คุณเป็นบุคคลประเภทชอบผัดวันประกันพรุ่งหรือเปล่า ? ลองพิจารณาคำถามต่อไปนี้- คุณมักจะรอจนกระทั่งนาทีสุดท้ายจึงจะเริ่มทำงานที่ได้รับมอบหมาย ?- คุณมักจะส่งการ์ดอวยพรวันเกิดสายเสมอ ๆ - คุณมักจะผิดนัดการไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์เสมอ ๆ - นานแค่ไหนที่คุณจะทำความสะอาดเสื้อผ้า, ห้องครัว, ตู้เก็บยา ?- คุณไม่กล้าตัดสินใจในบางเรื่อง ?- คุณมักจะเลื่อนเวลาในการโทรฯ หาใครสักคน หรือการออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ ?- คุณเห็นว่าบทความบทนี้ไม่สำคัญจึงไว้อ่านทีหลัง ? คนส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะมีบางคนที่เป็นเกือบทุกข้อ ความจริงแล้วการผัดผ่อนเป็นลักษณะตามธรรมชาติ ในตอนเด็กๆเรามักจะเรียนรู้ว่าหากยืดเวลาออกไปได้มักจะทำให้ได้สิ่งที่ตัองการมาในที่สุด เช่น เมื่อแม่บอกให้เรากวาดบ้าน รู้ทั้งรู้ว่าอย่างไรก็ต้องทำ แต่ขอให้ได้ผัดผ่อนสักนิดก็ยังดี (เผื่อบางทีแม่จะได้ทำเอง) ซึ่งมันคุ้มกับการรอคอยไม่ใช่หรือ? เมื่อเติบโตขึ้น ลักษณะของการผัดวันประกันพรุ่งจะยังแสดงถึงลักษณะของความขัดแย้งภายในตนเองของบุคคลด้วย โดยจะพบได้ว่าเมื่อเราตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่าง จะมีบางสิ่งในตัวเราที่คอยทักท้วงไว้ ทำให้เกิดการลังเลที่จะลงมือทำอะไรสักอย่างอะไรคือเหตุที่ทำให้คุณเป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง?ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/photos/confused-hands-up-unsure-perplexed-2681507/ สิ่งแรกที่คุณต้องหาคำตอบให้ได้เสียก่อนก็คือ สถานการณ์แบบใดที่มักจะทำให้คุณต้องผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ ลองพิจารณาคำถามต่าง ๆ ต่อไปนี้สถานการณ์แบบใดบ้างที่มักจะทำให้คุณตัองผัดผ่อน?คุณต้องชดใช้อะไรบ้างเมื่อเกิดการล่าช้า?ในสภาวะที่คุณทำการผัดวันประกันพรุ่งไปเป็นระยะเวลานานและทำงานเสร็จในที่สุด สิ่งที่คุณได้รับคืออะไร? (ทำงานเสร็จแบบเฉียดฉิว, ได้รับการชมเชยหรือความกดดันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ขัอปฎิบัติ 15 ประการเพื่อหยุดนิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่งขอขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/photos/warning-angry-be-careful-finger-2284170/จุดที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้นหากแต่ว่าถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์จริง ๆ ก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้นแล้วคุณจะพบว่า กาการแก้นิสัยนี้อันที่จริงมันไม่ยากอย่างที่คิดเลย!การขาดความรู้สึกเกี่ยวกับเวลาที่ดีมักจะทำให้เกิดการผัดวันประกันพรุ่ง เช่น อาจมีความรู้สึกว่า "ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะทำงานนี้ให้เสร็จ" วิธีแก้ไขที่ดีอย่างหนึ่งคือต้องจดบันทึกระยะเวลาที่ต้องใช้ในการทำงาแต่ละชิ้น ซึ่งจะทำให้คุณได้รับรู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณใช้เวลาไปมากน้อยแค่ไหนในการทำงานแต่ละอย่างให้ทำงานไปเมื่อมีเวลา บางคนชอบประมาณว่างานชิ้นหนึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 10 หรือ 12 ชั่วโมงก็จะเสร็จ ดังนั้นเขาจึงเอาแต่รอว่าเอาไว้ทำในวันที่มีเวลาเท่าที่ประมาณไว่าเสียก่อนจึงจะลงมือทำและแน่นอนจึงไม่เคยมีวันนั้นเลยทางเลือกที่ดีกว่าก็คือ การฝึกที่จะแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ ซึ่งจะจัดการได้ง่ายขึ้น แล้วลองร่างขั้นตอนที่จะทำงานให้เสร็จได้ออกมาฝึกให้รู้สึกเสมอว่าขั้นตอนต่าง ๆ ที่คุณกำหนดไว้ "ต้องเป็นไปตามแผน"จำไว้ว่า แม้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีก็อาจจะทำงานอะไรบางอย่างได้เสร็จสิ้นหากคุณรู้สึกว่า ไม่ค่อยจะมีเวลาเลยให้ลองตื่นเช้าสักครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง หากว่าคุณต้องการตื่นมาวิ่งออกกำลังกายและหากทำได้คุณจะพบว่าจริงๆ แล้วคุณยังแล้วคุณยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควรเลยทีเดียวหัดจัดสถานที่ทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จะทำให้คุณประหยัดเวลาได้มากและทำงานได้เร็วขึ้นพยายามเอาสิ่งไม่จำเป็นออกไปให้พ้นจากบริเวณที่ทำงานในบางครั้งเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มทำงานจากส่วนแรกเสมอไปหากว่าพิจารณาดูแล้วพบว่ามันค่อนข้างยากเราอาจจะข้ามไปทำส่วนที่ง่ายกว่าก่อนก็ได้ฝึกที่จะกำหนดเส้นตายให้กับตัวเองในการทำงานแต่ละชิ้นพยายามบอกกับตัวเองว่า "หากผมเขียนข้อเสนอ (หรืองานใด ๆ ก็ตามสักชิ้นหนึ่ง) ไม่เสร็จภายใน 5 โมงเย็นก็จะต้องยกเลิกแผนการทั้งหมดสำหรับคืนนี้" วิธีนี้ค่อนข้างได้ผลกับคนส่วนใหญ่สำหรับทุก ๆ เส้นตายที่กำหนดไว้หากคุณทำได้ตามนั้นก็อย่าลืมที่จะมีรางวัลกับตัวเอง อาทิ การไปออกกำลังกาย, ไปกินอาหารนอกบ้าน, ไปดูนังฟังเพลงหรือไปดูการแข่งขันกีฬา เป็นต้นพยายามทำงานทันทีที่มันมาถึงมือคุณ ยิ่งทำได้มากเท่าไหร่โอกาสที่งานใด ๆ จะเสร็จล่าช้าก็แทบจะไม่มีอีกลองถามตัวเองว่า "ยังยังมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่าหรือเปล่า?" บางครั้งคุณอาจจะทำให้งานใด ๆ ยากกว่าที่มันเป็นจริง เช่น การจัดงานเลึ้ยง คุณอาจจะเลือกี่จะทำของหวานที่ยุ่งยากแทนที่จะใช้ผลไม้ที่ลดขั้นตอนไปได้อีกมากไม่ต้องทำอะไรเลย! นั่งลงแล้วเอางานมากองไว้ตรงหน้าสัก 15 นาที ทำสามธิแล้วจึงลงมือทำ จะลดพฤติกรรมการผัดวันประกันพรุ่งได้อย่างไร?ขอขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/photos/woman-thoughtful-pensive-young-1148923/ไม่ว่าคนที่มีพฤติกรรมชอบผัดวันประกันพรุ่งจะเป็นเพื่อนคุณ ผู้ร่วมงานหรือบุคคลในครอบครัว คุณคงไม่สามารถทำให้เขาไปทำในสิ่งที่ไม่อยากทำได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือการกระตุ้นเขา เช่นคุยเรื่องงานกับเขา บอกขั้นตอนต่าง ๆ ให้ทราบ ชี้แจงให้เห็นผลเสีย หากเกิดการล่าช้า แต่อย่าทำให้เหมือนการขู่ขวัญ แต่ต้องทำให้เขาเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริงแนะนำให้เขารู้จักแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ และให้รางวัลเล็ก ๆ กับตัวเอง เมื่อทำแต่ละขั้นตอนเสร็จอย่าไปทำงานให้กับเขาเด็ดขาดคุณควรทำเพียงแค่ ให้การให้การสนับสนุนและคำแนะนำเท่านั้นสำหรับสมาชิกในครอบครัวคุณอาจจะเสนอรางวัลเล็กๆ เช่น การออกไปเที่ยวนอกบ้าน การไปดูฟุตบอล ฯลฯสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือ การหาแรงกระตุ้นเพื่อลดพฤติกรรมการผัดวันประกันพรุ่งของคุณได้แล้ว! ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : https://pixabay.com/illustrations/calendar-indecision-maybe-possibly-1806776/