ก่อนที่เราจะทำอะไรนั้น ต้องหาข้อมูลให้ดี รอบคอบและถี่ถ้วน ถ้าไม่ศึกษาให้ดีเสียก่อน อาจเกิดปัญหาตามมาได้ ทำให้เราถอดใจก่อน งานชิ้นนั้นจะไม่เสร็จและลุล่วงไปได้ด้วยดี วัยรุ่นสมัยนี้ยิ่งมีความใจร้อน และรีบด่วนตัดสินใจ ในการที่คิดทำอะไรต่าง ๆ วันนี้ผมจะมาเล่าถึงสิ่งที่ก่อนจะจัดฟันเราต้องรู้ไว้ก่อน เพื่อเป็นข้อมูล สำหรับคนที่ยังไม่มีข้อมูล และคิดอยากจะจัดฟัน ว่าต้องเตรียมการเช่นไร มีอะไรที่ต้องเจอ ถ้าไม่มีข้อมูลถ้าเราไปพบเจอปัญหา อาจทำให้เราถอดใจได้ และการจัดฟัน เป็นสิ่งที่ต้องคิดให้รอบคอบ ก่อนที่จะขึ้นเขียง หลายคนอาจหาข้อมูลมามากพอแล้ว แต่วันนี้ผมจะเล่าในฉบับที่ผมเจอมากับตัวเอง และอยากนำมาถ่ายถอดให้ทุกคนได้ฟัง เพื่อเป็นวิทยาทานครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะครับ เครดิตภาพ : pixabay.com ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลสำหรับการจัดฟันเลย เพียงคิดแต่ว่า จะจัดฟันให้ได้ โดยไม่คำนึงผลที่ตามมา ผมไม่อยากให้เพื่อน ๆ เป็นแบบผม ผมเคยคิดที่จะล้มเลิกความคิดนี้ ในตอนที่ผมติดอุปกรณ์จัดฟันอยู่ เพียงเพราะไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างรอบครอบ และละเอียด แต่ตอนนั้นผมคิดแต่ว่าไหนไหน ก็เลือกที่จะจัดฟันแล้ว ก็ขอทำไปให้เสร็จเลย เพราะตอนนั้นผมเกือบมาได้ครึ่งทางแล้ว เพราะความไม่ย่อท้อ ทำให้ผมผ่านการจัดฟันครั้งนี้มากได้ โดยสำเร็จและราบรื่น มาดูกันว่าก่อนจัดฟัน เราต้องรู้อะไรบ้าง...จัดฟันมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเครดิตภาพ : pixabay.com คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ เพราะการจัดฟันนั้น ทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงมีค่าบริการจัดฟันที่สูง ในหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว การจัดฟันนั้น ต้องมีเงินก้อน ถึงจะจัดฟันได้ แต่ถ้าใครคิดว่า ค่อย ๆ ผ่อนเอาก็ได้ ผมขอบอกเลยว่าต้องคิดใหม่ดีดี และคิดหลาย ๆ ครั้งอย่างรอบคอบ ถ้าจะผ่อนเอา คุณต้องดูก่อนว่า ตอนนี้ทำอาชีพอะไร? ยังเรียนอยู่ไหม? ฐานะครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง? ทางที่ดีควรปรึกษากับครอบครัวดีกว่า ถ้ามันเป็นปัญหา เราต้องจัดฟันจริง ๆ ก็ลองปรึกษาครอบครัวดู ถ้าอนุญาตและพอไหว จึงค่อยเริ่มต้น แต่ถ้าการจัดฟันไม่จำเป็น หรือฟันของเพื่อน ๆ ไม่มีปัญหาจริง ๆ ผมบอกได้เลยว่าอย่าจัดฟันดีกว่า เพราะสิ่งที่ตามมานั้น ยังมีอีกหลายอย่าง ที่จะทำให้คุณถอดใจได้ คิดให้ดีดีนะครับ ก่อนจัดฟัน เพราะมันต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก อาจเดือดร้อนครอบครัวได้ครับ การจัดฟันทำให้ปวดฟันได้เครดิตภาพ : pixabay.com สภาพปัญหาช่องปากคนเราอาจจะต่างกัน บางคนปวดน้อย บางคนปวดมากในการจัดฟัน แต่ผมรับรองเลยครับ ว่าร้อยทั้งร้อย ต้องปวดฟันกับการจัดฟันแน่ ๆ และอาจทำให้เราทานอาหารไม่ได้ ในช่วงที่ปวดฟัน เพราะฟันของเราจะเจอกลไกการทำงานของยางจัดฟัน บางครั้งที่ผมปวดฟัน ผมเกือบร้องไห้เลยครับ เพราะมันทรมานมาก จริง ๆ กินยาพาราเซตามอลแล้ว ก็ยังไม่หายปวด ทำได้แค่ทำใจครับตอนนั้น ถ้าไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ ผมก็ขอให้คิดดีดี ถ้าทนได้ก็ถือว่าดีไปครับ ทำความสะอาดยากเครดิตภาพ : pixabay.com ในการดูแลทำความสะอาดนั้น ก็จะทำความสะอาดยากกว่าเดิมครับ เพราะเราติดเครื่องมือการจัดฟันมาแล้ว จึงยากมาก ๆ ต่อการทำความสะอาด เพราะช่องว่างอยู่ในปากของเราก็จะเพิ่มขึ้น หากดูแลไม่ดี หรือทำความสะอาดไม่ดี อาจส่งผลเสียต่าง ๆ ตามมา เช่น กลิ่นปาก เหงือกอักเสบ เหงือกบวม คราบฟินปูน ฟันผุ และปัญหาอื่น ๆ แน่นอนว่าถ้าคุณจัดฟันแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จะแรงขึ้นไปตาม ๆ กัน เพราะในช่องปากของเรา มีเครื่องมือจัดฟันด้วย อาจทำให้ติดเชื้อได้ด้วยครับ ต้องดูแลความสะอาดอย่างดี แต่สมัยนี้ก็มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยมีการทำแปรงสำหรับคนจัดฟันขึ้นมา ทำให้แปรงฟันได้อย่างสะดวก และทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง แต่อย่างไรก็ตาม ราคาของแปรงนั้น ก็จะเพิ่มขึ้นตามประสิทธิภาพ ปกติแล้ว ราคาแปรงปกติจะอยู่ที่ 30 - 60 บาท แปรงธรรมดาที่ดีมาก ๆ ก็แค่ 80 บาท แต่แปรงสำหรับคนจัดฟันแล้ว อยู่ในราคาหลักร้อยบาท ทำให้เสียเงินค่าแปรงสีฟันเพิ่มขึ้น และเราต้องตรวจสอบแปรงของเราดีดี เพราะผมเชื่อว่า ร้อยทั้งร้อย ถ้าจัดฟันแล้ว นำแปรงธรรมดามาแปรง จะทำให้แปรงชำรุดง่ายขึ้น ถ้าเราไม่ดูดีดี อาจทำให้แปรงไม่ได้คุณภาพ ทำความสะอาดได้ไม่ดี และอาจทำให้ปากของเราไม่มีความสะอาด และอาจติดเชื้อได้ครับ ปรับพฤติกรรมการกินเครดิตภาพ : pixabay.com เราต้องปรับพฤติกรรมการกินอย่างแน่นอน เพราะเราติดเครื่องมือจัดแล้ว การทานอาหารต่าง ๆ ก็จะลำบากมากยิ่งขึ้น เช่น ทานของชิ้นใหญ่ ๆ ไม่ได้ ทานของที่มีความเหนียวไม่ได้ เคี้ยวลำบาก จึงต้องทานอาหารแบบสุภาพ ทานชิ้นเล็ก ๆ ที่ไม่เหนียว หมากฝรั่งที่เคยเคี้ยว เราต้องหยุดเคี้ยวหมากฝรั่งเลยตอนจัดฟัน เพราะความเหนียวนั้น อาจทำให้เครื่องมือจัดฟันของเราหลุดได้ ถ้าหลุดจะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันเพิ่มมากขึ้น ผมว่ามันไม่คุ้มมาก ๆ ที่ต้องเสียเวลาเพิ่ม และอีกเมนูที่ผมชอบ มะม่วงน้ำปลาหวาน ก็ต้องหยุดทานไปเลย เพราะมะม่วงมีความแข็ง อาจทำให้เหล็กจัดฟันของเราหลุดได้ ต้องทานอะไรด้วยความระมัดระวัง ของที่เราชอบทาน อาจได้งดเลย คุณทำได้หรือเปล่า ที่จะไม่ได้ทานของอร่อย ๆ หลายปี ระยะเวลาการจัดฟันค่อนข้างนานเครดิตภาพ : pixabay.com การจัดฟันนั้น ไม่ใช่วันสองวัน แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี ในการจัดฟัน แล้วแต่ความยากของกรณีนั้น ๆ ถ้าใครฟันเรียงอยู่แล้ว นานสุดก็แค่ 2 ปี แต่สำหรับผม 2 ปีมันนานมาก ๆ ต้องทนอยู่กับเหล็กจัดฟัน ตั้งสองปี ทำให้ลำบากต่อการใช้ชีวิต เพราะการใส่เหล็กจัดฟัน ทำให้เกิดความลำบาก สำหรับผมมาก ๆ เพราะเราจะพูดไม่ชัด และนอนน้ำลายไหลตลอด ใครที่ต้องร้องเพลง หรือ ทำงานพิธีกร ผมบอกได้เลยว่าลำบากมาก ๆ ถ้าเราต้องจัดฟัน ลองคิดดูให้ดีดีก่อนนะครับ ก่อนเริ่มจะจัดฟัน นอกจากเวลานานแล้ว ยังมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา เราต้องมีความอดทนอย่างมาก จัดฟันเสร็จต้องใส่รีเทนเนอร์เครดิตภาพ : pixabay.com จัดฟันเสร็จก็แค่ใส่รีเทนเนอร์ ไม่กี่ปีก็ถอด มันไม่ใช่เรื่องจริง!!!! เราต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอด เพราะการใส่รีเทนเนอร์นั้น คือขั้นตอนสุดท้ายของการจัดฟัน มันจะทำให้ฟันของเราเข้าที่ และไม่เคลื่อนที่ไปไหน ต้องลำบากในการสวมใส่ และถอดรีเทนเนอร์ ก่อนกินข้าวก็ต้องถอด หลังกินข้าวก็ต้องใส่ เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนตัว ลำบากมาก ๆ ยิ่งต้องดูแลความสะอาดรีเทนเนอร์อีกด้วย กว่าจะจัดฟันเสร็จก็เจอปัญหามามากแล้ว หลังจัดฟัน ขั้นตอนการใส่รีเทนเนอร์ ก็ต้องเจอปัญหาอีก ต้องอดทนสุด ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างกับสิ่งที่ควรรู้ก่อนจัดฟัน ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและรอบด้าน ถ้าเราไม่ศึกษาอย่างดี เมื่อเจอปัญหาอาจทำให้เพื่อน ๆ ท้อได้ เป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่ผมพูดมา เพื่อน ๆ ท้อกันบ้างรึเปล่า ผมเจอมากับตัวเอง ผมเลยนำเรื่องราวนี้มาแชร์ ให้กับเพื่อน ๆ ได้ฟัง ถ้าเพื่อน ๆ ยังตั้งใจที่จะจัดฟันอยู่ ผมก็อยากให้เพื่อน ๆ คิดดีดี ปรึกษากับครอบครัวเรื่องค่าใช้จ่าย ลองเข้าไปพบทันตแพทย์ดูก่อน ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ถ้าไม่ศึกษาดีดี อาจทำให้เสียเงินโดยไม่เป็นเรื่องได้ หวังว่าเรื่องที่ผมนำมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ถ้าใครมีเพื่อนที่คิดจะจัดฟัน แชร์ข้อมูลไปให้เพื่อน ๆ ของเราก็ได้นะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ บทความโดย : hitERlist เจ้าของบทความรูปภาพหน้าปกโดย : pixabay.com [ บนซ้าย / ล่างซ้าย / บนขวา / ล่างขวา ]