตัวนี้เขามีสารช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วของเราอย่างอ่อนโยนยังไงล่ะครับ Differin ตัวนี้เป็นยากลุ่ม Retinoids หรือ อนุพันธ์วิตามินเอ ซึ่งมีความปลอดภัย ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ ด้วยตัวยามีผลึกที่มีขนาดเล็ก (microcrystal) ทำให้แทรกซึมเข้าผิวหนังได้ลึกถึงต่อมไขมัน ทำให้ขับไขมันออกมาได้ง่าย ไขมันไม่อุดตันจนเกิดเป็นสิว ช่วยให้สิวอุดตันค่อย ๆ โผล่ออกมาจากผิวหนัง จนสิวอุดตันหายไปในที่สุด ช่วยลดอาการอักเสบได้ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก และด้วยคุณสมบัติของอนุพันธ์วิตามินเอยังช่วยลดริ้วรอย รอยตีนกาได้เมื่อใช้ในระยะยาวอีกด้วย นอกจากจะหน้าใสไร้สิวแล้ว ยังผิวเต่งตึงอีก คุณหมอแนะนำให้ทาก่อนนอนวันเว้นวัน หรือถ้ารู้สึกแสบหน้าเกินไป ให้ทาวันเว้นสองวันครับ หลังจากใช้ได้ประมาณ 3 เดือน ในช่วงแรกผมทาวันเว้นสองวันแบบนี้อยู่ 2 สัปดาห์ แล้วไม่รู้สึกอะไร สัปดาห์ที่ 3-4 ผมทาวันเว้นวัน ทำให้เห็นผลได้ชัดเจนขึ้นว่า สิวอุดตันที่อยู่ใต้ผิวหนังเริ่มผุดออกมา คุณหมอบอกไม่ให้เรา บีบ หรือ แกะ เราก็ทำตาม จนสิวมันแห้งหลุดไปตอนล้างหน้า ผมรู้สึกได้ว่าหน้าของผมมันน้อยลง แต่ผิวเริ่มแห้ง และลอกเป็นขุยเล็ก ๆ จากนั้น สัปดาห์ที่ 5-12 เลยเปลี่ยนมาทายาเป็นวันเว้นสองวันอีกครั้ง เพื่อลดความเข้มข้นการใช้ยาลง สิวอุดตันที่ผุดออกมา สัปดาห์ก่อน ๆ ก็เริ่มหายไปจนจะหมดแล้วครับ มีสิวใหม่มาบ้าง เมื่อเข้าเดือนที่ 3 หรือสัปดาห์ที่ 12 นั้น รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าเราเรียบเนียนขึ้นมาก ผิวดูดีเลยทีเดียว และคุณหมอก็แนะนำให้ทากันแดดเป็นประจำทุกวันด้วยนะครับ เพราะผิวของเราจะไวต่อแสงกว่าคนปกตินะ จากการรักษาสิวของผมในระยะเวลา 3 เดือน ผมพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มากครับ ผมใช้แล้วดีเลยอยากบอกต่อ ใครอยากลองดูก็ไม่เสียหายนะครับ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ เผยผิวกระจ่างใสไร้สิวในแบบของเรา ขอบคุณภาพหน้าปกจาก Pexels รูปภาพประกอบทั้งหมดโดย BUNBOSS