การคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพในคดีอาญา หมายถึง การให้ความรู้ ทางกระบวนการยุติธรรมทางอาญาทุกคดี เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทั้งฝ่ายผู้ต้องหา จำเลย ผู้เสียหาย พยาน โดยผู้พิพากษาจะเป็นผู้ชี้แจ้งให้ฟัง จําเลย ในคดีอาญาเป็นอีกหนึ่งสถานะของบุคคลในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และ สิทธิของจําเลยเป็นสิทธิตามกฎหมายที่บัญญัติขึ้นมาเพื่อคุ้มครองประชาชนที่ตกอยู่ในสถานะดังกล่าว ให้ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมซึ่งเป็นหลักทั่วไปในเรื่องสิทธิมนุษยชนที่รัฐจัดหาให้ กฎหมายที่ให้การคุ้มครองสิทธินี้มีมาตั้งแต่เริ่มใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๗๗ และก็มีการพัฒนาเรื่อยมาตามสภาพของค่านิยมในสังคมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทั้งในส่วนของการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายและการบัญญัติกฎหมายใหม่ ทั้งหมดทั้งปวงก็เพื่อที่จะอํานวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอันเป็นหลักสําคัญในการปกครองบ้านเมือง ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาซึ่งเป็นกฎหมายหลักในวิธีการดําเนินคดีอาญาได้ให้คํานิยามของคําว่า “จําเลย” ไว้ดังนี้ “จําเลย” หมายความถึง บุคคลซึ่งถูกฟ้องยังศาลแล้วโดยข้อหาว่าได้กระทําความผิดที่มาของภาพ : ผู้เขียน สรุปได้ว่า ฐานะ “จําเลย” จะเกิดขึ้นเมื่อท่านถูกนําตัวไปฟ้องยังศาลแล้ว เมื่อท่านตกอยู่ในฐานะ “จําเลย” กฎหมายจึงจะเริ่มเข้ามากํากับดูแลและกําหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ทนายความ และศาล ซึ่งในที่นี้เราจะมาว่ากันในส่วนที่กฎหมายกําหนดสิทธิและหน้าที่ในการคุ้มครอง “จําเลย” การคุ้มครองหรือสิทธิที่ว่ามามีอะไรบ้างนั้นขออนุญาตจําแนกออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้ สิทธิของจําเลยตามกฎหมาย 1. สิทธิจะได้รับการพิจารณาคดีด้วยความรวดเร็วต่อเนื่อง และเป็นธรรม 2. สิทธิที่จะได้รับการตั้งทนายความแก้ต่างในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาในศาลชั้นต้นตลอดจนชั้นศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา และขอให้ศาลตั้งทนายความให้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 3.สิทธิที่จะปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว 4. สิทธิที่จะตรวจดูสิ่งที่ยื่นเป็นพยานหลักฐานและคัดสําเนา หรือถ่ายรูปสิ่งนั้นๆ 5. สิทธิที่จะตรวจดูสำนวนการไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาของศาล และคัดสำเนา หรือ ขอรับสําเนาที่รับรองว่าถูกต้อง โดยเสียค่าธรรมเนียม 6. สิทธิที่จะตรวจหรือคัดสําเนาคําให้การของตนในการสอบสวน หรือเอกสารประกอบคําให้การของตน 7. สิทธิในการคัดค้านผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี 8. หากเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว โจทก์สามารถถอนฟ้องในเวลาใดก่อนที่ศาล จะมีคําพิพากษาถึงที่สุดก็ได้แต่จําเลยเองก็มีสิทธิที่จะคัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์ได้เช่นกัน 9. สิทธิที่จะไม่ถูกดำเนินคดีซ้ำ 10. สิทธิที่จะไม่ยอมให้โจทก์อ้างจําเลยเป็นพยาน 11. สิทธิที่จะร้องขอให้ศาลปล่อย ถ้ามีการคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 12. สิทธิที่จะร้องขอให้ศาลปล่อยชั่วคราว 13. สิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาคําสั่งศาล ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว 14. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและสืบพยานในศาล โดยเปิดเผยต่อหน้าจําเลย 15. สิทธิที่จะได้รับทราบคําฟ้องและคําอธิบายจากศาลในส่วนที่ถูกฟ้อง โดยจําเลยจะให้การหรือไม่ยอมให้การก็ได้ที่มาของภาพ : ผู้เขียน 16. สิทธิที่จะได้รับฟังการอ่านคําเบิกความพยานของศาลไม่ว่าในชั้นไต่สวนมูลฟ้องหรือชั้นพิจารณา 17. จําเลยซึ่งเป็นคนยากจนมีสิทธิขอสำเนาคำพิพากษา ซึ่งรับรองถูกต้องโดยไม่ต้องคิดค่าธรรมเนียม 18. สิทธิที่จะให้จัดหาล่ามหรือล่ามภาษามือ 19. สิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาคําพิพากษาหรือคำสั่งของศาล 20. จําเลยซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกอยู่ในเรือนจำ มีสิทธิยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาต่อพัศดีภายในกําหนดอายุอุทธรณ์หรือฎีกาได้ 21. สิทธิที่จะไม่ตอบคำถามซึ่งโดยตรงหรืออ้อม อาจจะทําให้จําเลยซึ่งเป็นพยานถูกฟ้องคดีอาญา 22. สิทธิที่จะร้องขอให้ศาลสั่งทุเลาการบังคับให้จําคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป 23. สิทธิที่ทูลเกล้าถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์ ขอพระราชทานอภัยโทษ 24. จําเลยซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์อยู่จะต้องโทษประหารชีวิต มีสิทธิที่จะให้รอการประหารชีวิตไว้จนพ้นกําหนด 3 ปี นับแต่คลอดบุตรแล้ว และมีสิทธิได้รับการลดโทษประหารชีวิตลง เหลือจําคุกตลอดชีวิตที่มาของภาพ : ผู้เขียน 25. จําเลยซึ่งต้องคําพิพากษาให้ประหารชีวิต เกิดวิกลจริตก่อนถูกประหารชีวิต มีสิทธิให้รอการประหารชีวิตไว้ก่อนจนกว่าจะหาย ถ้าหายวิกลจริตภายหลัง 1 ปี นับแต่วันคําพิพากษาถึงที่สุด มีสิทธิได้รับการลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจําคุกตลอดชีวิต 26. กรณีตามคําพิพากษาจําเลยต้องรับโทษจําคุก หรือโทษสถานหนักกว่านั้น และจําเลยไม่ได้คุมขัง จําเลยจะอุทธรณ์ได้ต่อเมื่อแสดงตนต่อเจ้าพนักงานศาล ในขณะยื่นอุทธรณ์ 27. สิทธิที่จะได้รับหลักประกันในการที่จะมีผู้พิพากษานั่งพิจารณาครบองค์คณะและผู้พิพากษาที่ไม่ได้นั่งพิจารณาคดีใดจะทําคําพิพากษานั้นมิได้เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจําเป็นอื่นอันมิอาจก้าวล่วงได้ 28. สิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตามสมควรเพราะเหตุที่ตกเป็นจําเลย ในคดีอาญาและถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีและมีคําพิพากษาถึงที่สุดว่ามิได้เป็นผู้กระทําผิดหรือการกระทําของจําเลยไม่เป็นความผิด 29. มีสิทธิที่จะขอโอนคดีไปยังศาลอื่น หรือคัดค้านการขอโอนคดีของโจทก์ 30. สิทธิในการที่จะปฏิเสธการไปพบเจ้าพนักงานหรือศาล หากไม่มีหมายเรียก 31. สิทธิที่จะอ่านหรือตรวจดูหรือขอสําเนาซึ่งพยานเอกสารหรือตรวจดูพยานวัตถุ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการรวบรวมสิทธิต่าง ๆ ของจําเลยให้เข้าใจได้ง่ายไว้ยึดถือปฏิบัติเมื่อท่านต้องตกอยู่ในฐานะจําเลย แต่หากเห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องยุ่งยาก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการร้องขอทนายความ หรือบุคคลที่ท่านไว้วางใจในการทําหน้าที่แทน หรือให้ความช่วยเหลือท่าน ซึ่งก็เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านสามารถทําได้ที่มาของภาพ : ผู้เขียน ที่มาของภาพ : ผู้เขียนที่มาของภาพปก : ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !