หากจะมีหนังสกุลไหนสักสกุลหนึ่ง ที่สามารถรวมเอาความมืดหม่น ความรุนแรง ความฉ้อฉล การหักเหลี่ยมเฉือนคม ทรยศหักหลัง คุณธรรมน้ำมิตร ความผูกพันธ์ในครอบครัว ความรักหนุ่มสาว และการตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งดีและเลวในคนคนหนึ่ง มาไว้ในเรื่องเดียว บรรจุมวลสารเหล่านั้นลงไปในขวด เขย่ารวมกันแล้วกลายเป็นเนื้อเดียวได้อย่างลงตัว นั่นคือ หนังแนวเจ้าพ่อมาเฟีย หรืออย่างที่ฝรั่งเรียกกันว่า Gangster วงการภาพยนตร์ก่อกำเนิดหนังมาเฟียขึ้นมากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายเรื่องถูกอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนหิ้ง ติดป้าย Classic สีทอง หลายเรื่องบรรจุอยู่ในตำราเรียนด้านภาพยนตร์ให้คนได้ศึกษา แต่ถ้าพูดถึงหนังมาเฟียที่วางอยู่ชั้นบนสุดของหิ้ง และไม่ใช่เพียงเป็นหนังชั้นครูในหมู่หนังมาเฟีย แต่เป็นหนังชั้นครูในหมู่หนังทั้งมวล คนดูหนัง 99 เปอร์เซ็นต์ คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "The Godfather" ผลงานของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ นาม Francis Ford Coppola The Godfather เดิมทีเป็นนวนิยาย Best Saller โดยการประพันธ์ของ Mario Puzo นักเขียนอเมริกัน เชื้อสายอิตาเลียน เขาไม่เพียงเขียนนิยายขายดีไว้หลายเรื่อง (ส่วนใหญ่เป็นนิยายแนวมาเฟีย อาชญากรรม) แต่ยังเขียนบทภาพยนตร์ที่สร้างจากงานประพันธ์ของตัวเอง แถมยังเขียนบทให้กับหนังที่บอกไปคุณอาจจะไม่เชื่อ นั่นคือ Superman (1978) และ Superman II (1980) เนื้อเรื่อง The Godfather ว่าด้วยครอบครัวมาเฟียเชื้อสายซิซิเลียน ที่มีอิทธิพลกว้างขวางใน New York ภายใต้การปกครองอันเข้มแข็ง ชาญฉลาด และยุติธรรม ของ Don Vito Corleone ซึ่งเป็นทั้งพ่อและหัวหน้าตระกูล ผู้คอยควบคุมดำเนินการธุรกิจทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย และคอยชักใยผู้คนใต้บงการให้ทำตามที่ตัวเองต้องการ ด้วยวิธีต่าง ๆ นับตั้งแต่ สร้างบุญคุณ สร้างความเคารพ ซื้อความภักดีด้วยเงินสินบน การบังคับขู่เข็ญ หรือแม้กระทั่งการฆ่า ตะกูล Corleone ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ด้วยสองมือของ Don Vito แต่ยามนี้เขาแก่ชรามากแล้ว ใกล้ถึงเวลาต้องลงจากบัลลังก์ แล้วส่งต่องานทั้งหมดให้ลูกชายทั้ง 3 ดูแล แต่เมื่อทอดตาไปยังลูกชายแต่ละคน ผู้เป็นพ่อก็มีอันต้องหนักใจ Sonny ลูกชายคนโต อารมณ์ร้อน วู่วาม ทำการไม่คิดหน้าคิดหลัง Fredo ลูกชายคนรอง ฉลาด แต่อ่อนแอ Michael ลูกชายคนที่สาม ฉลาด เข้มแข็ง