ในปัจจุบันสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากนั้นก็คือการมีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเนื่องจากการมีสุขภาพที่ดีจะส่งผลต่อการมีชีวิตที่ยืนยาว สามารถประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากการที่หลาย ๆ คนตระหนักในการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูเเลรักษาสุขภาพ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เเต่หากสิ่งที่เราทำนั้นสามารถวัดผลได้ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย เราจะสามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่เราทำเพื่อร่างกายทั้งการออกกำลังกาย หรือการดูเเลตนเองนั้นส่งผลต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง เพื่อให้เราสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องเเละเหมาะสมกับตนเองได้ ซึ่งการวัดผลที่ดีที่สุดนั้นคือการทดสอบสมรรถภาพของตนเอง วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการทดสอบสมรรถภาพทางกาย เราจะรู้ได้เลยว่าสมรรถภาพร่างกายเราจะอยู่ในระดับไหนเเละควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อให้มีความสมบูรณ์เเข็งเเรงต่อไป ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ขั้นตอนในการทดสอบสมรรถภาพทางกายนั้นไม่ยากเลย ในวันของการทดสอบสมรรถภาพเราจะต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม ไม่ทานอาหารมากจนเกินไปเเละพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีโรคประจำตัวหรืออาการบาดเจ็บควรเเจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ทำการทดสอบสมรรถภาพก่อนการทดสอบทุกครั้ง ซึ่งการทดสอบสมรรถภาพจะเเบ่งออกเป็นฐาน ๆ โดยจะเรียงลำดับฐานตามความหนักเบา ฐานเเรกจะเป็นการวัดความดัน วัดสัดส่วนของร่างกาย ทั้งน้ำหนักเเละส่วนสูง เพื่อประเมินเบื้องต้นถึงสัดส่วนความเหมาะสมของร่างกายเเละตรวจดูว่าผู้เข้าทดสอบจะสามารถเข้ารับการทดสอบในฐานต่อไปได้หรือไม่ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ฐานต่อมาจะเป็นการวัดเปอร์เซ็นไขมันในร่างกายด้วยเครื่อง Skin Fold Caliper จะวัดทั้งหมด 4 จุดในร่างกาย คือ ต้นเเขนด้านหน้า ต้นเเขนด้านหลัง สะบักหลัง เเละ บริเวณหน้าท้อง เพื่อหาดูค่าไขมันใต้ผิวหนังเเละประเมินไขมันส่วนเกินของร่างกายได้ ฐานวัดความอ่อนตัว โดยใช้การนั่งงอตัวไปข้างหน้าด้วยเครื่องมือ Sit And Reach Test สามารถวัดค่าความยืดหยุ่นในร่างกายเพื่อพัฒนาทักษะความอ่อนตัวของร่างกายให้ดีขึ้น ภาพถ่ายโดยผูเขียน ฐานวัดความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อ จะเป็นการวัดความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อเเขนเเละกล้ามเนื้อขา โดยใช้วิธีของ Grip Strength เเละ Leg Strength จะให้ผู้เข้าทดสอบยืนเเละบีบเครื่องวัดเเรงบีบมือให้ได้มากที่สุด เเละเหยียดขาบนเครื่องวัดเเรงเหยียดขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะสามารถทำให้เราทราบถึงความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อเเขนเเละขาในระหว่างการออกเเรงเกร็งตัวได้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ฐานวัดความอดทนของร่างกายจะใช้วิธีลุกนั่งหรือ 1 นาที เพื่อวัดประสิทธิภาพความอดทนของกล้ามเนื้อต่อการทำกิจกรรมหนัก ๆ ของร่างกาย ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ฐานสุดท้ายจะเป็นการวัดออกซิเซนสูงสุดในร่างกาย หรือ VO2max โดยการใช้จักรยานเป็นเครื่องมือในการทดสอบ ซึ่งจะให้ผู้เข้าทดสอบปั่นจักรยานโดยใช้น้ำหนักถ่วงเพื่อให้เกิดความล้า ซึ่งผู้หญิงจะใส่น้ำหนักถ่วงในจักรยานอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม เเละผู้ชายจะใช้น้ำหนักถ่วงอยู่ที่ 2.0 กิโลกรัม โดยจะปั่นเป็นระยะเวลา 3–5 นาทีเเละวัดชีพจรเพื่อนำมาประเมินผลวัดค่าความสามารถในการออกซิเจนของเเต่ละบุคคลต่อการประกอบกิจกรรมต่างๆ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมื่อทดสอบสมรรถภาพครบทุกฐานเเละจะใช้โปรเเกรมคำนวณผลการทดสอบของการกีฬาเเห่งประเทศไทยเเละประเมินผลออกมา ซึ่งจะทำให้เราได้ทราบว่าสมรรถภาพด้านใดของเราต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น หากความอ่อนตัวเราได้ต่ำกว่าเกณฑ์เราจะต้องทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นก่อนออกกำลังกายหรือตอนตื่นนอนต่าง ๆ หรือหากด้านความเเข็งเเรงในร่างกายเราได้ต่ำกว่าเกณฑ์เราก็ควรจะฝึกความเเข็งเเรงใช้ การเล่น Weight Training หรือหาเปอร์เซ็นไขมันในร่างกายมีค่าเกินเกณฑ์ปกติ เราก็ควรลดอาหารประเภทไขมัน เเป้งต่างๆ ควบคุมปริมาณอาหารเพื่อให้กลับเข้าสู่เกณฑ์ปกติ การทดสอบสมรรถภาพจึงเป็นสิ่งที่ดีเเละจำเป็นในปัจจุบันเป็นอย่างมาก สามารถเป็นเเนวทางในการกำหนดการออกกำลังกายหรือดูเเลตนเองได้ หากเราได้ทำการทดสอบสมรรถภาพก่อนเเละหลังการทำกิจกรรมเพื่อประเมินผลเเละวัดผลลัพธ์ในการทำกิจกรรมสู่พัฒนาทักษะกิจกรรมทางกายของเราให้ดียิ่งขึ้นได้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน โดยหากผู้อ่านท่านใดสนใจการทดสอบสมรรถภาพสามารถเข้ารับการทดสอบได้ที่กกท.หรือการกีฬาเเห่งประเทศไทยในทุกภาคส่วน ทั้งกกท.ส่วนกลางประจำกรุงเทพมหานคร กกท.ประจำภาคทุกภาคในประเทศไทย โดยจะมีการจัดกิจกรรมคลินิกวิทยาศาสตร์การกีฬาในการเปิดบริการให้คำปรึกษาเเละตรวจประเมินสมรรถภาพทางกาย ในเวลาทำการ 8.30-16.30 น. หรือหากไม่สะดวกสามารถเข้าเข้ารับการทดสอบในโรงพยาบาลที่ให้บริการการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้เลยค่ะ ภาพหน้าปกถ่ายโดยผู้เขียน