Snore Lab กรนดังขนาดไหน ถามใจเธอดู เคยไหมว่าคนข้าง ๆ เราที่เรานอนอยู่ด้วยทุกคืน ชอบบ่นว่าเรานอนกรนเสียงดังเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่เรามั่นใจมาก ว่าเราไม่ได้นอนกรน หรือ แม้แต่เวลาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ๆ พอเช้ามา พวกเพื่อน ๆ มาบ่นให้ฟังว่า ทีหลังไม่นอนด้วยแล้ว เพราะว่ากรนดังมาก ๆ หลาย ๆ ครั้งที่เวลาพอเรานอนกรน เราก็ไม่สามารถฟังเสียงกรนของตัวเองได้ ว่าเสียงเป็นอย่างไร กรนดังขนาดไหน ต่อไปนี้ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่า ใครจะมาหาว่าเรานอนกรนหรือไม่ เสียงดังขนาดไหน ในเมื่อเรามี Application ที่ชื่อว่า Snore Lab ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพมาก ใช้บันทึกเสียงกรนของเราขณะนอนหลับ ว่าเสียงกรนนั้น อยู่ในระดับใด ตั้งแต่ เบา ปานกลาง ไปจนกระทั่ง เสียงดังจนน่าวิตกกังวล แบบน่าจะไปพบแพทย์เลย หลายคนคงเคยศึกษา หรือ ทราบมาว่าการนอนกรนมาก ๆ แปลว่าออกซิเจนไม่สามารถไปเลี้ยงสมองขณะที่เรานอนหลับได้ ฉะนั้นการที่เราสามารถรู้ได้ว่า เรานอนกรนอยู่ในระดับใด เป็นโรคหรือไม่ จึงควรที่จะมีการทดสอบ ซึ่งในโรงพยาบาลทางการแพทย์ เขาจะเรียกว่า "การ Sleep Test" ซึ่งเป็นการทดสอบการนอนกรน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเลยทีเดียว โดยประมาณ 10,000 - 20,000 บาท แล้วแต่โรงพยาบาล ดังนั้น ก่อนที่จะต้องไปทำการ Sleep Test นอนเสียเงินที่โรงพยาบาล เรามาลองใช้โปรแกรม Snore Lab ทดสอบกันก่อนดีกว่า เริ่มตั้งแต่การทำการ Download Application Snore Lab มาก่อนเลย ซึ่งสามารถทำการ Download ได้ทั้ง 2 ค่ายตามลิงค์ได้เลย App Store Play Store โดยเมื่อทำการ Download ทดลองมาใช้ฟรีแล้ว หน้าตาจะเป็นแบบนี้ จะมี 4 หัวข้อใหญ่ ๆ (แบบเสียเงินจะเป็นแบบ Advance) Time To Sleep - ระยะเวลา กว่าที่เราจะหลับ ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 0 นาที ไปจนถึง 90 นาที Results - ผลลัพธ์ของการทดสอบ เดา เบา ขนาดไหน จิ้มกดฟังได้ทันที Remedies - การรักษา ข้างในจะมีปุ่มให้เลือกว่าเราทำการรักษาแบบไหนอยู่ เช่น ในห้องนอน มีเครื่องฟอกอากาศ หรือ มีเครื่องทำความชื้น หรือ อื่น ๆ เราก็สามารถกดเลือกมาได้ Factors - องค์ประกอบ (ที่ทำให้เรากรนดัง หรือ ไม่ดัง) หรือว่า เราทำอะไรก่อนนอน เช่นดื่มแอลกอฮอล์, กินข้าวดึก เป็นต้น โดยแอปฯ นี้ยังสามารถทำให้เป็นนาฬิกาปลุกได้อีกด้วย เยี่ยมจริง ๆ ก่อนใช้งาน เราก็ควรไปตั้งค่าตรง 4 ข้อด้านบนให้เรียบร้อย ซึ่งก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมา แม่นยำมากที่สุด และ ให้ทำการตั้งค่าใน More ด้านล่างขวาสุด เช่น ชื่อ น้ำหนัก ส่วนสูง ซึ่งแอปฯ เองสามารถทำการเชื่อมต่อกับ Google Fit ได้อีกด้วย หลังจากตั้งค่าต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก่อนนอน ให้เราทำการกดปุ่ม Start เครื่องจะบอก Good Night กับเรา พร้อมกับบอกให้เราทำการคว่ำเครื่องเอาไว้ และ เสียบสายชาร์จทิ้งไว้ด้วย เผื่อแบตเตอรี่หมดระหว่างคืน และ เครื่องจะทำการบันทึกเสียงกรนของเราหลังจากที่เรากำหนดเวลาใน Time to Sleep ไว้แล้วข้างต้น ตื่นเช้ามา เราต้องมากดปุ่มเพื่อหยุดการทำงานของโปรแกรม Stop the Session จากนั้น เข้ามากดปุ่ม Results เพื่อคอยฟังผลงานของเรา ว่าเมื่อคืนเรากรนเป็นอย่างไร เสียงดังแค่ไหน โดยหน้าตาผลลัพธ์ จะออกมาเป็นแบบนี้ หน้านี้บอกอะไรเราบ้าง ไม่กรน Quite กรนเบา Light กรนดัง Loud กรนสุด Epic โดยแต่ละตัวจะบอกระยะเวลาด้วย ว่า ดัง เบา อย่างละกี่นาที คราวนี้ก็ถึงคราวลุ้นกดฟังกันบ้างแล้ว เราก็เอานิ้วจิ้มไปตรงกราฟ จากนั้นเครื่องก็จะเล่นเสียงให้เราได้ฟัง ว่าดังเบา น่ากลัวขนาดไหน ในหน้านี้ยังบอกอีกว่า เรานอนไปตั้งแต่กี่โมง ถึง กี่โมง นอนไปทั้งหมดกี่ชั่วโมง กรนรวมแล้วกี่ชั่วโมง คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ระบบยังสามารถวิเคราะห์ได้อีกว่า เปอร์เซ็นต์ที่เราได้ สูงเกินกว่ามาตรฐานหรือไม่ โดยเฉลี่ยค่ามาตรฐานไม่ควรเกิน 25% โดยแต่ละคืน อาจจะมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เสียงกรนดัง เบาไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรทดสอบซัก 1 อาทิตย์ ในขณะเดียวกัน ก็ลองหาทางแก้ไขปัญหาดูก่อนไม่ว่าจะเป็น เปลี่ยนหมอนนอน เปลี่ยนท่าทางการนอน ใช้เครื่องทำความชื้นช่วย สายรัดคาง หรือ อื่น ๆ แต่ถ้าใครขึ้น Epic สูง แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อศึกษาและหาวิธีทำให้การนอนของเราดีขึ้น เพราะการนอนจะส่งผลต่อสุขภาพโดยด้วยนะครับ เครดิตภาพทั้งหมดจาก Hotel Mania ขอบขอบคุณ Application ดี ๆ จาก Snore Labs