ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลและมีแนวโน้มว่าจะพัฒนาไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดธุรกิจหลากหลายที่เติบโตขึ้นราวกับดอกเห็ดมีผลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ในเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงก็ย่อมมีทั้งผลดีและผลเสียอยู่ที่ว่าใครจะปรับตัวได้"ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่ยืนหยัดได้"Uncleree Farm เกษตรกรรุ่นใหม่แนวใหม่ที่คิดหาทางแก้ไขปัญหาขยะภายในซอยผ่านการใช้ประโยชน์จากไส้เดือนก่อเกิดเป็นฟาร์มที่แปลกและแหวกแนวในสไตล์ของลุงรีย์"จุดเริ่มต้นมาจากแนวคิดงานอดิเรกที่ชื่นชอบ"ชอบอะไรที่มันเขียว ๆ อ่ะ"ลุงรีย์ได้กล่าวไว้ ดีไซเนอร์และเชฟคนนี้หันมาสนใจเกษตรด้วยเหตุผลว่าอยากดีไซน์ชีวิตให้กับตนเองและชอบเกษตรเป็นงานอดิเรก การที่เราไม่สามารถออกแบบชีวิตเราได้นั่นไม่ถือว่าเป็นดีไซเนอร์โดยสมบูรณ์ฟาร์มของลุงรีย์เป็นฟาร์มเกษตรวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่เรียกได้ว่าโดนใจวัยรุ่นมากที่สุดและคนเข้าถึงง่ายเป็นการใช้พื้นที่ที่มีให้เกิดประโยชน์และยังสามารถเพิ่มรายได้ พื้นที่ฟาร์มนั้นได้มาจากการเช่าที่จอดรถเพื่อเป็นฟาร์ม จัดเตรียมพื้นที่ไว้ได้อย่างลงตัวใครที่มีพื้นที่จำกัดและอยากดีไซน์ชีวิตให้แก่ตัวเองฟาร์มแห่งนี้เป็นแบบอย่างที่ตอบโจทย์ได้ดีมากเลยค่ะ ทั้งชีวิตของเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอาหารการกินที่กินเข้าไปนั้นดีหรือไม่ดีต่อร่างกายแต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเลือกเอาแต่สิ่งที่ดีสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้เราเองได้ โดยที่ไม่ต้องมานั่งรอ โรคภัยไข้เจ็บในสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไวรัสร้ายที่เพิ่งผ่านเข้ามานั้นเป็นหลักฐานชั้นดีเลยค่ะ การทำเกษตรแบบเก่านั้นคงเหมาะสำหรับผู้คนที่มีพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นของตัวเอง แต่สำหรับคนที่มีชีวิตอยู่ในเมืองอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ อาจจะเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยเพื่อให้ง่ายขึ้นแน่นอนล่ะเพราะวิถีชีวิตในเมืองมีน้ำท่าและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยก็จะยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นหากเราจะรดน้ำผักเราก็ต้องใช้บัวรดน้ำหรือสายยาง เดินมาหยิบบัวเติมน้ำใส่บัวแล้วเดินไปรดน้ำ แต่ถ้าใช้เทคโนโลยีเราก็ลดขั้นตอนนั้นลงได้เพียงแค่เราดูที่หน้าจอมือถืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ และกดรดน้ำผ่านหน้าจอได้ไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่หรือแปลงผักเหล่านั้นก็ได้ มีเวลาไปทำอย่างอื่นอีกตั้งมากมาย ในขณะที่เรากำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเราก็ยังมีผักที่ปลอดสารพิษกินอีกด้วย ทำอะไรได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันเห็นไหมเป็นความคิดที่ทันสมัยและผสมผสานการใช้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่มีจนเกิดเป็นประโยชน์และรายได้พื้นที่มีจำกัดใช้ไม่ได้กับฟาร์มแห่งนี้เลยค่ะแต่กว่าจะมาเป็นฟาร์มสุดทันสมัยนั้นลุงรีย์เล่าไว้ว่าต้องผ่านการซ้อมมาเป็นเวลาตั้ง 5 ปีในการลองผิดลองถูกเพราะลุงรีย์ไม่ได้เป็นเกษตรกรเก่า สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจมากในฟาร์มแห่งนี้ก็คือแนวคิดของลุงรีย์ที่มีแนวคิดเกี่ยวกับลดขยะในซอยและนำขยะมาเป็นมูลค่าผ่านตัวแปรอย่างไส้เดือน ไส้เดือนผลิตปุ๋ย ปุ๋ยนำไปปลูกผัก ผักนำไปขาย ขายไม่หมดหรือเป็นเศษอาหารจากผักนำมาเลี้ยงสัตว์และวนเป็นวัฏจักรหมุนเวียน ก่อให้เกิดทั้งรายได้ทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีในแบบวิถีชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืนค่ะเครดิตภาพจาก:Uncleree Farm