แต่กลับไม่ชอบที่ครอบครัวตัวเองทำเรื่องผิดกฏหมาย ขณะที่ตระกูลกำลังสั่นคลอน กลุ่มนักเลงรุ่นใหม่ก็หาญกล้าก้าวขึ้นมาท้าทาย หวังกระชากตระกูล Corleone ลงจากอำนาจ กระทั่งกลายเป็นชนวนสงครามระหว่างแก๊ง ที่ต่างฝ่ายต่างโถมความรุนแรงเข้าใส่กันถึงขั้นไร้ปราณี Coppola ใช้วิธีเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเนิบนาบ แต่เป็นความเนิบนาบที่จำเป็น เพราะเขาต้องการให้คนดูรู้จักตัวละครแต่ละตัวที่มีมิติและปมเป็นของตัวเอง การกระทำของตัวละครเหล่านี้จะส่งผลกับเนื้อเรื่องอย่างใหญ่หลวงต่อไปในภายหน้า ทุกคนจึงมีควมสำคัญและต้องให้เวลาพอสมควร จุดนี้ผู้กำกับทำได้อย่างลื่นไหล ไม่น่าเบื่อ แถมยังส่งให้ดูมีคลาสด้วยงานภาพที่สวยงาม ดนตรีประกอบที่ลุ่มลึก เข้ากับโทนของหนังอย่างพอดิบพอดี เต็มไปด้วยความละเอียดประณีต เนื้อเรื่องน่าติดตามในทุกขณะจิต บางฉากคนดูอาจจะสามารถเดาได้ก่อนมันจะเกิด แต่ความน่าตื่นเต้นก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย บางฉากพาไปถึงขั้นระทึกขวัญสั่นประสาท จังหวะปะทะรุนแรง หนักหน่วง สะเทือนอารมณ์ การสร้างอารมณ์ในเชิงดราม่าทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะหนังเรื่องนี้รวบรวมนักแสดงฝีมือเยี่ยมไว้คับคั่ง (หลายคนได้รางวัลออสการ์ สาขาการแสดงในวาระต่อมา) แม้วิธีการแสดงอาจจะดูเชยๆไปบ้างตามยุคสมัยที่สร้าง แต่ก็นับว่าดีเกินมาตรฐานไปไกล สำหรับ Marlon Brando ผู้รับบท Don Vito Corleone ได้ฝากการแสดงที่เป็นตำนานเอาไว้ให้โลกจดจำ ทำให้ตัวละครที่เขาแสดงกลายเป็นประหนึ่งอนุสาวรีย์แห่งวงการภาพยนตร์โลก หนังมาเฟียที่สร้างในยุคหลัง จะมากจะน้อยล้วนมีตัวละครที่ได้รับอิทธิพลจาก Don Corleone งานสร้างฉาก งานตัดเย็บเสื้อผ้า การเลือกสถานที่ถ่ายทำ เนี๊ยบกริบไร้ร่องรอย หาที่ติตรงไหนไม่ได้เลยแม้แต่จุดเดียว จะมีหนังเรื่องไหนในโลกสามารถสร้างสรรค์งานออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้? ถ้าคุณกำลังมองหาหนังมาเฟียแนวสุขุมนุ่มลึก เล่าเรื่องอย่างใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไป ละเอียดประณีตในทุกกระเบียด The Godfather เป็นหนึ่งเรื่องที่คุณ ไม่ควรพลาด แต่ถ้าชอบแนวบู๊สนั่น สาดกระสุน ระเบิดภูเขา เผาเมือง ซิ่งรถกระโดดข้ามตึก ฯลฯ แนะนำให้ดูเรื่องอื่นดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา สามารถรับชม The Godfather ได้ง่าย ๆ ทาง Netflix ผ่านกล่อง ทรูไอดีทีวี แล้ววันนี้.ขอบคุณ ภาพปก จาก imdb.comขอบคุณ ภาพที่1 จาก imdb.comขอบคุณ ภาพที่2 จาก imdb.comขอบคุณ ภาพที่3 จาก imdb.com