“ใครผู้ใดต่างก็รู้สายธารานั้นไม่เคยไหลคืนหวนกลับวันแลคืนสุริยาพยับนั้นต้องผันแปรไหลเวียนตามกาลเปลี่ยนไปความทรงจำฝังแน่นตราตรึงสถิตคงอยู่ในดวงฤทัยไม่เคยลบเลือนมันไป ภาพจำชัดเจนมิต่างอันใดกับในวันวานทุกสิ่งที่ท่านนั้นได้รังสรรค์อย่างดีที่สุด ณ ที่แห่งนี้พวกเราน้องพี่จะไม่ลืมในสิ่งที่ทุกท่านได้สร้างเอาไว้วันนี้แท้ที่จริงเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นต่อไปในกิจอันใหม่ทุกคนขอส่งแรงใจด้วยความ Respect น้อมใจบูชา...พวกเรา Aggie แห่ง University เรื่องราวดีๆ ดั่งบทกวี วรรณกรรม พรรณนาร่ายร้องดุจดั่งสายใยที่พวกเราร้อยรวมดวงใจสามัคคีสอดคล้องสกัดเป็นท่วงทำนอง มิมีวันถูกสิ่งใดลบเลือนหายไปขอให้ทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดำรงอยู่ในสากลโลกนำพรให้ท่านมีโชค เมื่อยามที่เราต้องโบกมือลาอยากบอกย้ำเตือนอีกครั้ง แลขอน้อมกล่าวกับท่านในอีกสักคราจะผ่านไปกี่เพลาพวกเราไม่เคย ไม่เคย ไม่เคย จะลืม...”เนื้อเพลงหรือบทไรม์ในข้างต้น เป็นเนื้อเพลงที่ผมเขียนด้วยตนเอง เพื่อใช้ประกอบในการแสดงของงานเกษียณอายุราชการ หรือในงานมุทิตาจิตของคณะฯ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งผมเองไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าจะได้รับโอกาสได้ทั้งเขียนไรม์และร้องด้วยตนเอง กล่าวตามตรงแบบไม่เอนเอียง โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเขียนบันทึกและกาพย์กลอนอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการมีโอกาสได้ดูรายการ “SHOW ME THE MONEY THAILAND” มันเป็นแรงบันดาลใจและพลังงานขับเคลื่อนชั้นดี ที่ส่งผลให้ตัวเราเองมีความกล้ามากขึ้น กล้าที่จะทดลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำผมได้ค้นพบว่า ดนตรีแนว Hip-Hop หรือการร้องแร็พ ในบางมิติมันเปิดโอกาสให้เราได้สื่อสารสิ่งที่อยู่ในหัวเราได้มากกว่าบทเพลงทั่วไป เนื่องด้วยเนื้อร้องที่สามารถเขียนได้อย่างละเอียดมากกว่า พูดได้มากกว่า อีกทั้ง Beat หรือดนตรียังกระตุ้นความสนใจของคนฟังได้ดี รวมทั้งมีข้อจำกัดน้อยกว่าบทเพลงแนวอื่น ๆ สิ่งที่ผมทำนอกจากการเขียนเนื้อร้องเสร็จสิ้นแล้ว ต้องทำการค้นหาหรือสร้างทำนองมาใส่ในเพลงที่เรียกกันว่า Beat ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเนื้อหาที่ต้องการสื่อ และที่ยากยิ่งไปกว่านั้นคือ การฝึกฝนที่จะร้องหากใครเคยดูรายการนี้จะทราบเป็นอย่างดีว่า การ้องแร็พที่มีจังหวะค่อนข้างเร็วและสัมผัสต้องดีนั้น หากร้องพลาดคือพลาด หลุดคือหลุด จะด้วยเหตุมาจากความตื่นเต้นหรือความประหม่าก็ตาม อีกทั้งยังมีเทคนิคค่อนข้างมาก ทั้งความไหลลื่นในการร้อง จังหวะจะโคนที่ลงตัว ภาษาที่ใช้ ลีลา น้ำเสียง สิ่งที่ผมต้องทำในช่วงนั้นคือ ฝึกและฝึก และฝึก ฝึกแทบตลอดเวลาที่มีโอกาส และก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่สมัครเข้าแข่งขันในรายการนี้จะต้องยิ่งฝึกฝนหนักขึ้นไปอีก แต่สุดท้ายก็ยังมีคนพลาดจนได้เพลงแนวนี้หากมองแบบผิวเผิน อาจถูกมองว่าเป็นแนวเพลงของคนเกเร หรือ Bad Boy or Bad Girl แต่หากคุณลอง “เปิดใจ” ที่จะฟังสิ่งที่แต่ละคนตั้งใจจะพูดดี ๆ คนที่เขียนไรม์หรือบทกวีเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความคิด และบางคนก็มีความคิดลึกซึ้งอย่างมาก โดยที่คุณมิอาจใช้เปลือกภายนอกมาตัดสินได้เลยนอกจากความบันเทิงแล้ว สิ่งที่ผมได้จากการดูรายการนี้ ส่งผลให้โดยส่วนตัวผมได้รับพลังงานดี ๆ เพิ่มมากขึ้น มีแรงบันดาลใจในการเขียนเพลง และส่งผลในการต่อยอดเพื่อทำเพลงและเขียนไรม์ ซึ่งแม้งานประจำที่ผมทำจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับดนตรี แต่เนื่องด้วยผู้คนที่แวดล้อมในที่ทำงานทราบว่าผมเขียนเพลงและพอทำเพลงได้ ผมจึงได้รับโอกาสให้ทำเพลงในกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งยังทำให้ผมมี "ความกล้า" ที่จะทำเพลงเพื่อเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ ซึ่งสิ่งที่ผมได้ทำลงไปนั้นเป็นสิ่งที่ผมดีใจที่ได้ทำมัน แม้ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นเช่นไรก็ตาม อีกทั้งรายการนี้ทำให้คนที่ดูมองเห็นความหวัง ความฝันของคนเรา ความพยายาม ความคิด การพัฒนาตนเอง การพ่ายแพ้ การลุกขึ้นสู้ และการก้าวเดินต่อไป…ลองดูครับผม...อย่าใช้เพียงแค่หูฟังและตาดูเท่านั้น ลองใช้ “หัวใจ” ฟังด้วยครับ คุณจะเห็นมิติที่ทับซ้อนมากกว่าที่คุณเห็น.คุณสามารถติดตามชมรายการ SHOW ME THE MONEY THAILAND ได้ทาง True4U ช่อง 24 และApplication TrueID ซึ่งปัจจุบัน Season 2 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว และหากใครยังไม่เคยดู Season แรก ก็ยังสามารถหาดูย้อนหลังเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนได้ครับติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/smtmthailandขอขอบคุณภาพประกอบในรายการจาก: ช่อง True4U: https://www.youtube.com/channel/UCu2sn1JnlYkN_XQCeBcKP5Aและ https://www.facebook.com/smtmthailand