Take care of Mayaหนังที่จะทำให้คุณรู้สึก โกรธ คับแค้น ไม่ได้รับความยุติธรรม สงสารและหดหู่ จะว่าไปมันก็ไม่ใช่หนัง แต่มันคือสารคดีที่มีวิธีการเล่าเรื่องแบบหนังที่เราดูๆ กันออกแนวสืบสวน เล่าเรื่องผ่านตัวละครกันทั่วไป มีบทมีตัวละคร ตัวร้าย มีซีนดราม่าบีบๆ อารมณ์ ขอย้ำนะครับว่านี่คือสารคดี ที่สร้างจากเรื่องจริง ก่อนจะได้ดูหนังเรื่องนี้ต้องบอกก่อนว่าผมได้ไปเห็นคะแนนจากเว็บๆ หนึ่งซึ่งให้ต้อง 9.3 จึงหาดู Trailer ซึ่งก็ไม่ค่อยน่าสนใจนัก แต่นั่นแหละด้วยความที่ไม่น่าสนใจ แต่ทำไมได้คะแนนเยอะจัง มันจึงทำให้เกิดความน่าสนใจขึ้น จนต้องไปหารับชมหากคุณเดินเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อพาลูกไปรักษา แต่หมอและพยาบาลตอบกลับมาว่าไม่รู้จักโรคนี้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าคุณนั่นแหละเป็นตัวการที่ทำให้ลูกป่วย คุณจะทำอย่างไร?https://www.youtube.com/watch?v=xzAAPNIsxB0Take care of Maya ต้นปมที่ทำให้มีหลายอารมณ์หนังเล่าถึงครอบครัวโควาลสกี้ ซึ่งมีแจ๊คเป็นพนักงานดับเพลิงและบีอาตาพยาบาลที่ทำงานในห้องหลอดเลือด หลังจากทั้งคู่แต่งงานกันได้ไม่นานจึงอยากมีลูกแต่ทั้งคู่ก็ประสบปัญหากับภาวะการมีบุตรยาก แต่แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ลูกสาวคือ มายา และตามมาด้วยลูกชายคนเล็กคือ ไคล์ เหมือนชีวิตทั้งคู่กำลังไปด้วยดีแล้ววันนึงเมื่อมายาอายุประมาณ 10 ขวบ เธอก็ล้มป่วยอาการคล้ายโรคหอบหืด เข้ารับการรักษาตัวและเปลี่ยนโรงพยาบาลหลายแห่ง อาการของมายากลับยิ่งทรุดหนักขึ้นทุกที ร่างกายช่วงล่างกล้ามเนื้อมีอาการบิดเกร็ง เท้าของเธอบิดเข้าหากันด้านใน ปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย และหากโดนสัมผัสอาการจะเหมือนราวกับว่าโดนมีดทิ่มแทงแต่แล้วครอบครัวก็ได้เจอกับหมอที่สามารถรักษามายาได้ มายาป่วยเป็นโรคอาการป่วยเฉพาะบริเวณแบบซับซ้อน CRPS หรือ Complex Regional pain syndrome ซึ่งต้องรักษาด้วยเคตามีนหรือยาเคที่รู้จักกันในกลุ่มผู้ติดยาเสพติด การรักษาต้องทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะโคม่า ซึ่งมันเสี่ยงมาก ซึ่งครอบครัวก็ยอมเพื่อรักษาลูก แล้วอาการของมายาก็ดีขึ้นหลังจากทำการรักษา เหมือนชีวิตกำลังจะไปได้ดีอีกครั้งหลังจากนั้นเวลาผ่านไป 1 ปี มายาเกิดมีอาการจนต้องส่งเข้าห้องฉุกเฉิน แต่หมอและพยาบาลกลับไม่รู้จักโรค CRPS บีอาตาจึงอธิบายถึงวิธีการรักษาก่อนหน้า ว่าต้องใช้เคตามีน แต่การสนธนานี้กลับส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหมอกับบีอาตา ในที่สุด โรงพยาบาลลงความเห็นว่าเธอนั้นมีความก้าวร้าว อีกทั้งยังใช้เคตามีนในการรักษาลูกสาว จึงถูกกล่าวหาโดยหมอจนถึงขั้นศาลสั่งให้มายาอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ โดยให้อยู่ที่โรงพยาบาล บีอาตาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้กลับบ้าน แต่ความพยายามนี้ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่แก่ครอบครัวนี้ก่อนดู Take care of Mayaการดูให้สนุกคือไม่ควรจะมีข้อมูลในหัวเลย เพราะคุณจะเดาเรื่องไม่ออกเลย ขนาดปกหนังยังไม่รู้เลยว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร แถมหาข้อมูลได้ค่อนข้างยาก อ่าว แล้วเอามาเล่าทำไม จริงๆ แล้วส่วนที่ผมเล่ามันเป็นเพียงปมต้นเรื่องเท่านั้น เพราะเมื่อคุณดูจนถึงตอนที่ผมเล่า คุณก็ผูกพันกับตัวละครไปแล้ว มันทำให้อยากลุ้นเอาใจช่วยน้องให้ได้ออกจากโรงพยาบาล ลุ้นเอาใจช่วยครอบครับว่าจะพามายาออกมาได้ไหม