จำได้ว่าตอนไปดูหนังเรื่อง “Spider-Man: Homecoming” เมื่อประมาณสองปีก่อน ช่วงก่อนหนังฉายก็นั่งดูตัวอย่างหนังเรื่องอื่น ๆ ไปพลาง ดูมาจนถึงเรื่อง “Atomic Blonde” ที่มี Charlize Theron แสดงนำ ก็ได้ยินเสียงอินโทรอันเร้าใจของเพลง “Sweet Dreams (Are Made of This)” ดังขึ้นมา ในตอนนั้นมีความรู้สึกว่า แวดวงคนทำหนังฮอลีวูดในเวลานั้น คงเต็มไปด้วยคนที่เติบโตมากับเพลงยุค 70s - 80s เพราะพักหลัง ๆ มา มักจะได้ยินเพลงฮิตจากช่วงเวลานั้น ถูกนำมาใช้ประกอบในหนังใหม่ ๆ เป็นระยะ ๆหนังเรื่อง “Atomic Blonde” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุดยอดสายลับสาวของอังกฤษ ที่ถูกส่งไปเยอรมันเพื่อทำภารกิจเปิดโปงสายลับสองหน้าในช่วงสงครามเย็น จะว่าไปแล้วสงครามเย็นนี่ถือเป็นความตึงเครียดในสถานการณ์โลกอย่างหนึ่งของคนยุคคาสเซ็ทเยี่ยงเรา เด็กที่เติบโตขึ้นมาในยุคหลัง คงจะไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นกันสักเท่าไร แต่พวกเขาอาจจะเข้าใจถึงสภาวะตึงเครียดจากการที่โลกเต็มไปด้วยการก่อการร้าย ซึ่งเหมือนกับว่ามันจะถูกสร้างให้เกิดขึ้นมาทดแทนกันขอบคุณภาพ "Eurythmics ในปี 2018" จาก: LaloArmi | Commons.wikimedia.org ภายใต้ CC BY-SA 4.0หนังเรื่องนี้เอาเพลง “Sweet Dreams (Are Made of This)” ผลงานเพลงอันโด่งดังในปี 1983 ของวงคู่หูดูโอหญิง-ชาย จากอังกฤษ Annie Lennox และ Dave Stewart ในนามวง Eurythmics มาใช้ประกอบร่วมกันกับเพลงดังอื่น ๆ ในยุค 80s อีกเพียบ อาจเป็นเพราะเหตุการณ์ตามท้องเรื่องอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เพลงเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยม ทำให้ได้บรรยากาศของยุคสมัยที่สมจริงสมจังดีทีเดียวเพลง “Sweet Dreams (Are Made of This)” อยู่ในอัลบั้มที่สอง ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับชื่อของเพลงนี้ เพลงนี้ประสบความสำเร็จสูงมาก เป็นที่นิยมไปทั่วโลกในเวลานั้น โดยเฉพาะที่อเมริกานั้น สามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ต Billboard Hot 100 โดยเขี่ยเพลง “Every Breath You Take” ของ The Police ลงมาได้สำเร็จ หลังจากที่จ่อรออยู่ที่อันดับสองมานานถึง 4 สัปดาห์ ส่วนที่อังกฤษบ้านเกิดก็สามารถขึ้นไปสูงสุดได้ที่อันดับสองบนชาร์ตเพลงป็อปของที่นั่นAnnie Lennox เคยบอกว่า เนื้อหาของเพลงนี้นั่นเกี่ยวกับการค้นหาความสุขสมหวัง และ “ฝันหวาน” นั้นก็คือสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตของคนเราขอบคุณภาพ "Eurythmics บนเวที Rock am Ring ในปี 1987" จาก: Elmar J. Lordemann | Commons.wikimedia.org ภายใต้ CC BY-SA 2.0 DEคนรุ่นหลัง ๆ มา อาจจะรู้จักเธอในฐานะศิลปินเดี่ยวเจ้าของเพลง “Into the West” ที่เธอทั้งแต่งและร้องเพื่อใช้ประกอบอภิมหาหนังแฟนตาซีไตรภาคแห่งยุคปี 2000s เรื่อง “The Lord of the Rings” ตอน “Return of the King” เพราะวง Eurythmics ได้แยกทางกันไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นยุค 