ประเทศจีนเป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งจากวิกฤตที่ผ่านมาทำให้ให้คนจีนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) จึงมีหลายสิ่งที่จีนจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้การแพร่ระบาดในประเทศจีนเริ่มเบาบางลง ไชน่า ยูธ เดลี สื่อทางการของจีน ได้ทำการสำรวจและรายงานผลออกมาว่าประชาชนของจีนต่างก็ตระหนักถึงสุขภาพและเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น ระหว่างว่าที่เผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของ Covid-19 อยู่นั้น พวกเขาได้มีการพัฒนาสุขนิสัยให้ดียิ่งขึ้นมากจากที่เคยเป็น คนจีนเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? 1. หันมาสนใจการออกกำลังกายและวิธีชีวิตที่ส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น ทุกคนเริ่มตระหนักถึงการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ ให้มีความต้านทานต่อภัยจากโรคต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น หลายคนหันมาออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์ ใส่ใจสุขลักษณะมากยิ่งขึ้น 2. มีเหตุมีผลในการบริโภคมากขึ้น ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก มีการแข่งขันกันภายในประเทศที่สูงจึงต้องเน้นการบริโภคที่สะดวกรวดเร็ว ทำให้ให้ประชากรไม่ค่อยระมัดระวังเรื่องของการบริโภคเท่าไร เป็นการส่งผลเสียต่อสุขภาพจากการบริโภคของพวกเขาเอง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ Covid-19 ทำให้พวกเขาต้องใส่ใจและมีความรอบคอบในการบริโภคโดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก 3. เริ่มใส่ใจการออมเงินมากขึ้น แน่นอนว่าจากการที่ต้องกักตัวในระยะเวลาหนึ่งทำให้ประชาชนขาดสภาพคล่องทางด้านการเงินและรู้สึกไม่ปลอดภัยในความเป็นอยู่ จึงทำให้พวกเขาตะหนักว่าหากไม่มีเงินสำรองพอในยามที่เกิดวิกฤตอื่นขึ้นมาอีก ก็จะทำให้พวกเขาต้องยากลำบาก จึงต้องวางแผนในการออกเงินให้เพียงพอที่จะสามารถเอาตัวรอดได้หากเกิดวิกฤตขึ้นมาอีก 4. รู้จักพึ่งพาตนเองมากขึ้น การเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ทำให้พวกเขาสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งปกติแล้วรัฐบาลของประเทศจีนจะมีนโยบายในการช่วยเหลือและควบคุมความเป็นอยู่ของประชาชนมาตลอด แต่ด้วยการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอย่างกระทัน ทำให้รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือประชนได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง พวกเขาจึงจำเป็นต้องพึ่งพาตัวเองมากกว่าที่จะรอการช่วยเหลือ 5. ระหว่างที่กักตัวได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ มากขึ้น อุปนิสัยของคนจีนโดยปกติแล้วมักจะไม่ปล่อยตัวให้ว่าง เมื่อต้องกักตัวอยู่กับบ้านพวกเขาจึงศึกษาเรียนรู้ข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อเสริมทักษะให้กับตัวเอง ซึ่งก็ทำให้พวกเรามีศักยภาพเพิ่มขึ้นและสามารถนำความรู้มาพัฒนาชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นได้ 6. จีนออกกฏหมายใหม่ห้ามกินสัตว์ป่า การบังคับกฏหมายนี้เนื่องจากรัฐบาลของจีนต้องการให้มีการหยุดค้าขายสัตว์บางชนิดทั้งในตลาดสด ในโกดังและบนดินเตอร์เน็ต อันเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรงระบาดรุ่นแรงที่มีสาเหตุมาจากสัตว์ เช่น โรคซาร์ส อีโบลา เมอร์ส และไข้หวัดนก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์ทั้งสิ้น ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจการข้อมูลของประชากรจีนจำนวน 2006 คน ซึ่งได้ผลสำรวจออกมาคือ ประชากรร้อยละ 38 สนใจการออกกำลังกายและวิถีชีวิตที่สนใจสุขภาพมากขึ้น ร้อยละ 48.5 ประชากรกลายเป็นผู้ที่มีเหตุมีผลในการบริโภคมากขึ้น และร้อยละ 42.1 เริ่มหันมาสนใจการออมเงินมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ยังมีผู้จำนวนอีกร้อยละ 35.5 เชื่อว่าพวกเขากลายเป็นคนที่รู้จักพึ่งพาตนเอง ทำอะไรได้ด้วยตัวคนเดียวมากขึ้น และร้อยละ19.2 ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในระหว่างที่กักตัวอยู่กับบ้าน จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตนั้น ทุกคนล้วนตระหนักถึงวิถีชีวิตที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ เพื่อให้สามารถอยู่รอดต่อไปกับสังคมที่ต้องเปลี่ยนแปลงและสามารถรับมือกับปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นมาอีก ซึ่งประชาชนในประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทยก็ตระหนักดีและกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตใหม่เช่นกัน ข้อมูลอ้างอิง : ส่องผลสำรวจ ‘โรคระบาด’ เปลี่ยนสุขนิสัย-วิถีชีวิตชาวจีนอย่างไร หมดยุคกินของแปลก จีนออกกฎหมายใหม่ ห้ามกินสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง หวังลดโรคระบาดในอนาคต Shenzhen’s move to ban eating cats and dogs welcomed by animal rights activists ภาพประกอบที่ 1 : Photo by Macau Photo Agency on Unsplash ภาพประกอบที่ 2 : Photo by Macau Photo Agency on Unsplash ภาพประกอบที่ 3 : Photo by Macau Photo Agency on Unsplash ภาพประกอบที่ 4 : Photo by Macau Photo Agency on Unsplash ภาพหน้าปก : ภาพโดย Photo by zhang kaiyv on Unsplash