ครั้งหนึ่งฉันเคยอายุ 17 ปี เล่นสนุกกับเพื่อนในรั้วโรงเรียน ตื่นเต้นที่จะได้เป็นน้องปีหนึ่ง แต่ความขมขืนก็เข้ามาเยือน เมื่อการย่างสู่รั้วมหา’ลัยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด Final Score หนังสารคดีเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เลือดชมพู-ฟ้า นักรบดินสอ 2B ดินสอฝนดั่งปืน หนังสือ ความรู้ดั่งกระสุน นักเรียนคนอื่นคือศัตรูตัวฉกาจ คนที่มีความพร้อมมากที่สุดคือผู้ชนะ ส่วนคนแพ้ก็ดูแลตัวเอง เรื่องนี้กำกับโดย โสรยา นาคะสุวรรณ ปีที่ถ่าย พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนจากการสอบเอ็นทรานซ์ มาใช้แอดมิชชั่นเป็นปีแรก หนังเรื่องนี้ตามถ่ายชีวิตเด็ก ม.6 โรงเรียนสวนกุหลาบ รุ่น 124 ตลอดระยะ 1 ปีการศึกษา ตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรก ยาวจนถึงวันสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา สิ่งที่จะเห็นในหนังไม่ใช่ภาพทุกคนขะมักเขม้น ขวนขวายเตรียมตัวสอบแอดมิชชั่น หนังมันจะเล่าถึงวิถีของเด็กวัยรุ่นจริง ๆ มีทั้งมุมเล่น มุมจริงจังมิตรภาพอันสูงสุด วัยนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาก็ไม่ใช่อื่นใดไปนอกจาก ‘เพื่อน’ กลุ่มนักเรียนแสดงนำเรื่องนี้ทุกคนมีความต่างกันทั้งสิ้น ความถนัด ความฝัน ความสนใจ ไปคนละทิศละทาง แต่เมื่อพวกเขามาอยู่รวมกันความแตกต่างนั้นกลับกลายเป็นสิ่งงดงาม และหนึ่งในกลุ่มเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง มีแนวโน้มจบช้าหรือซํ้าชั้นได้ พวกเพื่อน ๆ ก็ไม่ดูถูก เหยียดหยาม เพื่อนคนนี้แม้แต่น้อย แถมยังช่วยให้เพื่อนจบพร้อมกันด้วย เพราะสุดท้ายเพื่อนยังไงก็คือเพื่อนพ่อ/แม่/ฉัน ในขณะที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามกฎหมายแล้วต้องมีผู้ปกครองคอยดูแล แต่ทางสายสัมพันธ์ครอบครัวผู้เป็นพ่อ-แม่ ย่อมต้องคอยชี้นำแนวทางให้กับลูก Final Score จะเห็นถึงหน้าที่อันถึงปฏิบัติของผู้เปรียบดั่งพ่อ-แม่ ในตอนหนึ่งเป็นการสนทนาของพ่อ-ลูก เรื่องคณะที่ลูกอยากเรียน แต่ผู้เป็นพ่อไม่เห็นดีเห็นงามในขณะที่ลูกเลือก ลึก ๆ มันถูกแฝงด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าจบมาแล้วจะมีงานรองรับน้อย หางานยากกระจุกความนิยม ถ้าลองไปถามเด็กว่า “อยากเข้าคณะไหน” “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” คำตอบก็วน ๆ อยู่ในแพทเทิร์นเดียว ๆ กัน สะท้อนให้เห็นว่าสังคมชื่นชมแค่บางกลุ่มอาชีพและสร้างค่านิยมว่า ต้องเรียนมหา’ลัยนี้ คณะนี้ แล้วจะมีงานที่มั่นคง เป็นที่ยอมรับในสังคม เด็กที่กล้าออกจากแพทเทิร์นจะถูกมองว่าแปลก มิหนำซ้ำไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน เงินเดือน สวัสดิการต่าง ๆ ก็ไม่ดีเท่าในอาชีพนิยม หรือไม่ถูกพูดถึงในสังคมวงกว้าง ได้แต่หวังว่าอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า ระบบการศึกษาจะสร้างหลักสูตรที่สมัยใหม่ตอบโจทย์ต่อผู้เล่าเรียนได้มากกว่าทุกวันนี้ ไม่ยัดเยียดเนื้อหา นำเสนอข้อมูลทั้งแดนบวกและแดนลบ ให้อิสระแก่นักเรียนในการตัดสินใจ เลือกเส้นทางเดินของตัวเอง ประเด็นที่หยิบยกมาเล่ายังมีความสดใหม่อยู่ ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะเข้าฉายตั้งแต่ปี 2550 แล้ว แต่ดูวันนี้ก็ยังเหมือนกับว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง การจัดสรรเวลายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร หนังมุ่งเน้นไปให้ความสำคัญกับคน ๆ เดียว เลยทำให้เรามองเห็นอยู่แค่ไม่กี่มุม ถ้าทีมผู้สร้างเฉลี่ยเวลาให้สมดุลกับจำนวนนักแสดง ตัวหนังคงจะมีอะไรให้ดูมากกว่านี้ และต้องนับถือในความใจของโรงเรียนสวนกุหลาบที่อนุญาตให้ถ่ายหนังเรื่องนี้ได้นานนับปี เขียน : Isalineภาพ : GTHchannel @ Final Score : 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์