การอยู่ไฟ หรือ การอยู่เดือน ถือเป็นศาสตร์การบำบัดฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่หลังคลอด ที่อ่อนล้ามาตลอดระยะเวลาที่อุ้มท้อง จนกระทั่งถึงการคลอดลูกน้อย โบราณกาล (ของไทยเรา) เชื่อว่าการอยู่ไฟเป็นการปรับสมดุลธาตุในร่างกายของคุณแม่ ให้กลับมาแข็งแรงในเร็ววัน โดยเมื่อครั้งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการรณรงค์ให้เลิกอยู่ไฟ เพราะทรงเห็นว่า เป็นการทรมานสตรีหลังคลอด แต่ในราชสำนักหรือชาวบ้านร้านตลาดทั่วไป ก็ยังคงนิยมกระทำกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจวบจนปัจจุบัน การอยู่ไฟนั้นสำคัญไฉน??? ยังคงเป็นประเด็นปัญหาโลกแตกให้ถกเถียงกันมิรู้จักจบสิ้น แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ผู้หญิงเราจะผ่านการคลอดมาหลายต่อหลาย generation แล้วก็ตาม แต่ประเด็นที่ว่า การอยู่ไฟ จำเป็นหรือไม่อย่างไร คุณแม่นานาชาติไม่เห็นมีขั้นตอนนี้ เค้าก็ยังคงใช้ชีวิตหลังคลอดลูกได้อย่างไร้ปัญหา จะมีเพียงก็แต่ Thailand only เท่านั้น ที่คิดว่า การอยู่ไฟนั้นสำคัญต่อร่างกายและจิตใจของคุณแม่หลังคลอด ที่พึงกระทำ เอาเป็นว่าในบทความนี้ ผู้เขียนขอไม่ตัดสินถึงความจำเป็นหรือสำคัญระดับใดของ การอยู่ไฟ ก็แล้วกันเนอะ แต่จะขอแชร์รีวิวจากประสบการณ์จริงของตนเอง ที่ผ่านสมรภูมิการตั้งท้อง และคลอดธรรมชาติ ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ให้คุณแม่ได้ตัดสินใจกันเองดีกว่า อย่างน้อยก็เป็นทางเลือกให้คุณแม่ได้พิจารณาว่า การอยู่ไฟนั้นสำคัญไฉน??? จากที่คลอดลูกคนแรก (อ่านรีวิวการคลอดธรรมชาติเพิ่มเติม >>> แชร์ประสบการณ์การคลอดธรรมชาติ) ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ การอยู่ไฟ รู้เพียงข้อมูลที่พูดกันต่อ ๆ มาว่า จะมีอาการปวดเมื่อย ปวดกระดูก หนาวใน เพราะช่วงเวลาตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ จนถึงคลอดลูกแล้ว ระบบของร่างกายจะแปรปรวนไปหมด จึงต้องอาศัย ภูมิปัญญา ของรุ่นโบราณนานมา ที่ท่านคิดค้นและปฏิบัติตามกันมา และได้ผลจริง นี่คือสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา แต่ก็ปล่อยผ่าน และไม่ได้มีขั้นตอนของการอยู่ไฟหลังคลอดแต่ประการใด ปรากฏว่าคล้อยหลังเพียงไม่นาน อาการทุกอย่างมาครบ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดกระเบนเหน็บ ไม่สามารถนอนหงายได้เลย บางครั้งมีอาการหนาวมากจากข้างใน ทำให้นึกถึงประโยคที่ว่า หนาวเข้ากระดูก ไม่สามารถทำให้อุ่นได้ด้วยการห่มผ้า ซึ่งทรมานมาก อาการหนาวในลักษณะนี้จะปรากฏเป็นระยะ แต่อาการปวดเมื่อย ปวดร้าวตามร่างกายคือ เป็นมาตลอดนับจากวันที่คลอดเลยทีเดียว จนกระทั่งได้มีโอกาสตั้งท้องลูกคนที่ 2 ผู้เขียนจึงมีการเตรียมหาบริการอยู่ไฟแบบ delivery ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จนเป็นที่มาของบทความนี้ที่เป็นการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเล่าสู่กันฟังค่ะ และหลังจากที่ได้รับบริการ อยู่ไฟแบบ delivery แล้วนั้น สิ่งที่ได้และรู้สึกถึงความมีประโยชน์ของ การอยู่ไฟ ก็คือ ร่างกายที่แสนจะเหนื่อยล้ามากจนจวนจะพัง (แต่พังไม่ได้) มันรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นขึ้น ไขมันในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะหน้าท้อง ดูมีความกระชับขึ้น การปวดกระเบนเหน็บหายเป็นปลิดทิ้ง และสามารถกลับมานอนหงายได้อย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญ น้ำนมไหลได้มากขึ้น แต่ใด ๆ ก็มีข้อเสียในการอยู่ไฟครั้งนี้ เพียงข้อเดียวที่ให้อภัยได้ ก็คือ เราต้องอยู่กับทุกขั้นตอนด้วยความร้อน เป็นเวลาหลายชั่วโมง นั่นเอง เพื่อประสิทธิภาพอันสูงสุดของการอยู่ไฟ ผู้เขียนใช้บริการของ อยู่ไฟพี่นก ในการบริการแบบ delivery ที่สะดวกสบาย เหมาะกับในยุคปัจจุบัน เจ้าของชื่อพี่นก ซึ่งมีความเป็นกันเอง มีความเป็น professional ทั้งในเรื่องของคุณภาพและการบริการ ผู้เขียนใช้บริการจำนวน 7 วัน ถือได้ว่า เป็นการตัดสินใจที่ไม่รู้สึกว่าผิด เพราะสิ่งที่ได้กลับมามันเป็นการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดที่ทำแล้วเห็นผลจริง ๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่หลังคลอด คุณแม่มือใหม่ ใช้ประกอบการตัดสินใจเป็นทางเลือกหนึ่งได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ซึ่งคราวหน้าผู้เขียนจะเขียนรีวิวเรื่องการอยู่ไฟคุณแม่หลังคลอด (รีวิวอยู่ไฟพี่นก) ให้ได้อ่านกันบ้างนะคะ ติดตามได้ที่ อินท์กรกัญจน์ ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามค่ะบทความโดย : อินท์กรกัญจน์ขอบคุณภาพประกอบ : ภาพหน้าปกโดย blueland จาก Pixabay ภาพที่ 1 โดย การอยู่ไฟ จาก วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี ภาพที่ 2 โดย Mario จาก Pixabay ภาพที่ 3 โดย Yuliya Gabdullina จาก Pixabay ภาพที่ 4 โดย ภาพโปรไฟล์ จาก fanpage อยู่ไฟพี่นก #การอยู่ไฟ #การอยู่เดือน #การอยู่ไฟคุณแม่หลังคลอด #อยู่ไฟหลังคลอด #การอยู่ไฟจำเป็นไหม #รีวิวการอยู่ไฟหลังคลอด #จำเป็นต้องอยู่ไฟไหม #มีคุณแม่ท่านไหนอยู่ไฟบ้าง #อยู่ไฟ #อยู่ไฟdelivery #อยู่ไฟพี่นก #อยู่ไฟพี่นกดีไหม เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !