กาลครั้งหนึ่ง...เมื่อมะเร็งแวะมาทักทาย ( ตอนที่ 4)ฉบับที่แล้วดิฉันได้เล่าถึงช่วงเวลาและขั้นตอนการการรักษาขั้นตอนแรก นั่นก็คือ การผ่าตัดเต้านมแบบสงวนเต้าไปแล้ว ฉบับนี้ดิฉันจะมาเล่าประสบการณ์อื่น ๆ ต่อไป เพราะหลังจากที่เราได้ ผ่าตัดก้อนเนื้อร้ายออกไปแล้วนั้น จะมีขั้นตอนการรักษาขั้นตอนอื่น ๆ ตามมาเป็นลำดับหลังจากออกจากห้องผ่าตัดแล้วไปพักฟื้นที่หอผู้ป่วย ดิฉันนอนพักเพื่อรอดูอาการหลังการผ่าตัดหนึ่งคืน แผลผ่าตัดไม่ปวด หรือเจ็บจนต้องขอยาแก้ปวดหลังหมดฤทธิ์ มอร์ฟีนแล้ว มีเพียงอาการเจ็บเล็กน้อยเวลาขยับแขนเท่านั้นคุณหมอเจ้าของไข้มาตรวจช่วงเช้าจึงอนุญาตให้ดิฉันกลับบ้านเพื่อพักฟื้นที่บ้านต่อไป ดิฉันพักฟื้นอยู่บ้านใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเพียงแต่จำกัดกิจกรรมที่ต้องออกแรงแขนด้านขวามากขึ้น ไม่ยกของหนักเกิน สองกิโลกรัม และพยายามออกกำลังแขนและไหล่ทั้งสองข้างเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อหัวไหล่ด้านที่ผ่าตัดยึด ช่วงวันแรกของการผ่าตัด เราอาจลงน้ำหนักหรือยืดได้ลำบาก เพราะจะมีอาการตึงบริเวณบาดแผล อาศัยความพยายามและอดทนนิดหน่อยการออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และป้องกันการเกิดพังผืดที่หน้าอกและบริเวณหัวไหล่ด้านที่เราผ่าตัดอีกด้วยการออกกำลังกายที่ดิฉันอาศัยการยืดและคลายโดยใช้ท่าจากการเล่นโยคะเข้ามาช่วย นั่นคือท่ายืดกล้ามเนื้อส่วนลำตัวกล้ามเนื้อแขนและหัวไหล่ วิธีง่าย ๆ คือเอาแขนด้านที่เราผ่าตัดค่อย ๆ ยกขึ้นเหนือศีรษะ หักข้อศอกเอามือไปทางด้านหลัง แรก ๆ เราจะทำแทบไม่ได้เพราะตึงแผล เราอาจเอามือของแขนด้านที่เราผ่า มาวางบนศีรษะแล้วค่อย ๆ ใช้มือที่อยู่บนศีรษะไต่จากผมลงไปที่หูของอีกข้าง พอเริ่มตึง ๆ ที่แขนและกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัว เราก็ค่อย ๆ ปล่อยแขนลง ทำแบบนี้ซ้ำำ ๆไป 10 - 20 ครั้งสลับซ้ายขวากันไปค่ะ พอแผลตึงน้อยลงเราค่อยขยับจากวางมือที่ศีรษะ เราก็ขยับมือไปวางที่ต้นคอหรือกลางหลังเราแทน และอีกท่าที่ดิฉันทำคือท่ามือไต่ผนังเป็นแมงมุม เราจะยืนหันหน้าเข้าผนัง ห่างจากผนังประมาณ 1 ฟุต จากนั้นเอามือข้างที่มีแผลผ่าตัดค่อย ๆ ใช้มือไต่ผนังโดยใช้นิ้วมือไล่ขึ้นไปค่อย ๆ ไล่นิ้วมือขึ้นไปเรื่อย ๆ พอเริ่มตึงค่อยหยุด ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งสองข้าง ออกกำลังกายแบบนี้ไปได้ทุกวันค่ะ แต่หลีกเลี่ยงการยกของหนัก และดูแลอย่าให้เราเกิดอุบัติเหตุที่มือ แขน ข้างที่เราผ่าตัดไปนะคะ เพราะอย่าลืมว่า เราผ่าตัดแบบสงวนเต้าไป เราได้เลาะต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ออกไปด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องระวังมากกว่าปกตินิดหน่อยค่ะส่วนเรื่องการดูแลรักษาแผลผ่าตัดนั้น ด้วยความที่แผลผ่าตัดต้องปิดผ้าปิดแผลแบบกันน้ำและจะแกะผ้าปิดแผลออกได้ก็หนึ่งอาทิตย์หลังผ่าตัดไปแล้ว เราเลยไม่ต้องล้างแผล เวลาอาบน้ำหลีกเลี่ยงการถูหรือฟอกสบู่ บริเวณแผล เวลาอาบน้ำโดนน้ำได้ เพราะมีผ้าปิดกันน้ำไว้อยู่แล้ว อาบน้ำเสร็จซับน้ำให้แห้ง งดทาแป้งหรือโลชั่นบริเวณแผล เพียงเท่านี้ค่ะ สำหรับการดูแลแผลผ่าตัดไม่ยุ่งยากอะไรหลังจากกลับมาพักฟื้นที่บ้านดิฉันก็เริ่มต้นกลับไปทำงานต่อ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีอาการปวดหรือเจ็บแผลเลย แต่เราก็มีนัดตรวจกับทางคุณหมออีกอย่างคือ การทำ bone scan การทำ bone scan นี้ทำเพื่ออะไร คำตอบคือ ทำเพื่อ ตรวจว่าเซลล์มะเร็งที่เราตรวจพบ ได้ กระจายไปที่กระดูกหรือไม่ ขั้นตอนนี้ไม่ได้ยุ่งยาก แต่มันลำบากดิฉันพอสมควร เพราะดิฉันอยู่กับลูกเพียงสองคน เพราะการที่เราต้องสแกนกระดูกนี่ เราต้องฉีดสารรังสีเข้าไปในหลอดเลือดดำ เพื่อสารนี้จะไปจับกระดูกในทุก ๆ ส่วนของร่างกาย แล้วถ่ายภาพออกมา ทางคุณหมอก็จะตรวจและวินิจฉัยต่อไปว่าเซลล์มะเร็งนั้นได้มีการลุกลามไปที่กระดูกหรือไม่ เพราะเป็นการป้องกัน การแพร่กระจาย เท่านั้นค่ะ ที่บอกว่าลำบากกับดิฉันคือ ดิฉันต้องแยกหรืออยู่ห่างจากเจ้าตัวน้อย อย่างน้อย 2 เมตร ภายในเวลา 24 ชั่วโมง หลังทำการฉีดสาร นี่ล่ะคะปัญหาใหญ่มาก เราจะเลี่ยงอย่างไรดี โชคดีอยู่อย่างคือ ตัวเล็กเข้าเรียนที่โรงเรียนแล้ว เราจะมีช่วงเวลาที่จะอยู่ด้วยกันคือช่วงเย็นและคืนนี้ ดิฉันเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ให้ไปรับลูกแทน และตัวดิฉันเอง ก็กลับเข้าบ้าน ค่ำำ ๆ พอไปถึงบ้าน ห้ามกันแทบไม่ทัน เพราะทุกครั้งที่กลับจากโรงเรียน เราจะกอดและหอมแก้มลูก ลูกจะวิ่งมากอดเราทุกวัน แต่วันนี้ พอเค้าเห็นเรากลับถึงบ้านเค้าก็วิ่งหวังจะเข้ามากอดเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เราวิ่งหนี เค้ายืนงง หยุดยืนนิ่ง แล้วร้องไห้ ดราม่าใส่แม่ แม่ก็น้ำตาไหลสิคะ จึงให้เพื่อนช่วยอุ้มลูกไว้ เราก็ได้แต่พูดปลอบให้เค้าหยุดร้อง บอกให้เค้าเข้าใจว่า "คุณแม่มีสารเรืองแสงอยู่ในตัวนะครับ คุณหมอฉีดสารเรืองแสงใส่ตัวแม่ไว้ เพราะแม่ไม่สบาย ถ้าหนู มากอดแม่สารเรืองแสงก็จะไปเปื้อนหนูทำให้หนูป่วย ตอนนี้แม่เลยต้องห่างจากหนูก่อนพรุ่งนี้เราค่อยกอดกันนะครับลูก" ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ร้องไห้บ้านแตกไปพักใหญ่ ๆ เราต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าแยกออกมาซัก อาบน้ำสระผม แยกห้องนอนกับลูกชาย ตลกตรงที่เวลานอน เค้าจะมานอนกับเรา แต่เราทำไม่ได้วันนั้นเลยต้องปล่อยให้เค้าหลับไปพร้อมกับการ์ตูน เพื่อแยกแม่ออกจากลูกชั่วคราว และตลอดทั้งคืนเราก็ดื่มน้ำเปล่าไปไม่รู้กี่ลิตร นอนแทบไม่ได้นอน เพราะต้องเดินไปเข้าห้องน้ำตลอดเพราะดื่มน้ำเข้าไปมากเกินไป แต่เราต้องทำเพราะ ต้องรีบกำจัดสารรังสีออกไปให้หมด สารนี้จะออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ และเหงื่อ ดังนั้นตื่นเช้ามาเราต้องซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนและผ้าห่มที่เราใช้เมื่อคืนทุกชิ้น หลังครบ 24 ชั่วโมง เราก็กลับมากอดกันเหมือนเดิมแล้วค่ะ ประสบการณ์ แปลกใหม่ ออกจะตลกของ 2 แม่ลูกที่ต้องหนีกันวันนั้น นึกถึงทีไรอดขำไม่ได้ทุกทีฉบับหน้าจะเข้าสู่ขั้นตอนในการเข้ารับการแนะแนวทางการปฏิบัติตัว ในการให้ยาเคมีบำบัด โดยนักโภชนาการของทางโรงพยาบาล มาแนะนำนะคะ จะทำได้ ทำไม่ได้มีอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้ค่ะ ภาพประกอบภาพปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3