ก่อนไปรู้จักกับ การขอคืนภาษีจากกรมสรรพากร เราต้องมาทำความรู้จักก่อนว่า ภาษี คือ อะไรที่มาของภาพ : ผู้เขียน ภาษี (Tax) คือ เงินตราหรือทรัพย์ที่ประชาชนต้องนำส่งให้กับรัฐหรือสถาบันที่มีหน้าที่เทียบเท่ากับรัฐทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพื่อนำเงินตราหรือทรัพย์ที่เก็บได้จากประชาชนมาใช้ในการบำรุงผลักดันและสร้างเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งภาษีเหล่านี้จะถูกนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในระบบราชการ สาธารณูปโภคทั้งหมดในประเทศชาติเพราะเป็นรายได้หลักจากรัฐที่จะนำมาพัฒนาให้ประชาชนอยู่กันในประเทศอย่างเป็นสุข *** นิติบุคคล หมายถึง บุคคลที่กฎหมายสมมติให้มีสภาพบุคคลเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา ดังนั้น นิติบุคคลจึงมีความสามารถเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา เช่นความสามารถในการทำนิติกรรมสัญญาสิทธิในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินต่างๆ เช่น ที่ดิน เงินหน้าที่ในการเสียภาษีการเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ แยกนิติบุคคลออกเป็น 2 ประเภท คือ1. นิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน คือ นิติบุคคลที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีด้วยกัน 5 ประเภท ได้แก่บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนสมาคมมูลนิธิ2. นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน คือ นิติบุคคลที่บัญญัติไว้ในกฎหมายมหาชนอื่นๆซึ่งมีเป็นจำนวนมาก เช่น วัด จังหวัด กระทรวง ทบวง กรม องค์การมหาชน เป็นต้น ภาษีเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท1. ภาษีทางตรง คือ ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีโดยตรงไม่สามารถผลักภาระไปให้กับบุคคลอื่นอาทิ ภาษีเงินได้บุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นต้น2. ภาษีทางอ้อม คือ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีแต่ไม่ต้องรับภาระ สามารถที่จะผลักภาระภาษีนี้ไปให้กับบุคคลอื่น ซึ่งเรามักจะเรียกว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นต้น ประเภทรายได้ที่สำคัญของรัฐบาลแยกตามหน่วยงานที่จัดเก็บ1. กรมสรรพากรที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.htmlภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภาษีเงินได้นิติบุคคลภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีธุรกิจเฉพาะอากรแสตมป์ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมภาษีอากรอื่นๆและรายได้อื่น 2. กรมสรรพสามิตต์ที่มาของภาพ : กรมสรรพสามิตต์ / https://www.excise.go.thภาษียาสูบภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันภาษีสุราและค่าผลประโยชน์ภาษีเบียร์ภาษีรถยนต์ภาษีรายได้อื่นๆ เช่น ภาษีไฟ ภาษีแก้ว เครื่องหอมเครื่องสำอาง เป็นต้น 3. กรมศุลกากรที่มาของภาพ : กรมศุลกากร / https://www.customs.go.th/อากรขาเข้าอากรขาออก และแล้วก็มาเข้าสู่หัวข้อหลัก วิธีขอคืนภาษี จากกรมสรรพากร หลายคนอาจสงสัยว่าเราสามารถขอคืนภาษีได้งั้นเหรอ? มีเงื่อนไขและวิธีการขอเงินคืนภาษีอย่างไร? วันนี้เราจึงมาหาคำตอบให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้เข้าใจและทำได้ตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง การขอเงินคืนภาษีนั้น เป็นสิทธิที่ผู้เสียภาษีสามารถทำได้ หากถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายระหว่างปีมากกว่าค่าภาษีที่ตัวเองมีหน้าที่ต้องจ่ายจริง โดยวิธีการขอเงินคืนภาษี ทำได้โดยเริ่มจากคำนวณภาษีแล้วพบว่า ตนเองมีสิทธิได้เงินคืนภาษี จากนั้นผู้เสียภาษีต้องทำการ “ยื่นภาษี” เพื่อ “ขอเงินคืนภาษี” ตามขั้นตอนของกรมสรรพากร สูตรวิธีคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ (แบบขั้นบันได) ดังนี้เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิเงินได้สุทธิ × อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่ายเงินได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน x 0.005 = ค่าภาษี การตรวจสอบสถานะ “คืนเงินภาษี” หรือสอบถามข้อมูลการขอคืน ได้ดังนี้1. เว็บไซต์กรมสรรพากร http://www.rd.go.thเข้าไปที่เว็บไซต์ กรมสรรพากรที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html กดเลือกเมนู "สอบถามการคืนภาษี"ที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html หน้าจอจะเข้าสู่ บริการสอบถามข้อมูลการขอคืนภาษี หรือคลิก >> refundedcheque.rd.go.thที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html จากนั้นให้กรอกข้อมูล ปีภาษี, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ชื่อ-สกุล แล้วคลิกปุ่ม "สอบถาม"ที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html หน้าจอแสดงผลการตรวจสอบข้อมูลขอคืนภาษี ที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html (หากได้เงินคืนภาษี จะมีข้อความระบุว่า “กรมสรรพากรได้นำเงินคืนภาษีเข้าบัญชี 123 แล้ว เมื่อวันที่ 12/34/5678”)***(ระบบจะแสดงปีภาษีให้คัดค้นได้ย้อนหลัง 2 ปีภาษี)*** 2. ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center : 1161)ที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html 3. สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตามภูมิลำเนาที่ปรากฏในหน้าแบบแสดงรายการที่มาภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.html เมื่อกดยื่นแบบแล้วกรมสรรพากรก็จะดำเนินการตามคำร้องขอคืนภาษี แต่ในกรณีที่ผ่านมา 7-14 วันแล้วยังไม่ได้เงินคืน ทางสรรพากรอาจเรียกขอเอกสารเพิ่มเติมได้ ช่องทางการส่งเอกสารประกอบการพิจารณาคืนภาษี สำหรับแบบ ภ.ง.ด.90/91 ที่ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ตได้ดังนี้ 1. ส่งด้วยตนเอง 2. โทรสาร (FAX) ตามหมายเลขโทรสารที่ระบุใน “ใบนำส่งเอกสาร” 3. ไปรษณีย์ โดยส่งตามที่อยู่ที่ระบุใน “ใบนำส่งเอกสาร” 4. ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ระบบ EDSS ผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากรhttp://www.rd.go.th> เลือกเมนู e-Refund สอบถามการคืนภาษี > พิมพ์ชื่อผู้เสียภาษี-นามสกุล (ไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อ) และเลขประจำตัวประชาชน กดปุ่ม สอบถาม และ upload เอกสารที่เมนู "นำส่งเอกสารประกอบพิจารณาการคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา"*****ไฟล์ที่อนุญาตให้ upload : JPG,PNG,BMP,TIF,PDF รวมขนาดของไฟล์ทั้งหมดไม่เกิน 20 MB ต่อครั้ง และสามารถนำส่งได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทั้งนี้ ระบบไม่รองรับไฟล์ PDF ที่มี Password หรือ Secured**** http://www.rd.go.th => E-FILING => สอบถามการขอคืนภาษี => ติดต่อสอบถามข้อมูลการขอคืนภาษี ภ.