กำเงิน 3 หมื่นขับรถตามแผนเที่ยวนาโกย่า นากะโนะ 6วัน5คืน เบื่อนั่งรถไฟแล้ว เรามาขับรถเที่ยวญี่ปุ่นกัน ข้อดีของการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น คือคุณสามารถได้เห็นวิวที่แตกต่างมากขึ้นบนเส้นทางที่คุณไม่เคยเห็น เที่ยวมากกว่าเดิม ยืดหยุ่นเวลาได้มากขึ้น รู้ข้อดีแบบนี้แล้วเราก็เริ่มมาเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น ตอนแรกผู้เขียนได้จองรถเช่าของบริษัท Nippon โดยในโปรโมชั่นช่วงนั้นจะลด 40% หากเช่าเกิน 5 วันขึ้นไป ในบางครั้งหลายคนตั้งคำถามว่า ขับรถจะคุ้มหรือเปล่า และแพงไหม ผู้เขียนเคยเปรียบเทียบด้านราคาและข้อดีข้อเสียระหว่างขับรถกับนั่งรถไฟไว้แล้วสามารถหาคำตอบได้คลิกที่นี้ค่ะ วันแรก หลังจากที่เราเช่ารถกันแล้ว เราก็เที่ยวปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นที่แรก เพลิดเพลิดกับความสมบูรณ์ของปราสาทที่ยังคงความญี่ปุ่นดั้งเดิม กับอากาศที่หนาวเย็น เงียบสงบ ไร้ผู้คนวุ่นวาย จากนั้นผู้เขียนขับรถไปต่อประมาณ 1.30 ชม. ในขณะที่หากนั่งรถไฟจะกินเวลาถึง 2.30 ชม.ทีเดียว เพื่อไปที่ พิพิธภัณฑ์รถไฟ(SCMAGLEV and Railway Park) สักหน่อย ใครมาที่นี้รับรองได้ความรู้กับมากเลยค่ะ ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับรถไฟตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคตด้วยนะคะ หากใครอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถรับชมคลิปวีดีโอได้ที่นี้ หลังจากนั้นก็ไปชมการจัดแสดงไฟสวย ๆ ระดับโลกที่ Nabana no Sato ใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาทีเท่านั้น แต่ถ้านั่งรถไฟจะใช้เวลาถึง 1.30 ชม.ทีเดียว การจัดแสดงไฟระดับโลกที่นี้สวยมากทีเดียว ผู้เขียนได้แนบรูปบรรยากาศการจัดแสดงมาให้ชมนะคะ ถ้าใครไม่จุใจก็สามารถชมวีดีโอแบบคลิปเต็มๆ ได้ที่นี้ค่ะ หลังจากนั้นหากใครมีเวลาเหลือก็อาจตบท้ายที่ OASIS21 ซึ่งเวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง วันที่สอง ตื่นแต่เช้าเราก็ยิงยาวไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) กันเลยค่ะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากทีเดียว ในหมู่บ้านชิราคาวาโกะก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าชิระกะวะ ฮาจิมัง จินจะ (Shirakawa Hachiman Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสถานที่มรดกโลก วัดเมียวโอะเซนจิ (Myozniji Temple) วัดที่มีหลังคาทรงกัสโชสึคุริ บ้านกานดาเกะ(Kanda-ke House) บ้านทานาคะยะ (Tanakaya House) และบ้านวาดาเกะ (Wada-ke House) ซึ่งหมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นเป็นหมู่บ้านมรดกโลก บ้านเรือนในหมู่บ้านจะเป็นหลังคาคล้ายพนมมือ และเป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี หากใครต้องการชมคลิปวีดีโอบรรยากาศหมู่บ้านชิราคาวาโกะสามารถคลิกได้ที่นี้ หากใครยังเที่ยวไม่จุใจ และมีเวลาเหลือพอสามารถขับรถไปยังหมู่บ้าน Hida no Sato เพียงครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่สวยงามเช่นกัน และมีลักษณะคล้ายหมู่บ้านชิราคาวาโกะเช่นกัน จะมีความสงบมากกว่าเนื่องจากยังไม่ได้เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวมากนัก วันที่สาม ผู้เขียนเดินทางจากทากะยาม่า เพื่อที่จะขึ้นกระเช้า Shinhotake Ropeway เขาบอกว่าที่นี้สวยมาก และสามารถเห็นวิวได้ทุกฤดูกาลเลยค่ะ Shinhotake Ropeway จะเป็นโรป์เวย์ 2 ชั้น เพื่อขึ้นไปชมวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์ (Japan Alps) หากขับรถมายังที่นี้จะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายมาก เพื่อคุณจะไม่ต้องเสียค่ารถบัสอีก 2100 เยนต่อคน เนื่องจากสามารถขับมาถึงยังสถานีเลยค่ะ ใช้เวลาขึ้นโรป์เวย์ก็ครึ่งวันแล้วนะคะ ผู้เขียนมีแผนต่อที่จะไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ค่ะ ซึ่งขับรถเพียง 1.30 ชม. เท่านั้น แต่หากเดินทางโดยรถไฟนั้นใช้เวลานานถึง 4 ชม. เลย เห็นไหม? นี่แหละข้อดีของการขับรถปราสาทมัตสึโมโตะ ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญในเมืองนากาโนะ (Nagano) นะคะ เนื่องจากยังเป็นปราสาทที่ยังคงอนุรักษ์สมบูรณ์ และมีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยตัวปราสาทสีดำ จึงทำให้เรียกกันว่า ปราสาทอีกาดำ ผู้เขียนชมปราสาทไปสักพักก็เดินทางกันไปต่อที่ Jigokudani Monkey Park ซึ่งขับรถขึ้นไปอีก 1.30 ชั่วโมง เพื่อขึ้นไปดูลิงหิมะกัน หากใครวางแผนจะดูลิงหิมะนะคะ อาจจะต้องออกจากปราสาทเร็วหน่อย เพราะสวนลิงหิมะจะปิดเร็วคือประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ แต่ถ้าไม่ทันก็ไม่เปงไรค่ะ ยังมีเวลามาในตอนเช้าของอีกวันได้ วันที่สี่ และผู้เขียนก็ไม่ทันสวนลิงหิมะเมื่อวานค่ะ จึงเดินทางออกตอนเช้า สวนลิงหิมะแห่งนี้จะเป็นลิงหิมะตามธรรมชาติที่จะมาแช่ออนเซ็นเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นค่ะ ชมความน่ารักของลิงหิมะได้จากคลิปวีดีโอนี้นะคะ หลังจากดูลิงหิมะกันแล้ว ผู้เขียนกับขับลงมาเพื่อไปยังฮาคุบะ (Hakuba) ค่ะ ในฮาคุบะนี้มีอะไรดีเป็นแหล่งรวมสถานที่เล่นสกีมากมาย ใครที่รักการเล่นสกีก็พลาดไม่ได้นะคะ วันที่ห้า นั่งชิลชมธรรมชาติที่ฮาคุบะซะหน่อย ก่อนที่จะแวะไปยัง Mt.Kurumayama and Kurumayama Shrine เพื่อไปชมวิวสวย ๆ ข้างบนภูเขา แล้วก็เตรียมตัวช้อปปิ้ง เพื่อเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ค่ะ เครดิตรูปภาพ : ภาพหน้าปกและภาพประกอบ โดยผู้เขียน