การปรับตัวของคนทําโฆษณาช่วงวิกฤต "COVID-19" อีกหนึ่งวงการยักษ์ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงช่วง COVID-19 สำหรับนักการตลาดคือวงการโฆษณานั่นเอง แม้ว่าธุรกิจออนไลน์เหมือนจะไปได้ดี ในช่วงที่ใคร ๆ ก็อยู่บ้าน แต่ในเชิงพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normalนั้น เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่เรียกได้ว่า หากธุรกิจไหนที่ไม่ปรับตัว หรือไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ก็อาจจะตายดับไปเลยก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนออนไลน์ก็อย่าประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการโฆษณา นับเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และโฟกัสเป็นพิเศษ หากยังใช้กลยุทธ์การโฆษณาแบบเดิม ๆ เมื่อครั้ง ก่อนที่โควิดจะมา อาจจะทำให้แบรนด์หรือสินค้าของคุณ ไม่เป็นที่สนใจของลูกค้า และสูญเสียงบค่าโฆษณาไปอย่างไม่เกิดผลลัพธ์หรือยอดขายที่ดีได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยมีวิธีการปรับตัวสำหรับนักโมษณาในช่วงวิกฤต COVID-19 มีเรื่องอะไรบ้างที่เราจะต้องปรับตัว และให้ความสำคัญเป็นพิเศษในช่วงวิกฤตนี้ มี 4 ข้อที่ลองเช็คดูว่าแบรนด์หรือธุรกิจของคุณได้ทำแล้วหรือยัง ? key massage ต้องเข้ากับสถานการณ์ ข้อความถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดวิกฤต การครีเอท หรือการเลือกใช้ข้อความจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในช่วงที่จะออกอาวุธ เพราะถ้าคำคุณไม่ดี หรือไม่เข้ากับสถานการณ์นั่นก็หมายความว่า คุณกำลังตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอยู่นั่นเอง หรือในเชิงครีเอทีฟ ไม่ว่าจะเป็น ภาพ หรือดีไซน์ก็ต้องถูกคิดและออกแบบให้ไปในทิศทางเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ช่วงนี้คนทำงานที่บ้าน หรือ WFH เป็นหลัก เราอาจจะต้องใช้ข้อความหรือการออกแบบ Mood & Tone ให้เข้ากับ วิถีชีวิตของลูกค้าที่เปลี่ยนไปด้วย อาจจะมีข้อความเชิญชวน เช่น "อยู่บ้านกับเราแฮปปี้กว่า" หรือ "อยู่บ้านไม่มีเหงาแค่มีเรา" เราไปถึงภาพหรือดีไซน์ที่ใช้ในการ โฆษณาอาจจะมีโลเคชั่นที่บ้าน ที่แสดงออกว่าเราอยู่ใกล้ผู้บริโภคและได้ให้ประโยชน์อะไรกับเขาบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรดูให้เหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าที่เรามี product ต้องเหมาะกับช่วงวิกฤต สินค้านับเป็นเรื่องสำคัญ ในช่วงที่ผู้บริโภคอาจจะต้องรัดกุมเรื่องการใช้เงินในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นเราควรพิจารณาจากธุรกิจ หรือ สินค้าของเราเสียก่อนว่า เรามีสินค้าอะไรบ้าง และสินค้านั้น ๆ ตอนนี้จำเป็นกับผู้บริโภคมากแค่ไหนในช่วงโรคระบาด โดยเฉพาะสินค้าที่จัดอยู่ในหมวดสินค้าสิ้นเปลืองต่าง ๆ ต้องกลับมาวิเคราะ์คุณค่าของสินค้าที่ได้มอบให้ผู้บริโภคอย่างแท้จริง เช่น หากเป็นในหมวดหนังสือ ก่อนหน้านี้เราอาจจะพอรู้กันมาบ้างว่า วงการหนังสืออาจจะกำลังซบเซา แต่ในช่วงวิกฤตนี้ หนังสืออาจจะเป็นทางออกของผู้บริโภคที่ต้องการความบันเทิง การพักผ่อนจากความเครียดทั้งปวง หรือแม้กระทั่งความเหงา ที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะฉะนั้นนี่คือคุณค่าในมุมวิกฤตของสินค้าที่ยังสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อยู่ หาคุณค่าของสินค้าคุณให้เจอ และต้องสามารถเข้าไปแก้ปัญหาบางอย่างให้กับลูกค้าได้ด้วย ใช้งบอย่างคุ้มค่า วัดผลบ่อย ๆ แน่นอนว่า ถ้าพูดถึงการโฆษณา เรื่องงบประมาณนับเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะต้องควบคุมและใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงวิกฤต ทุกองค์กร ทุกธุรกิจน่าจะต้องหันกลับมาทบทวนงบประมาณในส่วนนี้กันใหม่ทั้งหมด ในที่นี่ไม่ใช้การชะลอ จนไม่ใช้งบเลย แต่ให้เลือกจากแคมเปญ หรือสิ่งที่คิดว่าจะคุ้มค่าที่สุดจากการลงทุนโฆษณาในช่วงนี้ ซึ่งหากคุณ องค์กร หรือธุรกิจมีการทำการบ้านเรื่อง product และ key massage ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นมาแล้ว เมื่อใส่งบประมาณไป เราควรติดตามความคุ้มค่าอย่างใกล้ชิด เช่น หากว่าด้วยเรื่องการซื้อ Ads. หรือโฆษณาทาง Facebook ควรมีการมอนิเตอร์ว่าแคมเปญที่ปล่อยไป มีตัวไหนที่ตอบโจทย์หรือคุ้มค่ามากที่สุด แล้วแต่วัตถุประสงค์ หากดูแล้วไม่คุ้มค่า หรือมีค่าโฆษณาที่แพงเกินไป ควรหยุดและปรับปรุงแก้ไขโดยทันที ควรเลือกซื้อในช่วงเวลาที่สั้นลง เพื่อติดตามได้ง่าย และจะได้ไม่สูญเสียงบประมาณเกินความจำเป็น ทำประโยชน์เพื่อสังคมบ้าง ในทุกสถานการณ์ที่วิกฤต มักมีโอกาสให้กับแบรนด์หรือธุรกิจเสมอ อย่ามัวแต่แข่งขันทำกำไร จนเอาเปรียบผู้บริโภค หรือคงจะไม่ดีนัก หากแบรนด์จะเอาแต่ขายของจนไม่สนใจสถานการณ์ หรือ บริบทในสังคมเลย อย่าลืมว่าเราทุกคนต่างได้รับผลกระทบ ลูกค้าเองก็เช่นกัน นอกจากการลงทุนเพื่อการโฆษณาแล้ว หากพอมีกำลัง อาจจะหาโอกาสทำการกุศล หรือทำเพื่อสังคมบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดี ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจ งบโฆษณาบางตัวอาจตัดออกเพื่อนำมาสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับลูกค้าในช่วงวิกฤตนี้ เพื่อเป็นแบรนด์ที่จะสามารถเดินต่อและเป็นที่รู้จักในระยะยาว ภาพปกและภาพประกอบ ( 1 / 2 / 3 / 4 / 5 ) จาก photo free for https://www.canva.com/