อื่นๆ

การลงทุนแบบเอาชนะวิกฤตได้ 10 ข้อ จากนักลงทุนระดับโลก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
การลงทุนแบบเอาชนะวิกฤตได้ 10 ข้อ จากนักลงทุนระดับโลก

รูปภาพปกจาก https://unsplash.comProductivityวิกฤตเศรษกิจนั้นเป็นเรื่องน่ากลัว แล้วเราจะทำอย่างไรจากวิกฤตเศรษกิจครั้งนี้ สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนนะครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึง 10 คำแนะนำจากนักลงทุนระดับโลก นั่นก็คือนาย Ray Dalio นั่นเองครับ เขานั้นเป็นผู้จัดการกองทุน Hedge Fund ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก Ray Dalio บริหารกองทุนขนาดใหญ่ ที่ไม่ติดลบ ไม่ขาดทุน ท่ามกลางวิกฤตเศรษกิจ ในขณะที่กองทุนอื่น ๆ ขาดทุนกันมากมาย เขาคือผู้บริหารกองทุน ที่เก่งที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ครับ ดังนั้นนะครับ 10 คำแนะนำด้านการเงินนี้ จะทำให้เพื่อน ๆ เขาใจกลยุทธ์ เขาใจความคิด ในการบริหารจัดการเงินของเขา และสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกวิกฤตเหมือนกับเขาแน่นอนครับ

1. ห้ามสร้างหนี้ เร็วกว่ารายได้

นี่เป็นสิ่งที่บุคคลธรรมดา หรือ บริษัท ต้องจำเลยนะครับ เพราะว่าถ้าคุณมีหนี้เติบโตเร็วสิ่งที่จะตามมาด้วยนั้นก็คือดอกเบี้ยครับ ดอกเบี้ยนั้น คือ รายจ่ายของบุคคล หรือ ของบริษัท ถ้าคุณมีรายได้ที่เติบโตช้ากว่าหนี้ หมายความว่า เมื่อดอกเบี้ยคุณโตขึ้น มันก็จะกัดกินในส่วนของรายได้ และสุดท้ายก็จะปิดด้วยการ ติดลบครับ พอคุณไม่มีรายได้มากพอ ไม่มีเงินออมมากพอ เพราะว่าติดลบ คุณก็จะโตไม่ได้ครับ สุดท้ายคุณก็จะโดนหนี้ทุกอย่างที่พอกพูนมาล้มทับครับ

Advertisement

Advertisement

กราฟรายได้2. ถ้าเป็นหนี้ ต้องเพิ่มรายได้

ถ้าหนี้ของคุณ สามารถสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นได้ นั่นหมายความว่า คุณก็จะมีการเติบโตของรายได้และหนี้โตไปพร้อมกัน ถ้าคุณทำได้ การมีหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดครับ แต่ในทางกลับกันก็คือ อย่าสร้างหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ครับ อย่างเช่นถ้าเป็นบุคคลธรรมดาแล้วใช้บัตรเครดิต ไปรูดซื้อของใช้ กินเที่ยว ต่าง ๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้บอกว่ามันผิด แต่มันคือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ครับ ถ้าคุณมีหนี้ตรงนี้โตเร็วเกินไป ในด้านการเงินของคุณก็จะเริ่มมีปัญหาแล้วครับ

3. อย่าให้รายได้เติบโตเร็วกว่าผลผลิต หรือ Productivity

ข้อนี้หลายคนอาจจะงง ๆ นิดนึงนะครับ ว่ารายได้เติบโตเร็วมันก็ดีอยู่แล้ว แต่ในความจริงของ Ray Dalio เขาบอกว่า ถ้าวันนี้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ความสามาของคุณยังน้อยอยู่ อย่าให้รายได้เติบโตเร็วเกินไปนะครับ เพราะว่าคุณจะเสียความสามารถทางด้านการแข่งขันครับ เพราะคู่แข่งของคุณอาจจะใช้ช่องว่างตรงนี้ในการที่จะแย่งลูกค้าของคุณได้ มันจะทำให้คุณมีความมั่นคงที่น้อยลงครับ

Advertisement

Advertisement

4. จงทำทุกอย่างเพื่อเพิ่มผลผลิต หรือ Productivity

Ray Dalio นั้นเขาเป็นคนที่เชื่อมั่นใน Productivity นั่นก็คือเรื่องของ ผลประกอบการ กำลังการผลิต ทักษะในการผลิต ความรู้ของคุณ ที่มันสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ครับ ดังนั้นเท่ากับว่าในระยะยาวแล้ว Productivity คือสิ่งที่ส่งผลมากที่สุดแล้วครับ ในด้านการลงทุน หรือ ผลประกอบการต่าง ๆ จริงอยู่ครับที่มันจะมีช่วงเวลาที่ต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ  ครับ แต่หัวใจหลักของธุรกิจ หรือ ของบุคคล นั่นก็คือการสร้างผลลัพธ์ส่วนตัวครับ ถ้าองค์กรของคุณสามารถตอบโจทย์ตลาดได้ มีสินค้าที่ดี ยังไงบริษัทของคุณก็เติบโตอยู่แล้ว ต่อให้คุณไม่มีกลยุทธ์ทางด้านการเงินที่ดีมาก ซึ่งมีก็ดี แต่ในระยะยาวแล้ว สิ่งที่สำคํญที่สุดคือ Productivity ครับ

5. แบ่งรายได้มาออมเงิน

ออมเงินRay Dalio บอกว่าการออมเงินคือต้นกำเนิดของความมั่นคงและอิสรภาพครับ คุณจะไม่สามารถมีอิสรภาพได้เลยถ้าคุณไม่มีเงินออมครับ คุณต้องเริ่มวางแผนได้แล้วว่าเงินเท่านี้ คุณจะออมเท่าไหร่ กี่เปอร์เซ็น แล้ววางแผนไว้เลยว่าเงินเท่านี้คุณสามารถอยู่ได้กี่เดือน เมือคุณไม่มีรายได้ หรือ เกิดวิกฤตเขามา ถ้าเปรียบเทียบเป็นบริษัท แปลว่าคุณก็ต้องมีเงินเก็บ มีเงินหมุน มีเงินที่คุณสะสมอยู่ในตัวของบริษัทครับ

Advertisement

Advertisement

6. ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง

คุณต้องเอาเงินออมของคุณมาสร้างความมั่งคั่งครับ พอพูดถึงการลงทุน Ray Dalio บอกเลยครับว่า คนส่วนใหญ่หรือนักลงส่วนใหญ่จะเข้าใจผิด คิดว่าพวกเขาสามารถคาดการณ์ตลาด รู้จังหวะของตลาด สามารถโกยเงินจากตลาดได้ครับ แต่ความจริงแล้ว การกะจังหวะรู้ทันตลาด การฉกฉวยเงินจากตลาดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากครับ ดังนั้นนะครับ Ray Dalio บอกว่าอย่าพยายามไปเอาชนะตลาด หรือ พยายามโกยเงินจากตลาด แต่ให้ทำเป็นการกระจายความเสี่ยงครับ เพราะมีทรัพย์สินบางตัวที่เติบโตขึ้นและบางตัวก็หดตัวลง ดังนั้นโดยรวมแล้วตลาดมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากครับ แล้วถ้าคุณสามารถกระจายความเสี่ยงไปยังทรัพย์สินต่าง ๆ ได้คุณก็จะไม่ขาดทุนมาก เช่น อาจจะเป็น หุ้น พันธบัตร กองทุน หุ้นกู้ ซึ่งรวมไปถึงหลายสกุลเงินด้วยเช่นกันครับ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ Ray Dalio จะไม่ค่อยแนะนำให้ลงทุนกับเงินสดครับ ซึ่ง Ray Dalio บอกว่าเงินสดคือการลงทุนที่แย่ที่สุดครับ เขาบอกว่าจริงอยู่ที่เงินสดมันไม่ได้เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง แต่ว่าการถือเงินสดมันเปรียบเสมือนเราเสียภาษีตลอด นั่นคือเงินเพ้อนั่นเองครับ เพราะยิ่งถือไปคุณจะโดนกัดกินเงินไปเรื่อย ๆ มันลดด้อยค่าไปเรื่อย ๆ ครับ และสุดท้ายคุณต้องมีทองคำเก็บไว้ประมาณ 10 - 20 เปอร์เซ็น เพราะว่าคุณไม่มีทางรู้ได้เลยครับว่าระบบการเงินของประเทศคุณจะล่มวันไหนครับ ดังนั้นครับเราไม่สามารถรับประกันได้เลยว่า เงินที่คุณถืออยู่มันจะกลายเป็นกระดาษวันไหน แต่ถ้าคุณถือทองคำ คุณยังรักษาความมั่งคั่งได้ครับ แต่นี่ไม่ได้บอกว่าให้ลงทุนทองคำร้อยเปอร์เซ็นนะครับ แต่จงแบ่งสัดส่วนเพื่อประกันความเสี่ยงครับ

7. อย่าเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง

Ray Dalio บอกว่าให้ทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ครับ อย่างเช่นวันนี้คนเริ่มขาย คุณต้องพิจารณาไม่ขาย คนเริ่มซื้อ คุณต้องเริ่มพิจารณาซื้อครับ Ray Dalio บอกว่าคนส่วนใหญ่จะมองค่อนข้างแตกต่างจากนักลงทุนรายใหญ่นะครับ คนส่วนใหญ่จะมองว่าสิ่งที่เคยดีมาก่อนในอดีตต่อไปมันจะดีด้วย ซึ่งเขาจะไม่แคร์เลยว่ามันจะราคาแพงแค่ไหน แต่ในทางกลับกันสิ่งที่แย่ในอดีตพวกเขาคิดว่าในอนาคตจะแย่ด้วยต่อให้ราคามันจะถูกแค่ไหนครับ นั่นหมายความว่าถ้าวันนี้มีหุ้น มีการเติบโตของอะไรสักอย่างกำลังเติบโต 10 เปอร์เซ็น ต่อปีในสิบปีย้อนหลัง เขาก็จะคิดว่ามันจะเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ  ต่อให้ราคาแพงเท่าไหร่เขาก็จะซื้อครับ แต่กลับกันครับ ถ้ามีการลงทุนใดที่มีการติดลบขาดทุนหรือผลประกอบการไม่ค่อยดี เขาจะคาดการณ์ว่าในอนาคตนั้นมันจะแย่ด้วย ต่อให้ราคามันถูกแค่ไหนเขาก็ไม่ซื้อมัน นี่แหละคือความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ครับ

8. ควรพิจารณาลงทุนในธุรกิจที่ต้องกินต้องใช้ตลอด  และธุรกิจนวัตกรรม

Ray Dalio บอกว่าธุรกิจที่หน้าสนใจคือธุรกิจที่เราใช้ประจำวันเหมือน เนื้อ แล้วก็มันฝรั่ง ที่เรากินอยู่ทุกวัน หรือ ธุรกิจอะไรที่สามารถอยู่ได้ตราบนานเท่านานไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก นั่นก็คือสิ่งที่น่าสนใจครับ แต่ต้องห้ามเลเวอเรจเยอะ หรือว่าห้ามกู้เงินเยอะ อีกอย่างก็คือธุรกิจนวัตกรรม อันนี้ถือว่าเป็นอนาคตของโลกใบใหม่ พวกนวัตกรรมใหม่ ๆ ของโลกนี้มันช่วยเพิ่ม Productivity อย่างสูง และต้นทุนต่ำด้วยครับ แต่ตองดูให้ดีครับว่าต้องไม่กู้เงินเยอะเกินไป ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย เพราะพวกนี้เป็นสตาร์ทอัพใช้เงินเปรือง งบดุลพัง อันนี้ก็ต้องระวังนะครับ ถ้ามีนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยม บริหารการเงินดี และงบดุลดี อันนี้น่าสนใจครับ

การลงทุน9. พึ่งพาตนเองได้ และประเมินสถานการณ์เลวร้าย

การพึ่งพาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ การที่จะหวังให้ใครคนนึงมาดูแลเรา ให้สิ่งที่เราอยากได้โดยที่เขาจะไม่เอาเปรียบ หรือเอาผลประโยชน์อะไรจากตัวเรา มันไม่มีครับ พอคุณพึ่งพาตัวเองได้ความมันคงระดับขั้นพื้นฐานของคุณก็จะอยู่ได้ครับ และให้ประเมินการลงทุนเป็นแง่ร้ายเสมอ อย่างเช่นถ้าเกิด Covid - 19 เข้ามา เกิดวิกฤตต่าง ๆ เข้ามา คุณต้องประเมินว่าถ้ามันแย่ที่สุดจะประมาณไหน เพราะถ้านักลงทุนคนไหนสามารถประเมินคาดการณ์สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้แล้ว คุณจะปลอดภัยมากขึ้นครับ

10. ทรัพย์สินอะไรที่มั่นคงที่ที่สุด

Ray Dalio เขาบอกว่าต้องทำการกระจายความเสี่ยงในแต่ละประเทศ แต่ละทรัพย์สินต่างๆ เช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และอีกหลาย ๆ อย่าง ถ้าคุณกระจายความเสี่ยงแล้วนะครับ หากเกิดอะไรขึ้นสุดท้ายแล้วมันก็จะสมดุลครับ

ความมั่งคั่งรูปภาพปกจาก https://unsplash.com

รูปภาพประกอบ

รูปที่ 1 จาก https://unsplash.com

รูปที่ 2 จาก https://pixabay.com

รูปที่ 3 จาก https://pixabay.com

รูปที่ 4 จาก https://pixabay.com

รูปที่ 5 จาก https://pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์