กรณีศึกษา Baselworld งานจัดแสดงนาฬิกา ที่กำลังเสื่อมความนิยม ว่ากันว่า..นาฬิกาสวิสเซอร์แลนด์ ยิ่งเก่ายิ่งมีคุณค่า แม้โลกเราจะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิตอล สื่อสารกันแบบเรียลไทม์ หรือมีนาฬิการุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมายขนาดไหน แต่ทว่า..นาฬิกาสวิส ยังคงได้รับความนิยมและมีราคาแพงอยู่ดี.. สำหรับ Baselworld เป็นงานจัดแสดงนาฬิกา และอัญมณีนานาชาติสุดเก่าแก่ ที่จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1917 ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 2,100 ราย จากทั้ง 45 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ ตลอดจนพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับแวงวงธุรกิจด้านนี้ ด้วยความที่ Baselworld เป็นหนึ่งในตลาดโปรโมทนาฬิกาและอัญมณีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การจัดแต่ละครั้ง จึงได้รับความสนใจจากผู้คนเฉียดหลักแสน แต่รู้ไหม ? งานจัดแสดงนาฬิกาอายุมากกว่า 103 ปี กำลังจะเสื่อมความนิยม.. หลังจากถูกเลื่อนการจัดการไป 1 ปี.. โคโรนาไวรัส ตัวการสำคัญที่ทำให้หลายประเทศออกคำสั่งมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งนี่ส่งผลต่อ Baselworld ที่จัดขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แต่ใครจะรู้ว่า..การเลื่อนออกไปถึงมกราคมปีหน้า จะมีนัยยะสำคัญตามมา.. เดือนเมษายนที่ผ่านมา แบรนด์หรูยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์อย่าง Patek Philippe, Chopard, Chanel, Rolex รวมไปถึง Tudor ได้ประกาศถอนตัวจาก Baselworld2021 แต่กลับรวมตัวจัดแสดงของตนเองขึ้นแทน ควบคู่กับงาน“Watches and Wonders” ที่กรุงเจนีวา ในเดือนเมษายนปี 2021 หลังจากท่าทีของ 5 แบรนด์ดังแค่ไม่กี่วัน LVMH Group เจ้าของแบรนด์ Zenith, Tag Heuer, Hublot และBulgari ก็ได้ประกาศขยับถอนตัวตาม เช่นกัน.. อย่างไรก็ตาม เมื่อยักษ์ใหญ่หลายเจ้าขยับ คำถามก็คือ..แบรนด์อื่น ๆ จะขยับตามหรือไม่ ? แล้วเหตุใด ถึงเกิดการถอนตัวเป็นโดมิโนจากแบรนด์ชั้นนำได้.. Baselworld คือสื่อกลางที่จะช่วยให้แบรนด์ เพิ่มยอดขายได้อย่างมหาศาล แต่แบรนด์น้อยใหญ่ ก็ต้องแลกด้วยเม็ดเงินอย่างน้อย 3-6 แสนเหรียญสหรัฐฯ เพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งของ Baselworld ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ของการจัดแสดง ตัวอย่างของกลุ่ม Euro Luxury Group เครือเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Givenchy, Pierre Cardin, Joop!, Puma และ Esprit ที่มีคำสั่งซื้อจากผู้จัดจำหน่ายในเดือนมกราคมของทุกปี แต่ออเดอร์จะพุ่งขึ้นอย่างมหาศาลทุกครั้งเมื่อเข้าร่วมงานจัดแสดง Baselworld ทว่า..การกำหนดงานจัดแสดงที่ถูกเลื่อนออกไป เป็นเดือนมกราคมปี 2021 โดยกลุ่ม MCH Group ไม่มีการหารือกับแบรนด์สำคัญ ๆ แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ก็เกี่ยวข้องกับเงินที่ผู้เข้าร่วมจ่ายเข้ามาในBaselworld2020 ด้วย ก่อนหน้านี้ในปี 2019 Swatch Watch Group ได้ถอนตัว 15 แบรนด์ดังออกจากการแสดง Baselworld2019 ที่จะมาถึงในไม่นาน ด้วยเหตุผลที่ว่า การจัดแสดงของ Baselworld ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม หากมองภาพรวมอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ที่เกิดวิกฤติตั้งแต่ปี 2015 มียอดขายลดลงอย่างน่าตกใจ ต่อมาในปี 2016 ตัวอย่างของกลุ่ม Swatch Watch มียอดขายลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียง 602 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยสำคัญ จากการเข้ามาตีตลาดของ Apple Watch ถึงกระนั้น ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส มีมูลค่าการส่งออกที่ 7.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.4% ซึ่งถือเป็นภาพรวมที่ดีขึ้น.. แต่ในเบื้องหลัง เกิดอะไรขึ้นภายใต้พรมการจัดแสดงนาฬิกาสวิสของ Baselworld เรื่องนี้ยังคงเป็นคำถามที่ค้างในใจ เนื่องจากแบรนด์หรูหลายแบรนด์ อยู่คู่กับ Baselworld มาแสนนาน แต่เมื่อขาดแบรนด์หลัก ๆ ไป สีสันและเสน่ห์ของการจัดแสดงก็อาจจะขาดหายไปเช่นกัน แม้นาฬิกาสวิสจะยังครองใจผู้คนทั้งโลกด้วยเอกลักษณ์และทรงเสน่ห์ เบียดคู่แข่งแห่งโลกยุคใหม่อย่างไร ถ้าหากแบรนด์ขนาดกลาง ขยับตัวหลีกห่างจาก Baselworld ก็อาจจะหมดความนิยมไปเลยก็ได้ ฉะนั้น นี่คือกรณีศึกษาที่ว่า “นำ้พึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ธุรกิจแม้จะมีคู่แข่งมากมายขนาดไหน แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีพันธมิตรมากมายอยู่ด้วย การให้ความสําคัญตลอดจนการใส่ใจต่อเพื่อนร่วมเดินทาง จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญเพราะคนแค่คนเดียว ไม่สามารถสร้างกรุงเทพมหานคร ให้เสร็จได้ภายในหนึ่งปี.. Credit Picture 1: Link / 2: Link / 3: Link / Cover Picture: Link ............................................................. ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire Follow Us On “Facebook” Follow Us On “Line”