หนังสือ “การพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์” เป็นหนังสือที่รวม 12 เรื่องคัดสรรของฉมังฉาย อดีตลูกหลานชาวนาของภาคใต้สู่พนักงานสินเชื่อธนาคารใหญ่ในเมืองใหญ่ สำหรับสิ่งที่น่าสนใจของการพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์คือ การที่นักเขียนเลือกฉายภาพตัวละครอย่างหลากหลายด้วยกลวิธีที่สมจริงและเสียดเย้ย การพยายาม การดิ้นรนต่อสู้ของตัวละครซึ่งถือได้ว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว การพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์ รวมเรื่องสั้นของฉมังฉายไว้ทั้งหมด 12 เรื่องได้แก่ การพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์, ความเปลี่ยนแปลง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, แหวนเทอร์คอยส์, ชายพิการร้องเพลงในร้านหมูกระทะ, ชายผู้มีชีวิตจริง แต่กลับไร้ตัวตน, ผัวยูโร, ดร. ที (นามสมมุติ) กับเกมโชว์ในประเทศโลกที่สาม, ในน้ำเน่ามีเงาจันทร์, มนุษย์เชื่องช้า-วิฬาห์ซึมเซา, สุนัขอุทกภัย และแสงเหนือ1. รายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือชื่อเรื่อง : การพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์ผู้เขียน : ฉมังฉาย (นามปากกา)ประวัติการพิมพ์ : พิมพ์ครั้งแรก เมษายน พ.ศ. 2557จำนวนหน้า : 237 หน้า สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์จุดประสงค์การแต่ง : เพื่อรวม 12 เรื่องสั้นของฉมังฉายที่ผ่านการคัดสรรแล้วว่าเหมาะสมที่จะนำมาเผยแพร่ให้คุณผู้อ่านได้อ่าน โดยมีการฉายภาพตัวละครอย่างหลากหลาย แสดงให้เห็นถึงการดิ้นรน ความปรารถนาของทุก ๆ ตัวละครที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้2. ประโยชน์ที่ได้รับจากเรื่อง ประโยชน์ที่ได้รับจากเรื่อง คือ สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากอ่านหนังสือจบ ซึ่งประโยชน์ของเรื่อง การพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์ คือ เมื่อได้อ่านแล้วทำให้เห็นถึงชีวิตของคนหลาย ๆ อาชีพ เพราะคนเรานั้นเกิดมาล้วนมิวิถีชีวิตที่ต่างกัน การดิ้นรนเพื่อทำตามความฝันจึงแตกต่างกัน แต่ใคร จะประสบความสำเร็จแล้วทำตามฝันได้มากหรือน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความพยามยามของคนนั้น ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างจากเรื่อง “ในน้ำเน่ามีเงาจันทร์” เนื้อเรื่องย่อมีอยู่ว่าบุญส่งเป็นคนจังหวัดเชียงรายเข้ามาทำงานเป็น รปภ. อยู่ในกรุงเทพฯ เขารู้สึกไม่พอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่จึงคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ก่อนจะตายจึงอยากกลับไปลาลูกชายที่อยู่กับเมียเก่าที่ตนหย่าไปแล้วที่จังหวัดแพร่ เขาจึงขอลางานเพื่อไปหาลูก ระหว่างที่จะเข้าไปลาลูกเขาได้เดินเข้าไปในวัดแล้วบังเอิญพบข้อความที่ว่า “ในน้ำเน่ามีเงาจันทร์” เขาเกิดข้อสงสัยในคำนี้ และเมื่อได้พบท่านเจ้าอาวาสจึงได้ถามเพื่อไขข้อสงสัย ท่านจึงอธิบายที่มาของคำนี้ให้บุญส่งฟังพร้อมทั้งท่านได้สอน เตือนสติบุญส่งหลายอย่าง จนในที่สุดบุญส่งคิดได้จึงหยุดความคิดที่อยากฆ่าตัวตายแล้วกลับไปทำงาน ใช้ชีวิตในทุก ๆ วันอย่างมีความสุข หลังจากที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ผู้เขียนฉุกคิดได้ว่าการที่ตัวเองมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้นั้นเราสบายมากเพียงใดเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่เขามีเรื่องลำบากใจ หรือความไม่พร้อมในหลาย ๆ ด้าน ยังมีอีกหลายคนที่ลำบากมากกว่าเรา ดังนั้นเราควรใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข พอใจกับสิ่งที่ตนเป็น เป็นกำลังใจให้คนรอบข้าง และที่สำคัญคือไม่ย่อท้อต่อปัญหาที่พบเจอ เพราะอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเรา และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนยกมาเท่านั้น หากผู้อ่านท่านใดสนใจก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากเล่มเต็มชื่อ “การพลัดหลงของเมล็ดพันธุ์” รับรองได้ว่าท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนอ้างอิงภาพประกอบ : ภาพที่ 1 โดยเม็ดทราย/ ภาพที่ 2 จากแอปพลิเคชัน canva/ ภาพที่ 3 จากแอปพลิเคชัน canva