ผ่านมาแล้ว 3 เดือน ที่ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักกับเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 (COVID-19) เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันถึงพัฒนาการของโรค รวมไปถึงการปฏิบัติตัวเพื่อให้ห่างไกล และปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ การรับประทานอาหารจานใครจานมัน การแยกตัว และล่าสุด คือ การเพิ่มระยะห่างทางสังคม เป็นคำที่เท่มากในความรู้สึกเรานะคะ คล้าย ๆ กับว่า "อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง" การเพิ่มระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing คือ การสร้างระยะห่างระหว่างตัวเราเองกับคนอื่น ๆ ภายในสังคม รวมถึงการลดการออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะ การไม่เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น และการทำงานอยู่ที่บ้าน (อ้างอิงจาก posttoday.com) ใน 8 วันที่ผ่านมาของการกักตัว เราจึงได้มีโอกาสฟังการแถลงข่าวของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข จึงทราบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย พูดง่าย ๆ คือ เป็นการติดเชื้อภายในครอบครัวนั่นเอง ในการนี้ การแถลงข่าวประจำวันของทุกหน่วยงานในช่วงนี้จึงมุ่งเน้นเรื่อง “การเพิ่มระยะห่างทางสังคม” // เครดิตภาพประกอบ (ฟรี) จาก Canva Application : คำค้น Alone // หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องเพิ่มระยะห่างทางสังคม? นั่นเพราะโควิด-19 เป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งติดต่อได้ง่ายหากมีการสัมผัสใกล้ชิด หากอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทรัพยากรทุกชนิดที่จะใช้ดูแลผู้ป่วยจะไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นยา เตียง อุปกรณ์ป้องกัน และบุคลากรที่ดูแลสุขภาพของประชาชนที่ป่วยเป็นโควิด-19 และผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ด้วย อย่าลืมว่านะคะว่า คุณหมอไม่ได้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังมีผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ที่รอรับการรักษาอยู่ แม่เราอายุย่าง 75 ปี ตอนนี้ก็ต้องเลื่อนคิวนัดพบคุณหมอ เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมประจำปี ทำฟัน โดยเลื่อนออกไปหลายนัดมาก เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระงานคุณหมอ และลดความเสี่ยงจากการไปโรงพยาบาล ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ถ้าคนป่วยเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ก็จะเกินศักยภาพในการดูแลของระบบสาธารณสุขของประเทศ // ภาพประกอบโดยผู้เขียน // วิธีการลดการติดเชื้อที่ดีที่สุด คือ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งเป็นมาตรการที่ทั่วโลกทำกัน โดยไม่นำตัวออกไปแพร่เชื้อ หรือรับเชื้อ เป็นหนทางที่ดีที่สุดนะคะ เพราะทุกครั้งที่ออกจากบ้านทุกคนมีโอกาสรับเชื้อมาแพร่ต่อในบ้านได้ โดยที่บ้านของเรามีเด็กกับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายและรักษาได้ยาก เราจึงช่วยกันทำความสะอาดบ้านทุกวัน เพื่อให้บ้านสะอาดและปลอดภัยอยู่เสมอ รวมทั้งจัดมุมให้พวกเขาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มุมใครมุมมัน เว้นระยะห่างระหว่างกันประมาณ 2 เมตร รวมทั้งชวนให้ทุกคนในบ้านใส่หน้ากากอนามัยให้เป็นนิสัย และสอนลูกให้ล้างมือให้สะอาดตามคำแนะนำ 7 ขั้นตอน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ตั้งใจจะทำให้ได้ทุกวัน เพื่อให้คนในบ้านปลอดภัยที่สุดค่ะ // ภาพประกอบโดยผู้เขียน // หากหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องไปทำงาน หรือไปซื้อหาปัจจัยสี่ พวกเราจะวางแผนการเดินทาง รีบไปรีบกลับ ใช้เวลาอยู่นอกบ้านให้น้อยที่สุด พยายามลดการออกนอกบ้านให้ได้ 80% นอกจากนี้ เมื่อออกนอกบ้านให้เพิ่มระยะห่างทางสังคมโดยการเว้นระยะห่างกับคนที่พูดคุยด้วยประมาณ 1.8-2 เมตรนะคะ รวมทั้งใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อไม่ให้รับละอองฝอยที่เกิดจากการพูดคุย เพราะเราไม่มีทางทราบเลยว่า ผู้ที่เราคุยด้วยมีเชื้อหรือไม่ ถ้าทุกคนช่วยกันแบบนี้ จำนวนผู้ป่วยจะลดลง ระบบบริการสุขภาพก็จะสามารถรองรับและช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ นอกจากการเพิ่มระยะห่างทางสังคมแล้วนะคะ อยากให้ทุกท่านปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ที่ทางราชการประกาศออกมาอย่างจริงจัง งดรวมตัวทำกิจกรรม งดสังสรรค์ คงเหลือไว้เพียงศาสนกิจ โดยต้องคำนึงถึงการลดระยะเวลาให้สั้นลง อย่าให้คนมาใกล้ชิดสัมผัสกันนานเกินไป นอกจากนี้ ควรทำตามมาตรการต่าง ๆ ด้วยจิตสำนึกที่อยากจะทำเพื่อตนเอง และสังคม อย่าให้ทางราชการต้องใช้กฎหมายลงโทษหรือวิ่งไล่จับเลยนะคะ 8 วันที่ผ่านมาของการกักตัว เราได้มีโอกาสรับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น เกี่ยวกับการดูแลตนเอง และได้รับทราบว่า มาตรการต่าง ๆ ที่ประกาศออกมานั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน จึงขอเชิญชวนเพื่อน ๆ ร่วมใจกันปฏิบัติตามข้อเสนอแนะและมาตรการต่าง ๆ … มาช่วยกันดูแลตัวเอง ครอบครัว และประเทศไทยที่เรารักกันนะคะ ลดทุกอย่างให้ได้ 80% เพื่อให้เกิดระยะห่างให้มากที่สุด ถ้างดไม่ได้ ต้องลดให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและสังคม อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : การเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โรคปอดอักเสบรุนแรงจากไวรัส) เคล็ดลับการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ประโยชน์ของเจลล้างมือแอลกอฮอล์ และวิธีการเลือกซื้อ การป้องกันไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 เมื่อต้องเดินทางโดยรถสาธารณะ รีวิว : DIY หน้ากากอนามัย ข้าราชการป่วยเพราะ “โควิด-19“ ลาป่วยได้ โดยไม่นับเป็นวันลา หน้ากากอนามัย ไม่ใส่ยิ่งเสี่ยง ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) แหล่งเรียนรู้ด้านสุขอนามัยบนโลกออนไลน์ อัพเดทสถานการณ์ "ผีน้อยเกาหลี" หนีการกักกันโรค ล้างมือเพื่อสุขอนามัย ห่างไกลโควิด-19 ยกเลิกงานสงกรานต์ 2020 ลดความเสี่ยงโควิด-19 รู้ไว้ต้องระวัง 10 สิ่งของที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 7 กิจกรรมหรรษา และแนวทางท่องเที่ยววันสงกรานต์ 2563 ถอดบทเรียนความสำเร็จ การควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 จากจีน 5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับโควิด-19 เดินทางมาจาก “เขตติดโรคติดต่ออันตราย” ต้องทำอย่างไร ?? โรงพยาบาลตรวจ โควิด-19 ฟรี! (สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง) 7 แอปพลิเคชันทำงานที่บ้าน รู้ไว้ใช้งานช่วงวิกฤติโควิด-19 สงกรานต์ไม่หยุด!! นัยยะสำคัญที่ต้องรู้ แล้วสู้ไปด้วยกัน 5 กิจกรรมช่วงกักตัว พักกาย พักใจ สู้ภัยโควิด-19 วิธีทิ้งหน้ากากอนามัย ไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย วิธีการทำความสะอาดสมาร์ทโฟน ป้องกัน COVID-19 ทำเองได้ง่าย ๆ วิกฤติศตวรรษที่ 21 COVID-19 vs โรคระบาดอื่น ๆในอดีต มนุษย์กรุงเทพฯ เมื่อกลับถึงบ้านควรทำอย่างไร? เพื่อให้ปลอดภัยจากโควิด-19 มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในสำนักงาน สบายดีบอต บ่เอาโควิด (@sabaideebot) แชทบอตเพื่อสุขภาพ การดูแลสุขภาพใจ ในภาวะวิฤติโควิด-19 DIY : Face Shield หน้ากากป้องกันใบหน้า ทำเองได้ง่ายนิดเดียว 7-11 คลังอาหารของคนไทย ในวันที่ประกาศปิดเมือง กักตัว หยุดเชื้อ เพื่อชาติ : Day.1 เมื่อฉันเป็นกลุ่มเสี่ยง กักตัว หยุดเชื้อ เพื่อชาติ : Day.7 สารพันไอเดียอยู่บ้านยังไงไม่ให้เบื่อ // เครดิตภาพประกอบฟรี จาก Canva Application //