Series : กักตัวเหงาๆอยู่บ้าน อ่านอะไรดีย์? Ep.1 เมตามอร์โฟซิส ขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com (nastya_gepp : =ช่างภาพ)ในสถานการณ์ไม่ปกติของโลกตอนนี้ เราต่างได้รับผลกระทบกันทุกคน มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป สำหรับผู้ที่มีหน้าที่เป็นปราการด่านแรกเพื่อช่วยมวลมนุษยชาตินั้น ผู้เขียนขอส่งกำลังใจให้อย่างสุดพลัง ส่วนเหล่ายอดฮีโร่ที่เสียสละกักตัวอยู่บ้านอย่างท่านผู้อ่าน หากมีอาการเหงาบ้าง เศร้าบ้าง เบื่อๆเซ็งๆ เราจะทำยังไงดี? วันนี้ผู้เขียนจึงขอแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ จากการอ่านหนังสือล้ำค่าเล่มหนึ่ง ส่งต่อให้ท่านผู้อ่าน โดยหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ความน่าเบื่อที่ท่านพบเจอผ่อนคลายลงไปบ้าง ขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com (mohamed_hassan : เจ้าของภาพ)“เราจะรู้สึกยังไง ถ้าหากวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมา แล้วกลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ไร้ค่า น่าขยะแขยงในสายตาของคนที่เรารัก และเราเองก็คิดว่าเขารักเราเช่นกัน?” ความรู้สึกที่น่าเจ็บปวดนี้ เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงชีวิตของเราทั้งหลาย แต่น้อยคนนักที่จะตระหนักถึงมันได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหนึ่งในผู้ตระหนักรู้นั้น คือชายชื่อ “ฟรันทซ์ คาฟคา” (Franz Kafka) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง เมตามอร์โฟซิส ที่เล่าเรื่องราวของชายผู้หนึ่ง ใช้ชีวิตเยี่ยงคนสามัญ เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงานเพื่อคนที่รักและผู้ที่อยู่รอบข้าง ดังเช่นวิถีชีวิตของเราๆท่านๆทั้งหลาย แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อลืมตาตื่นเขากลับพบว่าตัวเขาได้กลายเป็นแมลง เป็นสิ่งประหลาด ซึ่งมันคงไม่ใช่โศกนาฏกรรมหากความรู้สึกข้างในตัวเขาได้เปลี่ยนแปลงไปตามรูปลักษณ์ แต่เขายังเป็นชายหนุ่มคนเดิม ความทรงจำเดิม ความรู้สึกนึกคิดเช่นเดิม มีเพียงเปลือกของเขาและความรู้สึกของคนรอบข้างที่เปลี่ยนไปคาฟคา บรรยายและสะท้อนความทุกข์ระทมของสถานการณ์ที่ตัวเอกได้รับ ออกมาให้เราจับต้อง บีบเราให้ค่อยๆจมดิ่งและรู้สึกได้ถึงความขมของชีวิตผ่านสายตาของแมลงตัวหนึ่ง จากมนุษย์ผู้ที่เคยเป็นที่รัก กลับกลายเป็นเพียงแมลงไร้ค่า และค่อยๆถูกลืมเลือนตัวตนไปอย่างช้าๆ แต่ตลอดกาล...หากหนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องได้แค่นั้น คงไม่ได้รับความชื่นชมจากผู้อ่านมาจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อเราพลิกหน้ากระดาษและละเลียดเรื่องราวที่เขานำเสนอ ความรู้สึกของเราจะค่อยๆถูกหลอมรวมไปกับตัวเอกทีละนิดจนเมื่อถึงบทสรุปสุดท้าย ความรู้สึกที่เมื่อเราอ่านจบแล้ว มันกลับกลายเป็นความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนเราเป็นแมลงตัวนั้นเสียเอง เมตามอร์โฟซิส วรรณกรรมก้องโลกผู้เขียนเชื่อว่าวรรณกรรมชิ้นนี้เหมาะสมแล้วหากจะถูกเรียกว่าเป็นวรรณกรรมเอกของโลก เพราะการที่มันอ่านง่าย แต่สื่ออารมณ์ได้อย่างทรงพลัง ทำให้เชื่อว่าผู้ที่ได้อ่านเกือบทุกคนจะรู้สึกเหมือนตกอยู่ในหลุมลึกได้อย่างที่เขาต้องการให้เรารู้สึก สิ่งนี้คงมีแต่อัจฉริยะเท่านั้นที่สามารถจะทำได้ “ฟรันทซ์ คาฟคา” (Franz Kafka) เจ้าของผลงาน เมตามอร์โฟซิส ขอบคุณภาพจาก www.wikipedia.org สำหรับบางท่านที่สงสัยว่าเราจะอินกับมันได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่สามารถตื่นขึ้นมาแล้วเป็นแมลงได้ สำหรับผู้เขียน ทุกการใช้ชีวิต อาจจะมีบางครั้ง ที่เราต่างพลั้งพลาด แม้ทำดีที่สุด แม้ว่าจะดำเนินชีวิตไปอย่างปกติ จู่ๆเราอาจจะกลายเป็นแมลงทางความรู้สึกของคนรอบข้างได้ในบางวัน แต่อย่าเพิ่งหดหู่กันไป ถึงเราจะเคยเป็นแมลงและบางทีชีวิตจะโหดร้ายกับเราเช่นนั้น ในแง่งามของเป็นความจริง พวกเรายังสามารถกลับกลายเป็นมนุษย์ผู้ทระนงได้ดังเดิม ตราบใดที่พยายามยืนหยัดและไม่ยอมแพ้ หากท่านใดมีเวลาว่างยามกักตัวตอนนี้ เรามาลองสัมผัสความขมของชีวิต ที่คาฟคาชงให้เราดื่ม เพื่อเปิดมุมมองใหม่ๆกันเถอะ :) ขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com (Anrita1705 : เจ้าของภาพ)