ไม่มีใครไม่รู้จักอนิเมชั่นจาก สตูดิโอจิบลิ ไสตล์การเล่าเรื่อง ลายเส้น ที่เป็นโดดเด่น ยากที่จะมีคนเทียบเคียงได้ นั้นเองคือเหตุผลว่าทำไม อนิเมชั่นจาก จิบลิ ถึงครองใจชาวโลกได้มากมายเพียงนี้ และล่าสุด 21 เรื่องของสตูดิจิบลิ ก็ได้นำลง Netflix ดูได้ยาว ๆ กันไปข้างเลยWhisper Of The Heart คื่อเรื่องราวที่ว่าด้วยความฝัน ความรัก และการจากลา ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบของชีวิตมนุษย์ (โปรดอย่าให้โปสเตอร์หนังมันหลอกเราได้!) เนื้อหาของ La La Land เองก็เช่นกัน มีส่วนประกอบของการตามล่าความฝันควบไปกับความรัก เส้นทางของชีวิตที่ต้องเดินหน้าตามหาความหมายของการมีอยู่ของตัวเอง จึงกล่าวรวมยอดได้เลยว่า Whisper Of The Heart คือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหามาก่อนกาลก่อนหลาย ๆ เรื่องที่เราในปัจจุบันซาบซึ้งไปกับบทประพันธ์และยกยอให้เป็นเรื่องที่คุณคู่ควร นี้คือ Whisper Of The Heart วันนี้ข้าพเจ้าเองจะมานำเสนอให้ท่านได้ฟังกันเรื่องราวของ... ชิซุกุ สาวน้อยผู้รักการอ่านและเติบโตมากับครอบครัวที่เช่าอพาร์ทเม้นท์ เล็ก ๆ อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น เธอได้ถูกไหว้วานจากเพื่อนให้แปลบทเพลง Country Road เป็นเนื้อร้องภาษาญี่ปุ่น แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัดแต่เพื่อนรักไหว้วานมาอย่างนั้นก็ต้องทำอยู่แล้ว แต่เธอก็ดันทำเนื้อเพลงที่แปลเองหล่นไว้ เมื่อไปตามหาก็ได้พบกับเจ้าหนุ่ม เซจิ นั่งอ่านบทเพลงที่เธอแปลเอาไว้อยู่ ทั้งสองได้มารู้จักกัน บ้านของเขาคือร้านขายของเก่าและเป็นนักดนตรี ส่วนบ้านของเธอเป็นห้องเช่าเล็ก ๆ แต่คนในครอบครัวล้วนแล้วแต่เป็นปัญญาชน ที่เลี้ยงดูลูกด้วยการปล่อยให้เธอเลือกชีวิตตัวเอง เป็นสิ่งที่น่าสนใจเอามาก ๆ ลูกเป็นของเราหรือไม่ เคยคิดมั้ยครับว่า จริง ๆ แล้วมนุษย์เราล้วนไม่ใช่ของกันและกันแบบที่กล่าวการเป็นเจ้าของซึ่งกันและกันอยู่บ่อย ๆ บางทีการเลี้ยงลูกเราก็ไม่จำเป็นต้องชี้ชะตากำหนดว่าเขาควรจะไปทางไหน อย่างเช่น ชิซุกุ เกิดมาในสภาพสังคมครอบครัวตัวเองที่เลี้ยงลูกแบบปล่อย ให้เผชิญกับเรื่องราวอันเจ็บปวดด้วยตัวเอง และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง หวังพึ่งพ่อแม่น้อยมาก ๆ คำถามคือนั้นเป็นสิ่งที่สมควรทำหรือไม่ กลับกัน เซจิ ต้องถูกพ่อชี้ชะตาเด็ดขาดว่าต้องไปเรียนต่อเมืองนอกเท่านั้น เป็นการต่อยอดโอกาสที่ดีนะ แต่การต้องจากลาคนที่ตัวเองรักแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ดีแล้วหรือมันจึงเป็นคำถามแก่สังคมของเราว่า เราควรจะเลี้ยงลูกแบบปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับปัญหาและแก้มันด้วยตัวเอง หรือชี้ชะตาว่าชีวิตเขาควรจะถูกเติมเต็มด้วยสิ่งใด คำตอบนั้นไม่มีที่แน่ชัด