ผมชอบคำพูดน้องอยู่ตอนนึง น้องบอกว่าท่ามกลางคนแปลกหน้าที่พยายามบอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไร และพยายามว่าร้ายแม่ของเรา แต่น้องต้องกลับทำเป็นไม่ได้ยิน น้องแค่ 10 ขวบเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับหลายครอบครัวในอเมริกาTake care of Maya งาน Project ของ Story Syndicateกำกับโดย Henry Roosevelt มีผลงานที่เป็นที่รู้จักอย่าง The social network, Native boy, Sixth of June โดยมี Cailin Keating และ Rylan Soref เป็นผู้สร้างและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในงาน Tribeca Film Festival ของนิวยอร์กซิตี้ ในสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม Story Syndicate คือบริษัทสร้างภาพยนตร์และรายการทีวีที่เน้นไปทางสารคดี ต้องบอกว่าวิธีการเล่าเรื่องของพวกเขาไม่ต่างจากภาพยนตร์เลย ผ่านตามาบ้างอย่าง Lost Girls, Britney VS SpearsLiz Garbus ผู้ก่อตั้ง Story Syndicatehttps://www.youtube.com/watch?v=beXuaN-Wr-Eเมื่อดู Take care of Maya จบมันอาจจะทำให้คุณรู้สึก โกรธ คับแค้น ไม่ได้รับความยุติธรรม สงสารและหดหู่ สาเหตุทั้งมวลมันมาจากคำว่าระบบไม่ว่าจะเป็น หมอโรงพยาบาล ศาลแห่งรัฐ ตำรวจ กฏหมายที่เอื้อต่อระบบ ให้บุคคลทั้งหลายที่ควรจะช่วยเหลือหรือเกื้อกูลเราในวันที่ยากลำบากกลับมาเป็นฝ่ายทำร้ายเราซะเอง โดยเฉพาะศาล ไม่พังความทางฝั่งผู้ถูกกระทำเลย ฟังแต่บุคคลทีมีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ มันมืดมน เหนื่อย ท้อ และอาจทำให้คุณจิตตกได้เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ สงสารครอบครัวนี้และอีกหลายๆ ครอบครัวในอเมริกาที่ต้องมาเจอะไรแบบนี้ อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า เรื่องนี้คือสารคดีทีสร้างจากเรื่องจริง ข้อดีคือบีอาตาผู้เป็นแม่มีนิสัยชอบจดบันทึก มันจึงทำให้สารคดีเรื่องนี้มีรายละเอียด แต่หนังก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ที่นำเสนอเฉพาะฝ่ายผู้ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว แต่เนื่องจากโรงพยาบาลปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ จึงทำให้ไม่มีข้อมูลของอีกฝ่าย แน่ละมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนการต่อสู้กับระบบบางครั้งมันก็เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะหากมีเรื่องเม็ดเงินมาเกี่ยวข้อง เป็นภัยคุกคามระดับชาติ หลายคนจึงไหลๆ ตามน้ำ แต่ที่หนังหรือสารคดีเรื่องนี้บอกเราคือ ไม่ว่าจะเป็นยังไงพ่อและแม่จะพยายามทุกอย่างเพื่อลูกทุกคน Take care of Maya เป็นสารคดีที่สร้างมาจากเรื่องจริงที่ตีแผ่ความบิดเบี้ยวของระบบซึ่งมันมีอยู่จริงในโลกใบนี้ทิ้งท้ายก่อนจาก Maya Kowalski อยู่ที่ไหนปัจจุบันเธออายุ 17 ปีแล้วและยังคงอยู่กับพ่อและน้อง ที่เวนิส ฟรอริดา เธอยังคงป่วยเป็นโรค CPRS อยู่ หากแต่ว่าเธอไม่สามารถรักษาด้วยเคตามีนได้อีก ตามคำสั่งศาล ส่วนขาของเธอสามารถเดินได้แล้ว แต่ในบางครั้งเธอยังมีอาการเจ็บปวดอยู่ และผมก็หวังว่าเธอและครอบครัวจะสามารถผ่านมันไปได้Creditภาพปก Youtube : Official Trailer Netflixวิดีโอประกอบที่ 1 Youtube : Netflixวิดีโอประกอบที่ 2 Youtube : Netflixภาพประกอบที่ 1 by Levi Meir Clancy On Unsplashภาพประกอบที่ 2 by Luke Jones On Unsplashภาพประกอบที่ 3 by Liz Garbus On Instragram จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !