ชีวิตของคนเราต้องผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย และการเรียนของผมในช่วงประถมศึกษา เป็นช่วงในการฝึกฝนและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หลายอย่าง เช่น ฝึกเขียนหนังสือ ฝึกอ่านหนังสือ ฝึกเล่นกีฬา และฝึกทักษะต่าง ๆ หนึ่งในนั้นที่โรงเรียนของผมสอนก็คือ ทักษะการเล่นดนตรี ผมได้ยินแว่ว ๆ ว่า นักเรียนทุกคนต้องสามารถเล่นเครื่องดนตรี ได้อย่างน้อย 1 ชนิด โรงเรียนของผมก็สนองนโยบาย โดยจัดหลักสูตรการสอนวิชาดนตรีขึ้นมา โดยสอนนักเรียนเล่นเครื่องดนตรีไทย เพราะเป็นการอนุรักษ์เครื่องดนตรีไทย เพื่อไม่ให้สูญหายไปจากวัฒนธรรม เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ เห็นความงดงามของเครื่องดนตรีของไทยรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ ขลุ่ยเพียงออ เป็นเครื่องดนตรีไทยที่โรงเรียนของผมได้สอน และเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ผมได้รับจากการเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษา เป็นประโยชน์มาก ๆ ครับ เพราะขลุ่ยเพียงออเป็นเครื่องดนตรีที่มีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย สามารถฝึกได้ง่าย ๆ โดยขายเลาละไม่เกิน 100 บาท หรือตามคุณภาพของขลุ่ย ราคาถูกและสบายกระเป๋ามาก ๆ หลายคนใช้ขลุ่ยและเล่นดนตรีในการหารายได้เสริม เช่น เปิดรับบริจาค แสดงความสามารถ เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ วันนี้ผมจะพาทุกคนมาใช้ขลุ่ยเพียงออกันครับ รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ ลักษณะและรูปร่างของขลุ่ยเพียงออขลุ่ยเพียงออ มีลักษณะนามคือ เลา เป็นรูปทรงกระบอกยาว ด้านบนสุดจะเป็นที่เป่า โดยมีรูเป่าอยู่ด้านบน ขลุ่ยจะมีสองด้านคือ ด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหน้าจะมี รูระดับเสียง 7 รู และมีรูตั้งเสียง อยู่ด้านล่างสุด 1 รู ส่วนด้านหลัง จะมีช่องหรือรูปากนกแก้ว เพื่อทำให้มีเสียง ถัดลงมาเป็นรูนิ้วค้ำ 1 รู และด้านล่างสุด เป็นรูตั้งเสียง ด้านข้างของขลุ่ยจะมีการเจาะรูเพื่อร้อยเชือก ทำให้เกิดความสะดวกในการเก็บ เรารู้จักขลุ่ยพอคร่าว ๆ แล้ว เรามาดูการใช้ขลุ่ยกันเลยครับ รูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ วิธีใช้ขลุ่ย : วิธีใช้ขลุ่ยนั้นไม่ยาก ก่อนที่จะไปรู้วิธีการใช้ เรามาดูโน้ตขลุ่ยกันก่อนว่ามีโน้ตอะไรบ้าง โน้ตขลุ่ยก็ไม่ยาก เป็นโน้ตโดยทั่วไปที่ทุกคนรู้จัก คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที และโด(สูง) โดยจะมีตัวย่อ คือ ด ร ม ฟ ซ ล ท และ ดํ ไม่ยากใช่ไหมละ มาดูการเล่นและวิธีการใช้ขลุ่ยเพียงออกันเลย โดยรูปที่ผมนำมาจะเป็นรูปที่ถ่ายจากการสะท้อนแบบกระจกนะครับ เพื่อความเข้าใจง่ายในการเรียนรู้ วิธีการจับขลุ่ยจะจับขลุ่ยสองมือ มือขวาจะจับด้านบน ( 4 นิ้ว ) ใช้นิ้วชี้ ปิดที่รูที่ 1 นิ้วกลาง ปิดที่รูที่ 2และนิ้วนาง ปิดที่รูที่ 3ส่วนนิ้วโป้งจะปิดที่รูนิ้วค้ำ ทางด้านหลังมือซ้าย จะจับอยู่ด้านล่าง ลักษณะคล้ายมือขวา จะใช้ทุกนิ้วนิ้วโป้งจะเป็นนิ้วที่ค้ำกับขลุ่ยนิ้วชี้ จะปิดรูที่ 4นิ้วกลาง จะปิดรูที่ 5นิ้วนาง จะปิดรูที่ 6และนิ้วก้อย จะปิดรูที่ 7โดยการปิดทุกนิ้วต้องปิดรูให้สนิท เพราะจะทำให้เสียงขลุ่ยเกิดความไพเราะ และไม่มีความเพี้ยนของเสียง ดังรูป1. การเป่าเสียงโดรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงโด หรือ ด ใช้นิ้วทุกนิ้วปิดที่ช่อง ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1นิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วนางขวา ปิดที่รูที่ 3นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยนิ้วชี้ซ้าย ปิดที่รูที่ 4นิ้วกลางซ้าย ปิดที่รูที่ 5นิ้วนางซ้าย ปิดที่รูที่ 6และนิ้วก้อยซ้าย ปิดที่รูที่ 7 ถ้าครบทุกรูแล้วเป่าโดยใช้ลมจากปอด ( ห้ามกระแทกลมในการเป่า ) โดยการเป่าช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงโด 2. การเป่าเสียงเรรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงเร หรือ ร ไม่ต้องปิดนิ้วก้อยซ้าย และ ปิดช่องทุกนิ้ว ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1นิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วนางขวา ปิดที่รูที่ 3นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยนิ้วชี้ซ้าย ปิดที่รูที่ 4นิ้วกลางซ้าย ปิดที่รูที่ 5และ นิ้วนางซ้าย ปิดที่รูที่ 6เป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงเร3. การเป่าเสียงมีรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงมี หรือ ม ไม่ต้องปิดนิ้วก้อยซ้าย นิ้วกลางซ้าย และ ปิดช่องทุกนิ้ว ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1นิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วนางขวา ปิดที่รูที่ 3นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยนิ้วชี้ซ้าย ปิดที่รูที่ 4และ นิ้วกลางซ้าย ปิดที่รูที่ 5เป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงมี4. การเป่าเสียงฟารูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงฟา หรือ ฟ ไม่ต้องปิดนิ้วก้อยซ้าย นิ้วกลางซ้าย นิ้วกลางซ้าย และ ปิดช่องทุกนิ้ว ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1นิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วนางขวา ปิดที่รูที่ 3นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยและ นิ้วชี้ซ้าย ปิดที่รูที่ 4 เป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงฟา5. การเป่าเสียงซอลรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงซอล หรือ ซ ไม่ต้องปิดนิ้วที่ใช้ในมือซ้าย แต่ใช้นิ้วโป้งซ้ายค้ำที่ขลุ่ย และ ปิดช่องทุกนิ้ว ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1นิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วนางขวา ปิดที่รูที่ 3และ นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยเป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงซอล6. การเป่าเสียงลารูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงลา หรือ ล ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1และนิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยเป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงลา7. การเป่าเสียงทีรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงที หรือ ท ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังและนิ้วชี้ขวา ปิดที่รูที่ 1นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยเป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงที8. การเป่าเสียงโดสูงรูปภาพถ่ายโดย : เจ้าของบทความ การเป่าเสียงโดสูง หรือ ดํ ( ดังรูปสะท้อน )นิ้วโป้งขวา ปิดที่รูค้ำนิ้วอยู่ด้านหลังและนิ้วกลางขวา ปิดที่รูที่ 2นิ้วโป้งซ้าย ค้ำอยู่ด้านหลังของขลุ่ยเป่าลมช้า ๆ ขลุ่ยจะมีเสียงโดสูง การเป่าขลุ่ยต้องใช้ทักษะในการคุ้นชินของขลุ่ยเป็นอย่างมาก โดยฝึกไล่โน้ต ดรมฟซลทดํ และไล่ลงมา ดํทลซฟมรด ฝึกไล่ระดับตัวโน้ต ไปเรื่อย ๆ จนมีความคุ้นเคย ทำประมาณ 20 ครั้ง ไล่ระดับโน้ตขึ้นลง พอคุ้นชินแล้ว ก็พยายามจำโน้ตของขลุ่ย มีเพลงง่าย ๆ ให้หัดเป่า เช่น เพลงช้าง เพลงลาวจ้อย เพลงลอยกระทง และเพลงอื่น ๆ จึงค่อยเพิ่มระดับ ที่ยากขึ้น ถ้าฝึกฝนตามรูปจะง่ายกว่า ทำตามข้างที่เห็นเลยนะครับ เพราะจะได้ง่ายต่อการเรียนรู้ การใช้ขลุ่ยต้องมีความคุ้นเคยอยู่มาก ต้องฝึกฝนจนชิน ถึงจะสามารถเป่าขลุ่ยได้ และมีทักษะในการเป่าขลุ่ย ผมใช้เวลาในการเป่า ประมาณ 1 ปี จึงจะคล่อง และต้องฝึกจำโน้ตเพลงให้ได้ จึงจะเป่าขลุ่ยได้ ฝึกเป่าบ่อย ๆ แต่อย่าไปเป่ารบกวนคนอื่นให้เขารำคาญหละ เพราะเสียงขลุ่ยอาจจะไปรบกวนคนอื่น ต้องพยายามฝึกในห้อง หรือที่เงียบ ๆ ตามท่องไร่ ท้องนา สู้ ๆ นะครับ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่อินเตอร์เน็ต และ YouTube ได้ มีคลิปวิดิโอสอนเยอะแยะมากมาย ลองไปดูกันได้ครับ บทความนี้สอนแค่เทคนิคเบื้องต้นครับบทความและรูปภาพโดย : hitERlist เจ้าของบทความ