เพราะไม่ว่าจะเลือกเลี้ยงลูกด้วยทางไหนก็ตาม เด็กย่อมได้รับผลกระทบจากสิ่งที่ผู้ใหญ่เลือกให้เสมอ มันไม่มีทางเลยที่เราจะไม่พบกับปัญหาและความเจ็บปวด มันคือพื้นฐานของมนุษย์ที่จะต้องเจอ แก้ไข และผลลัพธ์คือสิ่งที่เรียกว่าความสุขหากปล่อยอิสระทางการกระทำและความคิดแก่ลูกมากไป เด็กก็จะเริ่มหลงทาง แต่มันก็จะเป็นบทเรียนชีวิตแก่พวกเขาแต่ถ้าเลี้ยงด้วยความเข้มงวด เส้นทางพวกเขาจะแน่วแน่ตรงดิ่ง ไม่ไขว้เขว แต่มันจะเกิดคำถามว่า พวกเขาชอบแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า นี้จึงเป็นหนังที่ชี้ให้เห็นทางเลือกทั้งสองแก่พ่อแม่ คนที่กำลังเป็นหรือเป็นอยู่แล้วก็ตามวันนั้น วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพูการพยายามเป็นหัวใจหลักของเรื่องนี้ เมื่อมีฝันก็มีรัก เมื่อมีรักก็มีหวัง ดังนั้นเองทั้งคู่จึงหันไปคนละทางเพื่อเดินตามความฝันของตัวเอง และตลอดทั้งเรื่อง มันไม่ใช่แค่บอกกับคนดูว่า พยายามต่อความฝันอย่างเดียว แต่เราต้องรู้จักวิจารย์ตัวเอง ลดอีโก้ลง แล้วมองโลกให้กว้างขึ้นเรายังคงโง่งมอยู่เสมอ เมื่อไปเจอสิ่งที่ใหญ่กว่าตน เซจิ มีความฝันคือการเป็นนักทำไวโอลิน เขาทำออกมาได้ดีถึงขนาด ชิซุกุ ออกปากชม แต่ไม่ว่ายังไง เซจิ ก็ยังบอกตัวเองเสมอว่า สิ่งที่เขาทำ ใคร ๆ เขาก็ทำได้ จึงต้องพยายามยิ่งกว่านี้เป็นเท่าตัว ต้องทำมากกว่าอีกร้อย อีกพันครั้งเขามองตัวเองเป็นตัวเล็กน้อยอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้พร้อมไปเจอสิ่งที่ใหญ่กว่าแล้วเรียนรู้จักสิ่งเหล่านั้น พัฒนาตัวเองไปสู่ฝั่งฝันได้ ชิซุกุ เอง ที่ไม่เคยมีฝันที่ชัดเจนมาก่อน เธอถามตัวเองว่าจุดยืนของเธอ มันอยู่ตรงไหน การได้พบกับ เซจิ นอกจากจะเป็นรักแล้ว ยังเป็นแรงผลักดันให้เธอค้นหาตัวตนของตัวเอง เมื่อคนที่เธอรักดันมีฝันและพยายามจนแทบเป็นแทบตาย เธอจึงเริ่มเขียนหนังสือ เขียน เขียน เขียน และเขียน จนในที่สุดงานมันออกมา และแม้เธอจะรู้ว่ามันจะห่วยแค่ไหนก็ตาม แต่นี่เป็นการเจียระไนเพชรเหม็ดงามที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ก้อนหินสกปรก ทั้งสู่จึงมีฝัน สู่เพื่อฝัน และวันนั้น วันที่ฝันทั้งคู่สำเร็จ พวกเขาจะหันกลับมาหากันเหมือนกับชื่อหนังในภาษาไทยที่ว่า วันนั้น วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู พวกเขาจะรอคอยซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ไม่ว่ามันจะใช้เวลานานเท่าใดจนกว่า... จนกว่า ความรักและความฝันของเราสองจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งวันนี้ทั้งคู่คงได้แต่ภาวนาว่า วันนั้น วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู ติดตามข้าพเจ้าเองได้ที่ยูทูป Funfrom production และได้ที่ Blockdit ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=0pVkiod6V0U