สำหรับ “Soft Power”(ซอฟต์พาวเวอร์) ที่เราจะเห็นได้ง่ายที่สุด ก็ต้องมาจากสื่อที่เรียกว่า “ภาพยนตร์” นี้แหละครับ ถึงแม้ว่า “Soft Power”(ซอฟต์พาวเวอร์) จะสอดแทรกเข้าไปอยู่ในสื่อหลากหลายประเภท แต่เชื่อว่า ภาพยนตร์ก็เป็นหนึ่งทางเลือก ที่ผู้ผลิตจะสอดแทรกเข้าไปได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อาหารและเครื่องดื่ม วัฒนธรรม หรือแม้แต่สภาพทางสังคมของประเทศไทย และภาพยนตร์ก็ยังเป็นหนึ่งในสื่อที่ทรงพลัง เนื่องจากภาพยนตร์สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทั่วโลกก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า “Soft Power” หมายถึงอะไร? “Soft Power”(ซอฟต์พาวเวอร์) คือ การใช้อิทธิพลทางด้านวัฒนธรรม ความเชื่อ อาหารการกิน หรือแม้แต่สภาพทางสังคม มาเผยแพร่ สอดแทรกเข้าไปในสื่อต่าง ๆ เช่น บทเพลง คอนเสิร์ต ภาพยนตร์ บทความ หรือสื่อในรูปแบบอื่น ๆ มีเป้าหมายในการโน้มน้าวให้ผู้อื่นเห็นด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด หรือปฏิบัติตามในสิ่งที่ตนต้องการ โดยไม่ได้ใช้วิธีการที่รุนแรงจากการบีบบังคับด้วยอำนาจผู้มีอิทธิพล หรืออำนาจจากทางการทหาร ในปัจจุบันมีคำนิยามคำ ๆ นี้อยู่หลายคำ ทั้ง “ภูมิพลังวัฒนธรรม” “อำนาจละมุน” “อำนาจนุ่มนวล” แต่ส่วนตัวแล้วชอบคำว่า “ไม้นวม” เพราะมันสามารถอธิบายได้ในตัวของมันเองเรามาดูกันดีกว่า “Soft Power” ที่สอดแทรกในภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะมีอะไรกันบ้าง?อาหารและเครื่องดื่มของไทย นี้คือสิ่งที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ชอบนำเสนอออกมาให้คนดูได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ โดยที่การทานอาหารและเครื่องดื่มมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เสนอตัวของอาหาร หรือเมนูนั้น ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถใส่เรื่องของวัฒนธรรมการกินของสังคมนั้น ๆ เข้าไปได้ด้วย เช่น ชาวตะวันออกจะรับประทานอาหารโดยจะชอบพูดชวนคนรอบข้างจนติดปากว่า “ทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” นี้ถือว่าเป็นวัฒนธรรมการกินที่สามารถสอดแทรกเข้าไปในภาพยนตร์ได้อย่างแนบเนียน หรือถ้าใครยังคิดไม่ออกว่า “อาหาร” จะเป็นSoft Powerได้อย่างไร? ขอยกอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดกว่านั้น ยังจำข่าวของศิลปินสาว MILLI ได้ใช่ไหมครับ? ที่เจ้าตัวร้องเพลงและกินข้าวเหนียวมะม่วงไปด้วยระหว่างการแสดง จนทำให้เมนู ข้าวเหนียวมะม่วงโด่งดังไปทั่วโลก นี่ก็คือ Soft Power ด้านอาหารได้เช่นกันความเชื่อเทศกาลและประเพณี เรื่องต่อมาที่ภาพยนตร์จะสอดแทรกเข้าไปคือ ความเชื่อเทศกาลและประเพณี เพราะภาพยนตร์จะต้องดำเนินเนื้อเรื่องในสังคม ชุมชน หรือ กลุ่มคน และในแต่ละสังคม ก็จะมีเรื่องของ ความเชื่อประเพณีแลพเทศกาล เป็นวัตถุดิบในการเผยแพร่ Soft Power ให้คนดูเชื่อในสิ่งที่จะสื่อ เช่น ความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสังคมไทย ความเชื่อเรื่องของลัทธิในสังคมชนบท เป็นต้น การเผยแพร่ในเรื่องนี้จะทำให้คนภายนอกสามารถเข้าใจได้ว่า ทำไมสังคมไทยของเรา ต้องทำสิ่งนั้น ต้องทำสิ่งนี้ โดยที่เราแทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรเลย อย่างประเพณีสงกรานต์ไทย สมัยก่อนต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องออกมาเล่นน้ำตามท้องถนน แต่ปัจจุบันต่างชาติเริ่มรู้กันแล้วว่า สงกรานต์คืออะไรจากการดูภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ไทยนั้นเองมวยไทยSoft Power มวยไทย คือการสอดแทรกเรื่องของศิลปะการป้องกันตัวแบบไทยเข้ากับตัวภาพยนตร์ เนื่องจากมวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวประจำชาติ ทำให้เมื่อชาวต่างชาติพูดถึงประเทศไทย มวยไทยก็จะเป็นหัวข้อที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดได้ตลอด และด้วย Soft Power จากภาพยนตร์ เรื่อง "องค์บาก" และ "ต้มยำกุ้ง" ทำให้ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติสื่อสารออกมาได้มีเอกลักษณ์โดดเด่น สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทย จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยสนใจเข้ามาศึกษามวยไทยถึงถิ่นกำเนิด และยังช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างมีนัยยะอีกด้วยซึ่ง Soft Power ยังมีอีกหลายอย่างมากมาย แต่ในตัวอย่างก็จะสามารถทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจ และเห็นภาพของ Soft Power ในภาพยนตร์มีความสำคัญและมีความจำเป็นที่ต้องสอดแทรกเข้าไปไม่มากก็น้อย ความรู้สึกเมื่อมีคนพูดถึง Soft Power ของประเทศไทยจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ออกไปได้พูดคุยคนต่างชาติ ส่วนใหญ่จะชอบวัฒนธรรมไทยของเราอย่างมาก แต่เมื่อผมได้ลองถามว่ารู้จักมากไหน เชื่อหรือไม่ว่า 90% ตอบกลับมาว่ารู้จักมาจาก ภาพยนตร์ และ ซีรี่ส์ วัฒนธรรมไทยของเราจาก Soft Power ผมไม่เคยคิดว่าภาพยนตร์จะมีผลกระทบได้ขนาดนี้ ครั้งหนึ่งผมเคยพาคนจีนไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สิ่งแรกที่ลูกค้าจะถามถึง คือ ข้าวผัดสับปะรส ต้มยำ ข้าวเหนียวมะม่วง ถ้าสังเกตจะเห็นว่าอาหารที่ลูกค้าสั่งจะมาจากพลัง Soft Power ทั้งสิ้น แต่ก็สิ่งที่ตกใจยิ่งกว่าคือลูกค้าชุดนี้ได้สั่งขนมครกโบราณมาทานด้วย เมื่อผมได้ลองสอบถามว่ารู้จักของทานเล่นชนิดนี้ได้อย่างไร? พวกเขาตอบกับผมว่าเคยเห็นในซีรี่ส์ เลยคิดอยากลองทาน ถ้าหาก Soft Power นี้ยังไม่ชัดเจนผมของพูดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ที่คนจีนใส่ชุดนักเรียนแล้วออกมาเที่ยวในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในประเทศไทย เชื่อไหมว่า เคยมีเหตุการณ์ถึงขั้นคนจีนถามถึงร้านขายเสื้อนักเรียน เพื่อจะนำไปเป็นของฝากให้เพื่อน ๆ ของเขา ผมตกใจยิ่งกว่าคือ Soft Power นี้ก็มาจากภาพยนตร์ และ ซีรี่ส์ในบ้านเราเอง ขอเสียของ “Soft Power”(ซอฟต์พาวเวอร์) ข้อเสียที่ส่วนตัวสัมผัสได้ คือ การสื่อสารที่ไม่ครบ และไม่ชัดเจน เพราะถ้าได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์หรือซีรี่ส์อาจจะไม่ได้อธิบายในสิ่ง ๆ นั้นได้มากนัก เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง เชื่อหรือไม่ว่าคนจีนบางคนคิดว่า เมนูแสนอร่อยนี้เป็นอาหารจานหลักที่กินเป็นเหมือนอาหารจานด่วน ไม่ใช่ของหวาน ข้อเสียอีกอย่างที่ทำให้อีก คือ อาจจะทำให้เกิดการสับสนได้ เพราะวัฒนธรรมในแถมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายคลึงกัน จึงทำให้มีชาวต่างชาติบางคนเข้าใจผิดคิดว่า ของสิ่งนี้เกิดขึ้นจากเพื่อนบ้านเรามากกว่าที่จะเป็นของประเทศไทย สรุป “Soft Power”(ซอฟต์พาวเวอร์) นี่เป็นพียงส่วนนึงเท่านั้นที่ผมได้เจอ Soft Power มากับตัวเอง แต่ก็มีเพื่อน ๆ ในวงการท่องเที่ยวเคยมาเล่า Soft Power แปลก ๆ เหมือนกัน เช่น ศาลพระภูมิ นักท่องเที่ยวจะซื้อศาลพระภูมิกลับประเทศ จากสิ่งเหล่านี้ทำให้เราเห็นได้เลยว่า “Soft Power”(ซอฟต์พาวเวอร์) ของไทยเรามันแข็งแกร่งขนาดไหน และสิ่งที่ประเทศไทยเราทำคือการนำเสนอ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเชื่อของสังคมลงไปในทุกสื่อเท่าที่จะเป็นไปได้ และ Soft Power(ซอฟต์พาวเวอร์) ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ยังส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของผู้คนได้ ทำให้เราเห็นมุมมองที่แตกต่าง และเข้าใจถึงสภาพทางสังคมของประเทศนั้น ๆ โดยที่ทั้งหมดจะเล่าผ่านสื่อที่ทรงพลัง ที่เราเรียกว่า “ภาพยนตร์” …ขอบคุณครับเครดิตรูปภาพประกอบบทความรูปปกบทความ โดย ผู้เขียนภาพโดย igorovsyannykov จาก Pixabay : รูปที่1ภาพโดย cattalin จาก Pixabay : รูปที่2ภาพโดย cegoh จาก Pixabay : รูปที่3ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay : รูปที่4, รูปที่5ภาพโดย RyanMcGuire จาก Pixabay : รูปที่6ภาพโดย Tumisu จาก Pixabay : รูปที่7ส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้