ณเวลานี้ผมเชื่อว่าไม่มีใครในสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จักคุณเจน - คุณนุ่น – คุณโบว์ วงซูเปอร์วาเลนไทน์ที่กำลังดังเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตกในเวลานี้บนแอพพลิเคชั่น ที่มีชื่อว่าTiktok ที่มีผู้คนในสังคมออนไลน์นำมาเต้น Cover และส่ง Challenge ต่อกันจนเกินกระแสแพร่หลายกันในวงกว้าง ผมมีความเชื่อว่ามีผู้คนไม่มากก็น้อยที่มีความสงสัยว่าทำไมซูเปอร์วาเลนไทน์ และแอปพลิเคชั่น Tiktok ถึงมีความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้มันเพราะอะไรกันแน่ ก่อนที่เราจะมาหาคำตอบของคำถามนี้กันผมมีอีกหนึ่งคำถามที่สำคัญไม่แพ้กันกับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ที่เราต้องเจอกับปัญหาโรคระบาดไวรัสโควิด19,ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาสภาพการใช้ชีวิตช่วงเคอร์ฟิวนั้นก็คือความสุขของเราคืออะไรและเราจะบอกกับตัวเองได้อย่างไรว่าตอนนี้เรามีความสุขเพียงพอสำหรับต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่กำลังเผชิญอยู่ในช่วงเวลานี้จากหนังสือHomo Sapiens ที่เกี่ยวกับประวัติโดยย่อของมนุษย์ชาติและเขียนโดยคุณยูวัล โนอาห์ แฮรารี ซึ่งเนื้อหาในหนังสือมีบทหนึ่งที่ได้เขียนเกี่ยวกับความสุขของมนุษย์ชาติคือ ? ในหนังสือ Homo Sapiens ได้กล่าวไว้ว่าจริงๆเเล้วความสุขของเราเป็นเพียง Biochemical ( ปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย ) ของ เซโรโทนิน,โดพามีน และออกซิโทซิน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเรามีความรู้สึกภายในจิตใจของเราตามอัตวิสัยแต่ละปัจเจกชนต่อความรับรู้ไม่ว่าจะเป็นความหรรษาแบบฉับพลันทันใดเช่นการถูกล็อตเตอรี่ , การได้เลื่อนตำแหน่งหรือความยินดีต่อวิถีตนเองในระยะยาวซึ่งจะเห็นได้ว่าความสุขมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา ดังนั้นหากเราจะวัดความสุข เราจะสามารถวัดมันได้อย่างไร แล้วอะไรกันแน่ที่มีผลต่อความสุขของเราที่แท้จริง และจากความสงสัยในเรื่องนี้จึงมีนักวิทยาศาสตร์ และนักจิตวิทยาได้มีการศึกษาเรื่องการวัดค่าความสุข เพื่อจะหาว่ามีปัจจัยอะไรที่มีผลต่อระดับความสุขของคนเรา ในการทดลองได้มีการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งหมื่นคนและได้แยกผู้ศึกษาออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่มีรายสูงและกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ เพื่อจะศึกษาระดับความสุขตามหลักการอัตวิสัยซึ่งเป็นสากลที่ยอมรับกัน โดยให้ค่าการประเมินจากหนึ่งถึงสิบจากผลการศึกษาสรุปได้ว่า ค่าเฉลี่ยของระดับความสุขของกลุ่มที่มีรายได้สูงอยู่ที่ประมาณแปด และค่าเฉลี่ยของระดับความสุขของกลุ่มที่มีรายได้ต่ำอยู่ประมาณเจ็ด นั้นแสดงให้เห็นว่าเงินมีผลต่อค่าระดับความสุขของเรา แต่นั้นก็ไม่ใช่ทั้งหมดซึ่งหมายความว่าเงินนั้นมีผลต่อความสุขของเราก็จริงเพราะเราใช้เงินตราในการซื้อสิ่งที่เรามีความคาดหวัง ตามอัตวิสัยแต่ละปัจเจกชนเช่นบ้าน,รถ,อาหาร และยารักษาโรคแต่หากมีเงินมากถึงจุดๆหนึ่งเงินนั้นจะส่งผลต่อระดับความสุขของเราน้อยมาก ตัวอย่างเช่นหากคุณมีเงินเดือนประมาณหนึ่งหมื่นบาท หากคุณถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งล้านบาท ผมเชื่อว่าคุณอาจจะยินดีกับการถูกล็อตเตอรี่ นี้ไปเป็นเดือนๆหรืออาจจะเป็นปีด้วยซ้ำแต่หากคุณมีเงินเดือนสามแสนบาท แล้วถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งล้านบาท คุณอาจจะดีใจกับการถูกล็อตเตอรี่ไปสักหนึ่ง หรือ สองสัปดาห์นั้นแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเราจะมีเงินเดือนสูงหรือต่ำสุดท้ายแล้วความรู้สึกดีใจกับการถูกล็อตเตอรี่ก็จะค่อยๆจางหายไป จนกลับมาที่ความรู้สึกแบบเดิม หรือ เท่าเดิมก่อนถูกล็อตเตอรี่และจะเหลือเพียงความทรงจำที่เก็บไว้ หากเงินทองที่เปรียบเสมือนพรจากยักษ์จินนี่ในตะเกียงวิเศษของอาราดิน ที่สามารถจะเสกของได้เกือบทุกอย่างบนโลกให้เราได้ยังไม่สามารถให้ความสุขที่แท้จริงกับเราได้ แล้วอะไรกันละที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆจากผลการศึกษาเรื่องระดับความสุขดังที่ได้กล่าววในขั้นตอนซึ่งมีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับปริมาณหรือ ระดับความสุขของคนขึ้นอยู่กับการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีและแน่นแฟ้นกับสังคมไม่ว่าจะเป็นกับชุมชน,ครอบครัว,คู่ครองหรือญาติพี่น้องซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าหากคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงและสภาพการเป็นอยู่อย่างอัตคัดแต่อยู่ในชุมชน, ครอบครัวและคู่ครองที่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมีแนวโน้มอย่างมากว่าจะมีระดับความสุขมากกว่า คนที่ร่างกายแข็งแรงและสภาพการเป็นอยู่ดีแต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์หรือมีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อชุมชน,ครอบครัวหรือคู่ครองดังนั้นเราอาจจะสรุปได้ว่าระดับความสุขไม่ได้ขึ้นกับสภาวะทางวัตถุวิสัยต่างๆเลยไม่ว่าจะเป็นความร่ำรวย,สุขภาพหรือแม้แต่ชุมชนแต่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างสภาวะทางวัตถุวิสัย และความคาดหวังแบบอัตวิสัยต่างหาก ที่เป็นตัวกำหนดระดับความสุขของเรา หลังจากเราได้คำตอบของคำถามว่าความสุขคืออะไรแล้วผมขออนุญาตกลับไปที่คำถามแรกของเรากันว่าทำไมวงซูเปอร์วาเลนไทน์ในแอพพลิเคชั่น Tiktok จึงเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน และหากย้อนกลับมาดูสถานการณ์โรคระบาดโควิด19ณปัจจุบันที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกที ซึ่งดูได้จากยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตดังนั้นภาครัฐจึงได้มีการออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อมาแก้ไขปัญหา หรือลดความรุนแรงของปัญหานี้มากมายหลายมาตราการ เช่น กำหนดให้ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย,ส่งเสริมให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม,การกำหนดไม่ให้มีการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงเป็นต้นแต่มาตราการที่ส่งผลต่อความรู้สึกเรามากที่สุดคง หนีไม่พ้นมาตราการเคอร์ฟิวบังคับให้เราอยู่ที่พักในช่วงเวลาที่ทางภาครัฐกำหนด และมีแนวโน้มจะเพิ่มเวลาขึ้นอีกหากสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด19ไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงกว่าเดิมซึ่งผมเชื่อว่ามันมีผลต่อระดับความสุขของเราลดลงอย่างมากเพราะการที่เราถูกกักตัวอยู่ที่บ้านหรือที่พักมันส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุวิสัยกับความคาดหวังแบบอัตวิสัยลดลงเช่นการไม่ได้ออกไปมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง,ญาติพี่น้องหรือคนรักหรือไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุวิสัย เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ตามที่เราคาดหวังเช่นไม่ได้ไปช๊อปปิ้งซื้อของที่อยากได้,ไม่ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่อยากไปหรือไม่ได้ขับรถสปอร์ตคันใหม่ที่พึ่งซื้อมาเป็นต้นดังนั้น ธรรมชาติของมนุษย์เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น และส่งผลให้เกิดความทุกข์ขึ้นในจิตใจสมองของคนเราจะมีระบบอัตโนมัติในการค้นหาวิธีการแก้ไขความที่เกิดขึ้นนั้นให้ลดลง หรือกำจัดมันออกไปซึ่งความทุกข์ที่เราเผชิญในช่วงเคอร์ฟิวนั้นก็คือการไม่ได้รับประสบการณ์ จากวัตถุวิสัยตามที่คาดหวังและการไม่มีปฏิสัมพันธ์กับ ชุมชนโดยทั้ง2สาเหตุของความทุกข์มีขั้นตอนและวิธีการที่ต้องแก้ไขแตกต่างกันไปและเงื่อนไขในชีวิตแต่ละปัจเจกชนแต่สมองของเรานั้นจะวิ่งหาสาเหตุของความทุกข์ที่แก้ไขง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกที่จะแก้ไขการไม่มีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนเป็นตัวเลือกแรกที่จะนำมาแก้ไขเพื่อลดความทุกข์ และเพิ่มระดับความสุขในจิตใจของเรา เราจะเห็นได้ว่าโลกในยุคปัจจุบันเป็นยุคGobolization Society ที่สังคมของผู้คนบนโลกที่ไร้รอยต่อไร้พรมแดนทางกายภาพหรือระยะทางด้วยเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Internet ทำให้ผู้คนบนโลกสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ต่างที่หรือแม้กระทั่งอยู่กันคนละมุมโลกโดยชุดเครื่องมือที่ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์บน Internet นั้นมีมากมายแต่ผมจะกล่าวถึงเฉพาะชุดเครื่องมือที่ผู้คนใช้ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กันเป็นวงกว้างจนก่อให้เกิดเป็นชุมชนหรือสังคมขนาดใหญ่ได้แก่ Facebook , YouTube , Twister และ Tiktokหากมีเครื่องมือที่สามารถสร้างปฎิสัมพันธ์มากมายขนาดนี้และอะไรละที่ทำให้Tiktokมีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ก่อนที่เราจะมาหาคำตอบกันผมอยากจะให้เข้าใจวัตถุประสงค์ของแต่ละชุดเครื่องมือที่ผมได้กล่าวมาในขั้นต้นว่ามันมีหน้าที่ในการสร้างปฏิสัมพันธ์ของคนในชุมชน หรือสังคมออนไลน์ได้อย่างไรตัวแรกนั้นก็คือ Facebook ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้งานจะใช้แชร์เรื่องราวของตัวเองว่าตอนนี้เราคิดหรือทำอะไรอยู่กับผู้คนในสังคมเดียวกันเพื่อให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์การแชร์เรื่องราวซึ่งกันและกันตัวที่สองก็คือ You tube ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้งานจะใช้แชร์ ข้อมูลต่างๆในรูปแบบ VDO ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นความรู้หรือข้อมูลที่เป็นบรรเทิงในสังคมเดียวกันเพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์การแชร์ข้อมูลซึ่งกันและกันตัวที่สามก็คือ Twister ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้งานจะแชร์ความคิดเห็นตัวเองต่ออะไรบางอย่างกับผู้คนที่มีความเชื่อเหมือนกันในสังคมเดียวกันเพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันตัวสุดท้ายนี้ก็คือ Tiktok ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่มีผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้งานจะแชร์คลิปสั้นๆที่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีที่เป็นข้อมูลจำเพาะที่เป็นความบรรเทิงหรือหรรษา กับผู้คนที่อยู่ในสังคมเดียวกันและบวกกับกฏเกณฑ์ในสังคมที่มีการกำหนดขึ้นมาให้มีการ Challenge (การท้าท้ายซึ่งกันและกัน) ซึ่งส่งผลให้เกิดปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจมีการเกิดกระแสความนิยม Tiktok เป็นที่แพร่หลายอย่างมากในปัจจุบันเพราะ Tiktok สามารถที่จะตอบโจทย์และแก้ไข plain point ของผู้คนมากมายที่มีความทุกข์จากมาตรการของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคมและเคอร์ฟิวที่ต้องกักตัวอยู่แต่ภายในที่พักโดย Tiktok จะเป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างปฎิสัมพันธ์ที่ง่ายต่อการรับรู้ด้วยกฏเกณฑ์จำเฉพาะโดยใช้คลิปวีดีโอสั้นๆไม่กี่วินาทีในการสื่อสารข้อมูลที่เน้นรูปแบบบรรเทิงที่ง่ายต่อความเข้าใจจึงส่งผลให้ผู้ใช้งานมีระดับความสุขเพิ่มขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในสังคมและข้อมูลในเชิงบวกที่ได้รับจาก Tiktok นั้นเองในส่วนของซูเปอร์วาเลนไทน์ที่กำลังฮิตและเป็นกระแส ณปัจจุบันในแอปพลิเคชั่น Tiktok ก็เป็นเพียงContentหนึ่งเท่านั้นเองดั้งนั้นต่อไปก็อาจจะมีแบบซูเปอร์วาเลนไทน์เกิดขึ้นอีกมากมายแล้วแต่ผู้คนในสังคม Tiktok จะนำอะไรมาแชร์ซึ่งกันและกันแล้วหากContentไหนมีความนิยมแพร่หลายก็จะกลายมาเป็นเหมือนซูเปอร์วาเลนไทน์นั้นเองดังนั้นในช่วงเวลานี้ผมเชื่อว่า Tiktok จึงเป็นยาตัวหนึ่งที่จะช่วยให้เราต่อสู้กับความทุกข์ในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดีหากเราเปิดจที่จะเรียนรู้มันครดิตรูปทั้งหมดรูปภาพปก (รูปภาพโดยผู้เขียน)รูปที่ 1 (Photo by ร้านนายอินทร์ )รูปที่ 2 (Photo by freepik )รูปที่ 3 (Photo by freepik ) รูปที่ 4 (Photo by freepik ) รูปที่ 5 (Photo by freepik ) รูปที่ 6 (Photo by freepik )