90sตอนทำเพลงนี้เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนนั้น พวกเขายังไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนอย่างทุกวันนี้ ต้องไปกู้เงินจากธนาคารมาซื้อเครื่องดนตรีและอุปกรณ์บันทึกเสียง ซึ่งในเวลานั้นการบันทึกเสียงยังคงเป็นระบบแอนะล็อก และบันทึกสัญญาณเสียงลงบนเทปแม่เหล็กกันอยู่ เครื่องดนตรีสังเคราะห์อย่างดรัมแมชชีนและซินธีไซเซอร์เริ่มเป็นที่นิยม เพราะสามารถช่วยลดต้นทุนในการบันทึกเสียงเพื่อสร้างผลงานเพลงได้อย่างมาก เพลงนี้จึงใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น มีเพียงดรัมแมชชีน, ซินธีไซเซอร์ยี่ห้อ Roland กับคีย์บอร์ดยี่ห้อ Kurzweil อีกตัวหนึ่งเท่านั้นในการแต่งทำนองหลักของเพลงนี้ขึ้นมา แต่เสียงที่พวกเขาได้ช่วยกันสรรค์สร้างขึ้นมานั้น กลับเต็มไปด้วยพลัง มันช่วยจุดประกายให้ Annie คิดถ้อยคำร้องสำคัญอย่าง "Sweet Dreams are made of this" และ "Some of them want to use you" ออกมาได้อย่างรวดเร็วคลิกที่นี่เพื่อชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้บน Youtubeเพลง “Sweet Dreams (Are Made of This)” นี้ ให้อารมณ์ของเพลงประกอบการแสดงสไตล์มิวสิคคัล ที่เลือกสร้างสรรค์ท่วงทำนองทั้งหมดขึ้นมาจากเสียงของเครื่องดนตรีสังเคราะห์ล้วนๆ ถ้าไม่นับเสียงฉาบและเสียงร้องของ Annie Lennox เอง มีเสียงจังหวะกลองที่หนักแน่นและไม่ซับซ้อน โดดเด่นด้วยเสียงในท่วงทำนองหลัก และเสียงเครื่องสายในช่วงบรรเลง ซึ่งสังเคราะห์ขึ้นมาจากซินธีไซเซอร์ ที่ฟังอลังการ และให้กลิ่นอายของดนตรีในยุค 80s ได้อย่างชัดเจนขอบคุณภาพ "Annie Lennox ในปี 2008" จาก: Britt Berger | Commons.wikimedia.org ภายใต้ CC BY-SA 3.0เสียงร้องหลักของ Annie Lennox ในเพลงนี้ให้ความรู้สึกที่ดุดัน ทรงพลัง ถ้อยคำร้องถูกถ่ายทอดผ่านสไตล์การร้องที่ให้เสียงออกมาเกือบจะเป็นโมโนโทน เธอยังตกแต่งอีกหลาย ๆ ท่อนของเพลง ด้วยท่วงทำนองจากเสียงร้องที่มีกลิ่นอายของกอสเปลอีกด้วย เพลงนี้จัดเป็นงานเพลงระดับคลาสสิคของวง Eurythmic ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในแบบอย่างของดนตรีในแนวทางซินธ์ป็อป และยังถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ดังมากมายหลายเรื่อง นอกจากเรื่อง “Atomic Blonde” ที่ผมเล่าถึงไปแล้ว เท่าที่ผมจำได้ก็ยังมีเรื่อง Sucker Punch, X-Men: Apocalypse และ Ready Player One อีกด้วยอาจเป็นเพราะเพลงนี้ได้ให้แรงบันดาลใจกับผู้คนมากมายในช่วงเวลาที่เพลงโด่งดังขึ้นมา และพวกเขาเหล่านั้น อยากส่งต่อมันไปสู่ผู้คนที่เติบโตขึ้นมาในช่วงเวลาที่ต่างยุคต่างสมัยกัน ด้วยความปรารถนาดี...ก็เป็นได้ เครดิตภาพหน้าปก: Elmar J. Lordemann | Commons.wikimedia.org [cropped] ภายใต้ CC BY-SA 2.0 DEอ้างอิง:https://en.wikipedia.org/wiki/Sweet_Dreams_(Are_Made_of_This)https://www.songfacts.com/facts/eurythmics/sweet-dreams-are-made-of-this