สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ ไหนใครเคยเรียนประวัติศาสตร์ยกมือขึ้น ผู้เขียนว่าใครๆ ก็ต้องยกมือเพราะไม่มีทางที่จะไม่มีใครที่จะไม่เรียนวิชานี้อย่างแน่นอน เพราะวิชานี้เราจะเรียนกันในชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น ม.2 และม.3 นั่นเอง ถ้าถามว่ารู้ได้ไง เพราะผู้เขียนเคยเป็นครูฝึกสอนมาก่อน และสอน ม.2 กับ ม.3 ด้วย ซึ่งเหตุผลที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะอยากจะแชร์ประสบการณ์เรื่องราวความรู้ ที่มีประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ในชีวิตประจำวันกันรีวิว การใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในชีวิตประจำวันก่อนที่เราจะมารีวิวการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ ผู้เขียนอยากจะมาแนะนำวิธีการทางประวัติศาสตร์ ทั้ง 5 หัวข้อกันก่อนนะครับ ซึ่งจะมีดังนี้1. การกำหนดหัวข้อ2. การเก็บรวบรวมข้อมูล3. ประเมินคุณค่าหลักฐาน4. การวิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูล5. การเรียบเรียง และนำเสนอเอาละเมื่อเรารู้จักวิธีการทางประวัติศาสตร์ทั้ง 5 ข้อ 5 ขั้นตอนแล้ว ผู้เขียนก็จะมาพูดถึงการใช้ในชีวิตประจำวัน นั่นก็คือเราสามารถนำมาตรวจสอบข้อมูลที่มีคนมาโพสข่าวลงโซเชียล อย่างที่ทราบกันดีว่า ยุคนี้เป็นยุคออนไลน์ ที่มีโซเชียลมีเดีย แอพพลิเคชั่น ต่างๆที่คอยสื่อสารถึงกันได้ และสิ่งที่ตามมา คือคนปล่อยข้อมูลปลอม ปล่อยข้อมูลเท็จให้คนหลงเชื่อกัน แล้วเราจะนำวิธีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ได้ไงล่ะ มันเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ไม่ใช่เหรอ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าเอามาเกี่ยวกันได้ยังไง แต่ผู้เขียนบอกเลยว่านำมาใช้ได้ทุกเรื่อง ที่เป็นการตรวจสอบเกี่ยบกับข้อมูลเรื่องราว คำบอกเล่า และแน่นอนว่าข่าวต่าง ๆก็เป็นคำบอกเล่า เช่น ที่นักข่าว หรือสิ่งที่ชาวบ้านนำเสนอออกมา และแน่นอนว่าหลายครั้งนักข่าวก็นำเสนอข่าวผิดพลาด เพราะไม่ยอมตรวจสอบข้อมูลให้ดีในตอนทำข่าว ขนาดนักข่าวยังนำเสนอข้อมูลผิดพลาดได้ จึงเป็นหน้าที่ที่พวกเราก็ต้องคอยตรวจข้อมูลก่อนที่เราจะเชื่อข่าวสารนั้น ซึ่งเป็นที่มาที่ผู้เขียนจะนำเสนอการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ได้ตรวจสอบข่าวกันวิธีการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กับการตรวจสอบข่าวสาร อย่างแรกเราต้องตั้งหัวข่าวที่เราสนใจจะตรวจสอบ(ตรงกับขั้นที่1) จากนั้นรวบรวมข้อมูล อาจจะเป็นการเสิร์ชข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรือโทรสอบถามคนที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในข่าวโดยตรง(ถ้าเอาแบบอยากได้ข้อมูลที่แน่นอนนะ)(ตรงกับขั้นตอนที่ 2) เมื่อเราได้ข้อมูลข่าวที่เรารวบรวมมากจากที่ต่าง ๆหลายสำนักข่าว รวมถึงคำบอกเล่าของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในข่าวโดยตรงให้เรานำมาดูว่า ข้อมูลนั้นเป็นของแท้น่าเชื่อถือรึเปล่า ข้อมูลที่ได้มาเป็นของสำนักข่าวใด มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ อันไหนไม่น่าเชื่อถือก็ตัดทิ้งไป(ตรงกับขั้นตอนที่3) แล้วนำมาเปรียบเทียบกันว่าข้อมูลมันตรงกันหรือไม่ จุดใดเป็นจุดที่ข้อมูลเหมือนกันมากที่สุด(ตรงกับขั้นตอนที่ 4) ขั้นตอนต่อมาให้นำข้อมูลมาเรียงลำดับจัดเรียงเหตุการณ์ให้ดูถูกต้องมากที่สุดจากข้อมูลที่เรารวบรวมมา และเราจะได้ข่าวที่น่าเชื่อถือ และถูกต้องที่สุด (ตรงกับขั้นตอนที่ 5)เป็นยังไงกันบ้างครับ เห็นไหมว่าเราไม่จำเป็นต้องนำวิธีการทางประวัติศาสตร์ ไปใช้กับเรื่องราวประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่เรายังนำไปใช้กับการตรวจสอบข้อมูลข่าวได้ว่าจริงเท็จหรือไม่ ซึ่งผู้เขียนก็จะใช้วิธีนี้บ่อย เวลาเจอข่าวที่ดูน่าสงสัย ผู้เขียนก็จะใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวไปนำมาประยุกต์ใช้ กับข่าวที่ดูน่าสงสัยนั่นเองครับ แหล่งที่มาของรูปภาพจาก Canvaภาพที่ 1 โดย NotionPicภาพที่ 2 โดย iconsyภาพที่ 3 โดย SatawatFotoภาพที่ 4 โดย Surangภาพปกบทความ โดย iconsy*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565