ง.ด.90, 91 หรือhttp://www.rd.go.th => CONTACT US => สอบถามปัญหา / แนะนำ/ร้องเรียน (Contact Us) *** หมายเหตุ *** 1. การส่งเอกสารประกอบการขอคืนภาษีฯ ตามวิธีการในข้อ 1.- 3. ให้พิมพ์ใบนำส่งเอกสารส่งไปพร้อมกับเอกสารที่นำส่งด้วย เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการพิจารณาคืนภาษี (ให้ระบุจำนวนแผ่นของเอกสารที่นำส่ง พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับ กรณีที่เอกสารไม่ชัดเจนเจ้าหน้าที่จะได้สามารถติดต่อกลับได้) และสามารถพิมพ์ใบนำส่งเอกสารได้ที่ เมนู e-Refund สอบถามการคืนภาษี 2. กรณียื่นแบบฯ กระดาษ สามารถตรวจสอบได้ภายหลังจากวันที่ยื่นแบบฯ แล้ว 1 วัน ช่องทางการรับ "เงินคืนภาษี"เมื่อยื่นภาษีแล้ว และกรมสรรพากรได้อนุมัติเงินคืนภาษีเรียบร้อยแล้ว ประชาชนสามารถเลือกช่องทางรับเงินคืนภาษีได้ 3 ช่องทาง ได้แก่พร้อมเพย์ ที่ผูกกับบัญชีธนาคารออนไลน์ที่มาของภาพ : ผู้เขียนรับเงินคืนภาษีเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย หรือ ธ.ก.ส.ที่มาของภาพ : ธนาคารกรุงไทย / https://krungthai.com ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร / https://www.baac.or.thรับเงินคืนภาษีเข้าบัตร e-Money หรือ e-Wallet (แอพฯ เป๋าตัง) เฉพาะธนาคารกรุงไทยที่มาของภาพ : ผู้เขียน***หมายเหตุ : กรมสรรพากรได้ "ยกเลิก" การส่งเช็คคืนเงินภาษีทางไปรษณีย์แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยจะคืนเงินภาษีในช่องทางอื่นๆ แทน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนหันมาใช้บริการพร้อมเพย์ในการคืนเงินภาษีมากกว่า 70%*** ช่วงเวลาการ "ขอคืนภาษี" ต้องทำเมื่อไหร่?สำหรับช่วงเวลาในการ "ขอคืนภาษี" จาก "กรมสรรพากร" แบ่งเป็น 2 กรณี คือ- การขอคืนภาษีขณะที่ยังไม่หมดเวลายื่นภาษี : กรมสรรพากรมีหน้าที่ต้องคืนเงินภาษีภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ยื่นแบบฯ หรือวันที่ยื่นเอกสารประกอบการขอเงินคืนภาษีเพิ่มเติม- การขอคืนภาษีหลังหมดเวลายื่นภาษี : ในกรณีที่จ่ายภาษีไว้เกินกว่าที่ตัวเองมีหน้าที่ แล้วมานึกได้ที่หลังก็ยังสามารถขอเงินภาษีที่จ่ายเกินนั้นได้โดยการยื่นภาษี (หรือยื่นภาษีเพิ่มเติมย้อนหลัง) แต่ต้องรีบขอคืนภายใน 3 ปี นับจากวันสุดท้ายที่ครบกำหนดยื่นภาษี***หมายเหตุ : โดยปกติแล้วหากไม่มีข้อสงสัยใดๆ กรมสรรพากรจะอนุมัติเงินคืนภาษีให้ทันที แต่หากมีเหตุสงสัยบางประการ เจ้าหน้าที่อาจขอให้ส่งหลักฐานประกอบด้วย เช่น หลักฐานการบริจาคเงิน เป็นต้น*** "กรมสรรพากร" คืนเงินภาษีล่าช้า คิดดอกเบี้ยได้! นอกจากนี้ หากพบเจอกรณี "กรมสรรพากร" คืนภาษีให้ล่าช้า ประชาชนมีสิทธิได้รับเงินคืนภาษีพร้อมดอกเบี้ย ในอัตรา 1% ต่อเดือน จนถึงวันที่ลงในหนังสือแจ้งคำสั่งคืนเงิน โดยเริ่มคำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนที่ 4 เป็นต้นไป ที่มาของภาพ : ผู้เขียนที่มาของภาพ : กรมสรรพากร / https://www.rd.go.th/272.htmlที่มาของภาพ : กรมสรรพสามิตต์ / https://www.excise.go.thที่มาของภาพ : กรมศุลกากร / https://www.customs.go.th/ที่มาของภาพ : ธนาคารกรุงไทย / https://krungthai.comที่มาของภาพ : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร / https://www.baac.or.thที่มาของภาพปก : ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !