วันที่ 3 ของการกักตัวในฐานะกลุ่มเสี่ยงจากการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ชีวิตเริ่มลงตัวมากขึ้นจากการจัดตารางการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนความคิดถึงลูกยังคงมีอยู่ทุกลมหายใจ ทำได้แค่เพียงใส่หน้ากากอนามัย และสวม Face Shield แอบเข้ามาดูตอนที่ลูกนอนหลับ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่ลูกจะกระโดดกอด // ภาพประกอบโดยผู้เขียน // นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราได้มีโอกาสติดตามข่าวสารการแพร่ระบาด ตลอดจนติดตามข้อมูลในการป้องกันและดูแลตนเองในสถานการณ์แพร่ระบาด ซึ่งเราจดจำถ้อยคำของคุณหมอแก้วได้แม่นยำ “แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็เสี่ยงแล้ว” หรือแม้แต่เราคิดว่าเราป้องกันตัวเองดีที่สุดแล้ว แต่เราก็ไม่รู้หรอกว่า “เราติดรึยัง” เพราะตราบใดที่ยังมีการเคลื่อนย้าย หรือการเดินทาง ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงหมด สำหรับคนทำงานในระบบราชการ แม้นายกรัฐมนตรีจะแถลงมาตรการแต่ละด้านเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งหนึ่งในมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ “ให้ทุกหน่วยงานได้พิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาการทำงานและการทำงานที่บ้าน และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การประชุมทางไกล โดยให้หน่วยงานราชการทุกหน่วยทำแผนการทำงานจากบ้านและรายงานผลการปฏิบัติต่อศูนย์ฯ” ในการนี้ สำนักงาน ก.พ. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องการปฏิบัติราชการของส่วนราชการต่าง ๆ จึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน โดยให้พิจารณาความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้บริการรถสาธารณะและบ้านไกล แต่เอาเข้าจริง ไม่ว่าใช้รถอะไรในการเดินทางหรือบ้านไกลแค่ไหน ทุกคนต้องสลับกันมาทำงาน เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบเพื่อน เท่ากับกระจายความเสี่ยงกันไป ใครโชคไม่ดีก็ต้องเสี่ยงรับเชื้อไวรัส และความเสี่ยงนั้นก็กระจายตัวไปยังครอบครัวของทุกคน ในห้องทำงานของเรามีคนทำงาน 26 คน ตอนนี้ถูกกักตัวไปแล้ว 3 คน ในขณะที่เพื่อน 3 คนถูกกักตัว เพื่อนที่มาทำงานก็ยังคนรับความเสี่ยงกันต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย แต่มีแนวโน้มว่า คนทำงานจะเป็นโรคประสาทกันจนหมด เพราะทำงานท่ามกลางความหวาดวิตกเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่มีอันตรายถึงชีวิต หลายคนตัดสินคนอื่นว่า กลัวทำไมเรื่องแค่นี้ นั่นเพราะเราไม่ใช่เขา จึงไม่ควรตัดสินเขาแบบนั้น เพราะมนุษย์แต่ละคนมีภูมิต้านทานทางจิตใจที่ไม่เท่ากัน เราอาจจะเป็นกลุ่มคนที่หวาดวิตกมาก เพราะมีแม่อายุย่าง 75 ปีที่ต้องดูแล มีลูกชาย 6 ขวบที่ต้องกินยาทุกวัน ผบ.ทสส. วอนให้ทุกฝ่ายร่วมมืออยู่กับบ้านลดระบาดโควิด-19 อย่ารอให้ต้องบังคับ ตอบปมสนามมวย ‘เป็นเรื่องของอดีต’ // ขอบพระคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ The Standard ในมุมมองของคนที่ได้รับความเสี่ยงจากการเดินทางด้วยรถสาธารณะ และต้องถูกกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงจากขึ้นลง-รถไฟฟ้า ในสถานีซึ่งมีพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อ เราเห็นว่า ในช่วงการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 และขณะที่หลายฝ่ายรณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” หน่วยงานต่าง ๆ จึงควรให้ผู้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานอันเกี่ยวเนื่องกับภารกิจป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทำงานที่บ้านทุกคน เพื่อไม่ให้คนทำงานเป็นกลุ่มเสี่ยงและกลายเป็นผู้ติดเชื้อจากการเดินทาง และในกรณีที่จำเป็นต้องมาปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้ง ก็ควรจัดรถรับ-ส่ง โดยวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นรถ เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มาปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้ง หากมีใครสักคนได้ฟังเสียงสะท้อนจากคนทำงานจะทราบว่า ทุกคนยังคงอยากมาทำงาน แต่ทุกคนก็หวาดกลัวอันตรายจากโรคระบาด เขาก็มีชีวิต และเลือดเนื้อ เจ็บได้ ตายเป็นเหมือนกับทุกคน ส่วนตัวเราเอง ณ ช่วงเวลาที่กักตัวนี้ จึงได้แต่ส่งกำลังใจให้เพื่อนร่วมงานทุกคน รวมทั้งคนที่ยังมีความจำเป็นในชีวิตที่ต้องเดินทางออกนอกบ้าน แต่หลังจากกักตัวครบ 14 วันแล้ว เราก็ต้องออกจากบ้าน เดินทางด้วยรถไฟฟ้า และรถประจำทางไปทำงานเหมือนเช่นที่ผ่านมา หากโชคไม่ดีอาจจะต้องกักตัว เจ็บป่วย หรือเสียชีวิตในที่สุด ในวันที่ 3 ของการกักตัว เรายังสบายดี ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ส่วนคนในครอบครัวยังคงสบายดีเช่นกันค่ะ // ภาพประกอบโดยผู้เขียน // อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : การเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โรคปอดอักเสบรุนแรงจากไวรัส) เคล็ดลับการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ประโยชน์ของเจลล้างมือแอลกอฮอล์ และวิธีการเลือกซื้อ การป้องกันไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 เมื่อต้องเดินทางโดยรถสาธารณะ รีวิว : DIY หน้ากากอนามัย ข้าราชการป่วยเพราะ “โควิด-19“ ลาป่วยได้ โดยไม่นับเป็นวันลา หน้ากากอนามัย ไม่ใส่ยิ่งเสี่ยง ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) แหล่งเรียนรู้ด้านสุขอนามัยบนโลกออนไลน์ อัพเดทสถานการณ์ "ผีน้อยเกาหลี" หนีการกักกันโรค ล้างมือเพื่อสุขอนามัย ห่างไกลโควิด-19 ยกเลิกงานสงกรานต์ 2020 ลดความเสี่ยงโควิด-19 รู้ไว้ต้องระวัง 10 สิ่งของที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 7 กิจกรรมหรรษา และแนวทางท่องเที่ยววันสงกรานต์ 2563 ถอดบทเรียนความสำเร็จ การควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 จากจีน 5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับโควิด-19 เดินทางมาจาก “เขตติดโรคติดต่ออันตราย” ต้องทำอย่างไร ?? โรงพยาบาลตรวจ โควิด-19 ฟรี! (สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง) 7 แอปพลิเคชันทำงานที่บ้าน รู้ไว้ใช้งานช่วงวิกฤติโควิด-19 สงกรานต์ไม่หยุด!! นัยยะสำคัญที่ต้องรู้ แล้วสู้ไปด้วยกัน 5 กิจกรรมช่วงกักตัว พักกาย พักใจ สู้ภัยโควิด-19 วิธีทิ้งหน้ากากอนามัย ไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย วิธีการทำความสะอาดสมาร์ทโฟน ป้องกัน COVID-19 ทำเองได้ง่าย ๆ วิกฤติศตวรรษที่ 21 COVID-19 vs โรคระบาดอื่น ๆในอดีต มนุษย์กรุงเทพฯ เมื่อกลับถึงบ้านควรทำอย่างไร? เพื่อให้ปลอดภัยจากโควิด-19 มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในสำนักงาน กักตัว หยุดเชื้อ เพื่อชาติ : Day.1 เมื่อฉันเป็นกลุ่มเสี่ยง สบายดีบอต บ่เอาโควิด (@sabaideebot) แชทบอตเพื่อสุขภาพ การดูแลสุขภาพใจ ในภาวะวิฤติโควิด-19 DIY : Face Shield หน้ากากป้องกันใบหน้า ทำเองได้ง่ายนิดเดียว // เครดิตภาพประกอบฟรี จาก Canva Application //