หากพูดถึงชื่อหว่องกาไวคิดว่าใครหลายๆคนก็น่าจะคุ้นชื่ออยู่ แต่ถ้าถามว่าใครเคยได้รับชมภาพยนตร์ของเขาบ้าง คำตอบก็อาจจะยังมีไม่มากนัก เนื่องด้วยภาพยนตร์ของหว่องกาไวค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์สายอาร์ทก็ไม่ผิดนัก องค์ประกอบของภาพยนต์จะเน้นภาพ เสียงและบรรยากาศอย่างละเอียดละออ โดยเฉพาะในส่วนของ ความเหงา ความโดดเดี่ยว ความโรแมนติกแบบเดียวดาย ความคลุมเครือ รวมถึงตัวละครที่มีบุคลิกที่มีอารมณ์แปลกแยกออกจากสังคมและในช่วงกักตัวแบบนี้เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงได้สัมผัสถึงความเปล่าเปลี่ยวไม่มากก็น้อย เราเลยอยากจะแนะนำให้ลองหาชมภาพยนต์หว่องๆดูกันค่ะ แบบเอาให้เหงาให้สุด ๆ ไปเลย ว่าแต่จะเริ่มจากเรื่องไหนดีก่อนล่ะ เราเลยยกสองเรื่องที่เป็นมาสเตอร์พีซของหว่องกาไวมาให้ทำความรู้จักกันก่อนค่ะChungking Express (1994)ใน Chungking Express ภาพยนตร์ได้เล่าถึง 2 เหตุการณ์ ของ 2 นายตํารวจรหัส 622 และ 623 ที่เกิดขึ้นต่างที่ต่างเวลา เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แบ่งแยกเรียงลําดับก่อนหลังแน่ชัด แต่ร้อยโยงด้วยรอยเชื่อมต่อเดียวกันเหมาะกับ มือใหม่ แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สดใสและดูง่ายที่สุดของหว่องกาไว ออกแนวหนุ่มอกหัก สาวแอบรักอะไรแบบนี้ แต่ก็เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบฉบับของหว่องกาไว และที่สำคัญพระเอกหล่อมาก (ทาเคชิ คาเนชิโร่ และเหลียงเฉาเหว่ย) นางเอกเฟย์หว่องในยุคนั้นก็น่ารักสดใสสุดๆ เรียกได้ว่ากลายเป็นภาพติดตาที่เป็นอมตะจนถึงทุกวันนี้เลย In the Mood for Love (2000) เรื่องนี้เล่าเรื่องของฮ่องกงในปี 1960 เมื่อคู่สามีภรรยาสองคู่ย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าห้องติดกัน โซวไหล่เจิน หญิงสาวที่มีอาชีพเป็นเลขานุการย้ายมากับสามีของเธอ ส่วนโจวมู่หวันก็ย้ายมาอยู่ที่นี่พร้อมภรรยาของเขาเช่นกัน แต่ภายในเวลาไม่นานนักทั้งคู่ก็เริ่มพบว่าสามีภรรยาของแต่ละคนต่างไปเป็นชู้กันเอง และเรื่องที่น่าตลกยิ่งกว่าก็คือ เขาและเธอก็เรื่มรู้สึกชอบพอกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้ม่านประเพณีและเสียงครหานินทารอบข้าง ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไปเหมาะกับ เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ระดับรางวัลเลยทีเดียว ภาพและเพลงประกอบโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แม้บทพูดจะไม่มาก แต่รับรองได้ว่าจะทำให้คุณรู้สึกดื่มด่ำความเหงาอย่างล้นหัวใจ ตัวเรื่องอาจจะเนือยๆหน่อย แต่ถ้าคุณชอบเสพย์งานศิลปะ รับรองได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณอย่างแน่นอน หวังว่าภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้น่าจะเติมความหว่องให้กับวันเหงาในช่วงนี้จนไม่เปล่าเปลี่ยวเกินไปนัก ถึงอย่างไรก็ยังมีคนเหงาอีกมากมายในเมืองใหญ่ที่ยังต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวเช่นนี้ไปกับพวกเราพร้อม ๆ กัน แล้วเราก็จะผ่านมันไปได้ด้วยกันในที่สุด#stayhome#staysafe