ในช่วงที่ต้อง Work from home และใช้เวลาอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่เช่นนี้ การหยิบรีโมทมากดเลือกชมซีรี่ส์ที่ ‘ดอง’ ไว้มานานจนเกือบจะลืม น่าจะเป็นหนึ่งในวิธี ‘แก้เซ็ง’ ที่ง่ายที่สุด แต่กระนั้น กิจกรรมอันแสนง่ายดายประหนึ่งปอกกล้วยเข้าปากนี้ อาจกลายเป็นเรื่องปวดหมองชวนมึนกว่าที่คิด เพราะบางครั้งกดรีโมทไป ๆ มา ๆ จนเมื่อยนิ้วไปแปดตลบ ก็ยังเลือกไม่ได้สักทีว่าจะดูเรื่องไหน? หากคุณเจอปัญหาทำนองนี้ในบางครั้ง ผู้เขียนขอแนะนำซีรี่ส์ดี + เด็ด + โดน+ ดัง ที่ผู้เขียนได้ชมผ่านสายตาตัวเองมาแล้ว โดยเรื่องแรกนี้คือ The Fall ซีรี่ส์สัญชาติอังกฤษจากสถานี BBC Two ซึ่งในบ้านเราตอนนี้หาชมได้ง่าย ๆ ทาง Netflix The Fall เป็นซีรี่ส์แนวดราม่า / อาชญากรรม ปนระทึกขวัญ ซึ่งแฟน ๆ ของเรื่องแนวสืบสวนสอบสวนน่าจะโดนใจ เพราะเรื่องราวโดยรวมฉลาดหลักแหลม เข้มข้น และลึกซึ้ง ตัวละครหลักของซีรี่ส์นี้มีอยู่สองคนคือ สเตลล่า กิ๊บสัน (รับบทโดย จิลเลียน แอนเดอร์สัน ที่คอซีรี่ส์ย่อมจำเธอได้ดีจากบท เดน่า สกัลลี่ ใน The X-Files ซีรี่ส์สุดฮิตเมื่อหลายปีก่อน และล่าสุดกับบทนักบำบัดเรื่องเพศและคุณแม่ที่ทั้งฮาและน่ารักในซีรี่ส์ดังของ Netflix เรื่อง Sex Education) ผู้กำกับการตำรวจสืบสวน และอีกคนคือ พอล สเปคเตอร์ (รับบทโดย เจมี่ ดอร์แนน พระเอกหนุ่มหล่อที่คอหนังสาว ๆ คงจำเขาได้ดีจากบท คริสเตียน เกรย์ ในหนังแฟรนไชส์ชุด Fifty Shades ทั้งสามภาค) ฆาตกรต่อเนื่องอัจฉริยะที่ก่อคดีฆาตกรรมหญิงสาวหลายราย สเตลล่า กิ๊บสัน หรือตำแหน่งทางการคือผู้กำกับการกิ๊บสัน เป็นตำรวจสืบสวนชั้นผู้ใหญ่จากกรมตำรวจนครบาลลอนดอน สเตลล่าเริ่มมาเกี่ยวข้องกับคดีนี้เมื่อเธอเดินทางจากลอนดอนยัง เบลฟาสต์, ไอร์แลนด์เหนือ เพื่อช่วยสืบสวนคดีฆาตกรรมหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกถูกมองเป็นแค่ ‘คดีฆาตกรรมคดีหนึ่ง’ กระทั่งการเข้ามาคุมคดีนี้ของเธอทำให้การสืบสวนเริ่ม ‘ไปถูกทาง’ มากขึ้น และที่น่าเศร้าคือยังเกิดเหตุหญิงสาวถูกฆาตกรรมเพิ่มขึ้นอีก กระทั่งหลักฐานเงื่อนงำทั้งหลายถูกโยงเข้าด้วยกันเผยให้เห็นความเชื่อมโยงบางอย่างที่สานต่อเป็น ‘ภาพใหญ่’ ว่าทั้งหมดนี้เป็น ‘คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง’ ที่มีฆาตกรคนเดียวกัน ซึ่งตัวละครสเตลล่าที่รับบทโดย จิลเลียน แอนเดอร์สัน ไม่เพียงมีบุคลิกสวยสง่าโดดเด่น แต่ที่ชัดเจนไม่แพ้กันคือความสามารถด้านการสืบสวน เธอทั้งฉลาดหลักแหลม เฉียบคม และละเอียดรอบคอบ ที่สำคัญคือความสงบเยือกเย็น (จนเกือบจะเย็นชาในบางครั้ง – แม้ชีวิตส่วนตัวบางแง่มุมของเธอจะบอกเราว่า แท้จริงเธอก็มีหัวใจที่อ่อนไหวอยู่ภายใน) อีกตัวละครสำคัญคือ พอล สเปคเตอร์ ฆาตกรต่อเนื่องผู้ก่อเหตุฆาตกรรมหญิงสาวหลายรายในคดีที่สเตลล่ากำลังสืบสวน และนี่ไม่ใช่การเผลอสปอยล์แต่อย่างใด เพราะซีรี่ส์มิได้ปิดปังตัวตนและการกระทำของเขาเลย (พูดง่าย ๆ คือเฉลยให้เห็นแต่แรกว่าเขานี่แหละฆาตกรตัวจริง) ด้วยความที่ซีรี่ส์นี้มิใช่เรื่องแนวนักสืบที่ต้องลุ้นกับการค้นหาว่า ‘ใครฆ่า?’ (Whodunit) แต่ขณะเดียวกันการเปิดเผยนี้มิได้ทำให้เรื่อง ‘หมดสนุก’ แต่อย่างใด ตรงกันข้าม สิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นและชวนค้นหามากที่สุดก็คือตัวตนของ พอล สเปคเตอร์ เพราะเขาเชี่ยวชาญในการใช้ ‘ชีวิตสองด้าน’ ได้อย่างแนบเนียนและร้ายกาจ ด้านหนึ่งก็คือในฐานะฆาตกรต่อเนื่องที่ ‘หมกมุ่น’ กับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวซึ่งมี ‘สเป็ก’ หรือบุคลิกลักษณะค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ทั้งหน้าตา, อายุ, สีผม ฯลฯ ตลอดจนแบบแผนวิธีการในการฆ่าและจัดการกับศพ กับตัวตนอีกด้านคือในฐานะคุณพ่อ (รูปหล่อสุดฮ็อต) ที่มีครอบครัวอบอุ่นกับภรรยาและลูกสองคน!!! ความสนุกเข้มข้นของ The Fall จึงอยู่ตรงที่พอลไม่เพียงเป็น ‘มือโปรฯ’ ในเรื่องการใช้ฉากหน้าของความเป็น ‘แฟมิลี่แมน’ ผู้น่ารัก ปกปิด ‘ตัวตนแท้จริง’ ในฐานะฆาตกรที่น่าหวาดกลัวเอาไว้ได้อย่างแนบสนิทชนิดที่หลอกคนรอบข้าง (เกือบทุกคน) ให้เชื่อได้อย่างสนิทใจ แต่ที่น่าติดตามไม่แพ้กันคือ เรื่องราวความเป็นมาของชีวิตที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ของเขาที่จะทยอยเปิดเผยออกมาทีละนิด ๆ เมื่อการสืบสวนคืบหน้าไปเรื่อย ๆ ประกอบกับความเข้มข้นลุ้นระทึกเมื่อฆาตกรหัวหมออย่างพอล ต้องมาปะทะกับตำรวจสืบสวนที่ชาญฉลาดและเยือกเย็นดั่งราชินีน้ำแข็งเช่นสเตลล่า ทั้งคู่จึงเป็นสุดยอดคู่ปรับชนิดที่เรียกเป็นอื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก ‘มวยถูกคู่’ ที่สมน้ำสมเนื้อกันเหลือเกินสรุป ส่วนตัวสำหรับผู้เขียน The Fall เป็นซีรี่ส์ที่ทำให้รู้สึกเสียดายอยู่สองอย่าง หนึ่งคือ โมโหตัวเองที่เลือกดูซีรี่ส์เรื่องนี้ช้าเกินไป เพราะกว่าจะได้ชมแบบจริง ๆ จัง ๆ จนจบบริบูรณ์ ก็เพิ่งไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง แม้นี่จะไม่ใช่ซีรี่ส์ใหม่ (ออกอากาศที่สถานีเดิม BBC Two ตั้งแต่ปี 2013 – 2016 ปัจจุบันมี 2 ซีซั่นแรกให้ชมทาง Netflix) ส่วนเรื่องที่สองคือ เรื่องจบเร็วไปนิด เพราะซีรี่ส์มีทั้งหมดแค่ 3 ซีซั่น จำนวนซีซั่นละ 5 – 6 ตอนเท่านั้น (ตามสไตล์ซีรี่ส์อังกฤษ) ความยาวตอนละประมาณ 60 – 90 นาที รวมทั้งหมดจบบริบูรณ์เพียง 17 ตอน ทว่าเนื้อหาโดยรวมนั้นเข้มข้นลงลึกเพราะทั้ง 17 ตอนนี้เล่าถึงคดีของฆาตกรคนเดียวคือ พอล สเปคเตอร์ เท่านั้น คอซีรี่ส์ที่มีเวลาว่างไม่มาก หรือต้องเฉลี่ยดูกับซีรี่ส์โปรดเรื่องอื่น ๆ The Fall คือตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะซีรี่ส์ดี ๆ ดูช้าไปเป็นปีก็ดีกว่าไม่ได้ดูสักทีมิใช่หรือ? ขอขอบคุณภาพจาก Official จากเว็บไซต์สถานี BBC TWO และ Netflix รูปภาพปก / รูปภาพประกอบที่ 1 / รูปภาพประกอบที่ 2 / รูปภาพประกอบที่ 3 / รูปภาพประกอบที่ 4 / รูปภาพประกอบที่ 5 / รูปภาพประกอบที่ 6