ตำนานกุมารเทพ ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ที่กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์อยู่ในช่วงนี้นั้น ฉันเองก็สนใจอยู่เหมือนกัน จึงได้ไปค้นประวัติดู แต่ที่พบก็เป็นเพียงเรื่องเล่าจากปากต่อปากของผู้เฒ่าผู้แก่ว่า ย้อนไปหลายร้อยปีเล่ากันว่า ครั้งนั้นหลวงปู่ทวดได้เดินธุดงค์มาปักกลดอยู่บริเวณที่เป็นวัดเจดีย์ในปัจจุบันซึ่งตอนนั้นเป็นวัดร้าง มีลูกศิษย์เป็นวิญญาณเด็กอายุราว 9 – 10 ขวบติดตามมาด้วย ซึ่งก็คือ ไอ้ไข่ หลวงปู่ทวดพิจารณาด้วยญาณแล้วเห็นว่าบริเวณวัดร้างแห่งนี้มีทรัพย์สมบัติ และศาสนสถานสำคัญอยู่เป็นจำนวนมาก จึงให้ไอ้ไข่สิงสถิตย์คอยเฝ้าดูแลปกปักษ์รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดินนี้ไว้ จะว่าไปก็ประมาณปู่โสมเฝ้าทรัพย์นั่นเองค่ะไอ้ไข่ยังได้ไปเข้าฝันผู้ใหญ่เที่ยงมือแกะสลักไม้ฝีมือดีบอกให้ช่วยแกะรูปให้ เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงปี พ.ศ. 2523-2524 ผู้ใหญ่เที่ยงหรืออาจารย์เที่ยงนิมิตฝันไปว่า เห็นเด็กแก้ผ้า กับพระจีวรคล้ำ ในนิมิตเด็กบอกให้แกะรูปให้เราที จะได้มีที่อาศัยอยู่เป็นหลักแหล่ง ตาเที่ยงก็ถามไปว่า ใครหรือนี่ เด็กในฝันตอบว่า ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ จากความฝันสอดคล้องกับการพบเจออะไรบางอย่างด้วยตัวเอง ผู้ใหญ่เที่ยงจึงแกะสลักไม้เป็นรูปเด็กอายุราว 9 – 10 ขวบ เปลือยกายในท่ายืนอย่างที่เห็นในฝัน ต่อมา จึงมีการสร้างเป็นรูปเด็กยืนเปลือยกายไม่นุ่งผ้าประดิษฐานอยู่ในศาลาของวัดเจดีย์ ที่หลาย ๆ สื่อไม่ว่าจะเป็น รายการทีวี เว็บไซต์ต่าง ๆ ได้เผยแพร่ภาพกันอย่างแพร่หลายอยู่ในขณะนี้ แล้วยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ทุกวันนี้วันดีคืนดียังมีคนเห็นเด็กวิ่งเล่นในวัด หรือปรากฎให้เห็นเป็นร่างเด็ก หรือได้ยินเสียงเด็ก แก่ผู้ที่มานอนวัดเจดีย์แบบครึ่งหลับครึ่งตื่น จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปั้นแต่งก็ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณกันเอานะคะทุกวันนี้กระแสไอ้ไข่ยังแรงไม่หยุด มีการสร้างวัตถุมงคลให้เช่าบูชากันแทบจะหาได้ทุกแผงพระ มีคนแห่เก็บไว้บูชา ก็เพราะกระแสที่ว่าใครที่มาขอพรจากไอ้ไข่แล้วสมหวังได้ดั่งที่ขอ บ้างพากันเอาของไปแก้บน บ้างจุดประทัดแก้บนจนในแต่ละวันเห็นกองสุมเป็นพะเนิน เอารูปปั้นไก่ไปวางถวายแก้บนเรียงต่อกันจนเต็มเยอะไปหมด ภาพเหล่านี้สื่อให้เห็นถึงความสมหวังขอแล้วได้ ทำให้เกิดการหลั่งไหลของผู้คนเข้าไปกราบไหว้ขอพรไอ้ไข่ที่วัดเจดีย์แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย มีการเช่าบูชาวัตถุมงคลไอ้ไข่ ใครได้ไปบูชาแล้วมีโชคลาภ ค้าขายดี หากบูชาแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดังที่ขอ วัดหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ก็เร่งสร้างไอ้ไข่วัตถุมงคลขึ้นเพื่อเป็นการหารายได้เข้าวัด ช่วงนี้เป็นช่วงที่พีกสุดของวัตถุมงคลไอ้ไข่เลยก็ว่าได้ จะออกมาเป็นแสนเหรียญก็มีคนจองหมด ทราบจากแหล่งข้อมูลแหล่งหนึ่งค่ะเมื่อมีกระแสความเชื่อสนับสนุน ก็มีแรงคัดค้านออกมาจากพระนักเทศน์ พระราชธรรมนิเทศ หรือ "พระพยอม" กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต. บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ท่านเทศน์เตือนสติคนไทยไว้ว่า “ถ้ามันเป็นที่พึ่งทางการเงินจริง คนก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ถ้าขอได้จริงกระทรวงการคลัง-พาณิชย์ คงขอไปช่วยกู้วิกฤตินานแล้ว“ฝ่ายพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์-นักคิด แห่งวัดสร้อยทอง ก็ได้เตือนสติไว้เช่นกันว่า "คนไม่ใช้หลักเหตุผล ถ้ามันให้โชคให้ลาภจริง มันไปพันคนมันต้องได้พันคน ไปหมื่นคนก็ต้องถูกหมื่นคน อันนี้ไปหมื่นคนถูกสิบคน แล้วจะบอกว่าศักดิ์สิทธิ์ได้ไง"เมื่อพิจารณาดูก็เห็นเป็นจริงอย่างที่ท่านว่านะคะ คนส่วนใหญ่ที่ขอแล้วไม่ได้จะมีมากกว่าคนขอแล้วได้ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวของฉันนั้น คนเราพอตั้งจิตขอให้สมหวังในเรื่องอะไรแล้ว มักจะใส่ใจเรื่องนั้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะคิดหรือจะทำกิจการใดก็มุ่งหวังว่าจะให้สำเร็จในเรื่องนั้น เกิดเป็นความเพียรพยายามและก็ทำได้สำเร็จได้อย่างที่ขอนั่นเอง แล้วเลยเชื่อมโยงไปถึงไอ้ไข่ ถึงได้มีคนไปแก้บนกันนั่นไงค่ะ ฉันว่าไอ้ไข่เป็นที่พึ่งทางใจมากกว่านะคะ แต่คนที่ขอเฉย ๆ แล้วรอให้สิ่งที่อยากได้ตกลงมาใส่มือ อย่างนี้ก็จะเป็นคนที่ไม่สมหวังค่ะ จากที่พระท่านบอกว่าขอหมื่นคนได้เพียงสิบคนก็เพราะความเพียรพยายามที่มีไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ โดยเฉพาะขอหวยนี่ต้องบอกว่าเปอร์เซ็นต์ถูกน้อยค่ะ แค่ลุ้น ๆ กันไปย้อนไปครั้งหนึ่งที่คนแห่กันบูชาจตุคามรามเทพ ที่สร้างกันหลายรุ่นหลากมวลสาร มูลค่าการเช่าวัตถุมงคลนับรวมแล้วเป็นหมื่นล้านบาท กระแสความนิยมอยู่ได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วก็จางหายไปจนปัจจุบันนี้ก็แทบจะหาราคาไม่ได้ จะสังเกตได้ว่าช่วงใดที่คนในสังคมรู้สึกว้าเหว่ขาดที่พึ่งทางจิตใจ เศรษฐกิจไม่ดีก็จะหันมาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เกิดกระแสบูชาลักษณะเดียวกันนี้ แต่จะว่าไปมันก็มีแง่ดีอยู่ตรงที่ว่า ความเชื่อลักษณะนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีแบบไม่ต้องอาศัยตำราทางเศรษฐศาสตร์เข้าช่วยเลย เงินไหลออกจากกระเป๋าผู้คนเข้าสู่วัด คนสร้างวัตถุมงคลไอ้ไข่ คนในวงการให้เช่าพระ คนค้าขายบริเวณวัด เข้าถึงกระเป๋าชาวบ้านรากหญ้าแบบชนิดที่เรียกว่าเงินกำลังหมุนไป ซึ่งฉันเห็นเป็นข้อดีค่ะ ฉันเองเชื่อว่าคงไม่มีคนถึงกับหมดเนื้อหมดตัวเพราะไอ้ไข่เป็นแน่ เพราะมูลค่าวัตถุมงคลหรือของแก้บนก็ไม่ได้มากมายเกินกำลังของคนศรัทธาเท่าไรนักถึงแม้ความเชื่อในเรื่อง ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ดูออกจะไปในทางงมงาย แนวหาสาระอะไรไม่ได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นความเชื่อของผู้คนในยุคเศรษฐกิจไม่ดีมาก ๆ อย่างในสมัยนี้ จะอย่างไรก็ตาม ไอ้ไข่ก็พอจะทำให้คนมีความหวัง มีกำลังใจสู้ชีวิต มีที่พึ่งทางใจให้รู้สึกสงบร่มเย็นได้บ้าง และที่สำคัญมันสร้างรายได้ให้กับผู้คนระดับรากหญ้าในจังหวัดนครศรีธรรมราช และตามจังหวัดต่าง ๆ ที่มีวัตถุมงคลไอ้ไข่ไว้ให้บูชาขอโชคลาภ ว่าแต่ตอนนี้คุณผู้อ่านมีไอ้ไข่ไว้บูชากับเขาไหมคะ ขอบคุณที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่ค่ะ รูปปก ขอบคุณ achirathepภาพประกอบ 1 / 2 / 3