กว่าสองเดือนที่เราต้องกักตัวอยู่บ้านในช่วงวิกฤต "COVID-19" ลองสังเกตจากพฤติกรรมของตัวเองก็จะพบว่า มีการใช้ Social Media มากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งส่วนตัวผมจะไม่ค่อยใช้ Social Media เท่าไหร่ (มีบัญชีแต่ไม่ค่อยเข้าไปรูดดู) แต่หลังจากที่เราต้องกักตัวอยู่บ้าน ผมว่าทำให้มีคนเข้าใช้ Social Media เพิ่มขึ้นมาก ทั้งข่าวสารที่เราก็ยังต้องตาม สังคมเราก็ยังต้องมี (อยากดูว่าชาวบ้านเขาทำอะไรกันอยู่บ้าง) แต่สิ่งที่เรามักจะโดนกันอยู่เป็นประจำในขณะรูดอ่าน คือ การป้ายยา ทั้งป้ายยาจากการโฆษณา ซึ่งผมโดนไปแล้ว 2-3 รายการ และที่สำคัญการโดนป้ายยาจากคนรู้จัก เพื่อนฝูง ซึ่งแทบไม่ต้องคิดกันเลย กดสั่งซื้อสินค้าได้โดยจะทันที ซึ่งการที่เราโดนกันแบบนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรนะครับ เพราะเรากำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า S-Commerce นั่นเอง S-Commerce ย่อมาจาก Social Commerce คือ การซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านช่องทาง Social Media นั่นเอง โดยใช้ Social Technology มาพัฒนา ปรับปรุง และสร้างประสบการณ์การซื้อขายของลูกค้า หรือที่เรียกว่า Shopping Experience ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในขณะใช้ Social Media จึงทำให้วันนี้แบรนด์สินค้าไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ต่างใช้ช่องทาง S-Commerce ของตัวเองกันมากขึ้น เราลองมาดู 3 ปัจจัยที่ S-Commerce เติบโตในช่วงวิกฤต "COVID-19" 1. ผู้บริโภคมีเวลาใช้งานมากขึ้น ที่จริง S-Commerce ในไทยได้มีการกล่าวถึงมาแล้วกว่า 5-6 ปีที่แล้ว เพราะผู้ใช้งาน Social Media ในไทยเติบโตเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุด จากรายงานของ Digital 2020 Reports คนไทยใช้งาน Social Media ประมาณ 2.6 ชั่วโมงต่อวัน และผมคิดว่าจากสถานการณ์ COVID-19 ในตอนนี้ ตัวเลขน่าจะขยับไปสูงเกือบเท่าตัวเลย คือ ไม่น่าจะต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ที่ปรับสูงขึ้นมากเพราะต้องอย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้เราใช้เพียงเพื่อความบันเทิง ติดต่อกับเพื่อนฝูงเป็นส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้เราต้อง Work From Home จึงทำให้ระยะเวลาการใช้ Social Media ต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน 2. เป็นตัวช่วยสร้าง Brand Engagement ได้ดี การตอบข้อสักถามที่รวดเร็วผ่านหน้าเพจของ Brand ล้วนเป็นสิ่งที่ลูกค้าชอบ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้ เมื่อเห็นสินค้าหรือบริการจากหน้าโฆษณาอาจจะยังไม่ซื้อทันที โดยจะเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของ Brand ต่อจากนั้นก็จะเปรียบเทียบราคา คุณภาพ คุณลักษณะต่างๆ แล้วก็จะเกิดคำถาม จึงวกกลับมาหน้าเพจเพื่อสอบถามกับทางเพจ เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ดังนั้น การตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน ล้วนทำให้ผู้บริโภคเกิดประสบการณ์ที่ดีตลอดกระบวนการซื้อสินค้า และยิ่งผู้บริโภคยุคนี้ ไม่ได้จบที่การซื้อ แต่แทบจะรีวิวสินค้าทั้งก่อนใช้และหลังใช้ ลง Social Media จึงทำให้ Brand ต่างๆ รู้ดีว่า การสร้าง Engagement ที่ดีผ่าน Social Media จะทำให้ผู้บริโภคบอกต่อ (ป้ายยา) ไปยังเพื่อนฝูงคนรู้จักมากขึ้นเช่นกัน 3. ง่ายต่อการใช้และดำเนินการ (User Friendly) การที่ทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม Social Media ทำให้เหมือนเราอยู่บนร้านค้าพื้นฐานที่มีทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน รูปแบบหน้าร้าน ที่มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งสะดวกแก่การดำเนินการของผู้บริโภค เพราะไม่ว่าจะเปิดผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Personal Computer, Tablet หรือ Smart Phone มักจะมีรูปแบบการใช้งานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน แตกต่างกับการซื้อขายผ่าน Marketplace ที่ต้องมีการลงทะเบียนวุ่นวายในแต่ละร้าน บางทีสินค้าที่มีก็อาจไม่ตรงใจเรา หรือการซื้อขายผ่านหน้าเว็บไซต์หลักของ Brand อาจจะติดปัญหาทั้งในเรื่องการแสดงผลที่แตกต่างกัน (Responsive Web Design) จากการใช้อุปกรณ์แตกต่างกัน ทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น และนี่ก็เป็น 3 ปัจจัยที่ S-Commerce เติบโตในช่วงวิกฤต "COVID-19" และน่าจะเป็นแนวโน้มหลักในการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นของเหล่า Brand ต่างๆ ว่าแต่วันนี้ คุณโดนป้ายยา อะไรเพิ่มแล้วหรือยัง .. ติดตามอ่านเรื่องราวทางธุรกิจที่น่าสนใจได้ที่ > นิยมเล่าเป็นเรื่อง เครดิตรูปภาพทั้งหมด เครดิตรูปที่ 1 : (Photo by Tracy Le Blanc from Pexels) เครดิตรูปที่ 2 : (Photo by Ben White on Unsplash) เครดิตรูปที่ 3 : (Photo by fauxels from Pexels) เครดิตรูปที่ 4 : (Photo by Austin Distel on Unsplash) เครดิตรูปที่ 5 : (Photo by Domenico Loia on Unsplash)