อากาศประเทศไทยช่วงนี้ร้อนมาก ก็ทำให้นึกถึงหิมะเย็นๆ ที่ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนเมษายน ปี 2561 ที่ผ่านมาจัง หลายๆ ท่านที่ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นต้องชื่นชอบและอยากเดินทางไปเที่ยวกันอีกอย่างแน่นอน เพราะนอกจากทิวทัศน์และบรรยากาศที่สวยงาม เงียบสงบแล้ว ยังมีอาหารที่สด อร่อยถูกปากคนไทย การตกแต่งจานก็สวยงาม เป็นได้ทั้งอาหารตาและอาหารใจ การท่องเที่ยวเองก็เช่นกัน ไม่ว่าเราจะไปเมืองไหน จังหวัดไหนของประเทศญี่ปุ่นแต่ล่ะที่ก็มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เราไม่เบื่อและอยากที่จะไปเที่ยวให้ครบ สำหรับในครั้งนี้ผู้เขียนอยากจะพาทุกท่านไปเที่ยวด้วยกันที่เมืองโทยามะ (Toyama) ในเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route (เส้นทางเทือกเขาแอลป์ ทาเทยามะ - คุโรเบะ) หรือที่เราจะรู้จักกันในชื่อว่า เจแปนแอลป์ (Japan Alps) ที่เจแปนแอลป์นี้จะเป็นการชมกำแพงหิมะที่สูงที่สุด และในระหว่างทางก็จะได้ชมกับธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ และเขื่อนคุโรเบะ ผู้เขียนเดินทางจากฝั่งเขื่อนคุโรเบะ โดยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปยังกำแพงหิมะ ส่วนขากลับจะเป็นการนั่งรถบัสชมวิวลงไปยังที่จอดรถอีกฝั่งนึงค่ะ ในการเดินทางขึ้นไปยังกำแพงหิมะค่อนข้างหลายขั้นตอน ผู้เขียนจำได้ไม่แน่ชัดเพราะส่วนใหญ่จะรีบเดินตามกลุ่มให้ทันเนื่องจากทุกอย่างต้องตรงเวลาถ้าพลาดต้องใช้เวลารอนาน กว่าเคเบิ้ลคาร์จะมาในแต่ล่ะรอบ เริ่มต้นผู้เขียนเดินทางไปยังสถานีคุโรเบะไดระ เพื่อนั่งเคเบิ้ลคาร์ลอดภูเขาทาเทยามะไปยังสถานีคุโรเบะโกะ ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร เพื่อชมเขื่อนคุโรเบะ ตัวเขื่อนคุโรเบะนี้ผู้เขียนขึ้นไปแค่ทางสันเขื่อนชมทิวทัศน์และบรรยากาศรอบๆ เขื่อนที่มีภูเขาหิมะล้อมรอบ เป็นอะไรที่สวยงามอย่างมากค่ะ หลังจากชมวิวทิวทัศน์และสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วก็ถึงเวลานั่งเคเบิ้ลคาร์ต่อไปยังยอดเขาทาเทยาม่า เพื่อชมความสวยงามของกำแพงหิมะที่เรารอคอย เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนยอดเขาที่จุดชมวิวของกำแพงหิมะ เป็นอะไรที่สวยงามน่าประทับใจมากค่ะ กำแพงหิมะ ที่เราเห็นนี้เกิดจากการที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องตักหิมะที่อยู่บนถนนออกจึงทำให้เกิดเป็นกำแพงหิมะล้อมรอบทั้งซ้ายและขวา ซึ่งดูแปลกตาและสวยงาม ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและชมความสวยงามเป็นอย่างมาก กำแพงหิมะแต่ล่ะช่วงจะมีความสูงไม่เท่ากันในแต่ล่ะวัน และในแต่ล่ะเดือนขึ้นอยู่กับภูมิอากาศและหิมะที่ตกในแต่ล่ะวันนั้นเอง แต่ช่วงที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้ไป ถ้าอยากเห็นกำแพงหิมะที่สูงและสวยคือช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคมค่ะ พอเดินชม ถ่ายรูปสวยๆ และซื้อของฝากกันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลากลับ ตอนเดินทางกลับเราจะนั่งรถบัสกลับเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ และชมความสวยงามของเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น เป็นอะไรที่สวยงามมากค่ะ แต่สำหรับท่านใดที่มีอาการเมารถแนะนำอย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลินเหมือนผู้เขียนนะคะ เพราะต้องนั่งรถลงเขาถึงจะไม่หนักเหมือนตอนขึ้นเขาแต่ก็มีหลายโค้งพอสมควรอาจทำให้เมารถได้ค่ะ ถ้าท่านใดอยากมาเที่ยวเจแปนแอลป์ หรือกำแพงหิมะนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน ส่วนเดือนที่หิมะเยอะที่สุดจะเป็นช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ตามที่ผู้เขียนได้แนะนำไปในข้างต้น ในการซื้อตั๋วรถไฟหรือเคเบิ้ลคาร์สามารถซื้อได้ที่สถานีก่อนขึ้นได้เลย ส่วนของราคาจะอยู่ประมาณ 1,200-12,000 เยน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะและสถานีที่เราต้องการเดินทางไปถึงค่ะ การเดินเล่นถ่ายรูปในบริเวณที่มีหิมะมีสิ่งนึงที่อย่าลืมพกไปด้วยนอกจากหมวก เสื้อกันหนาว และถุงมือนั้นก็คือ แว่นตากันแดดเพราะแสงแดดกระทบกับพื้นผิวของหิมะ ทำให้แสบตามาก ใส่แว่นกันแดดไปด้วยช่วยได้มากเลยค่ะ และบนกำแพงหิมะมีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศและในการขึ้นรถ หรือเคเบิ้ลคาร์คนค่อนข้างเยอะ ดังนั้นต้องระมัดระวังและอย่าลืมทรัพย์สินของมีค่ากันนะคะ เครดิตภาพประกอบทั้งหมดโดย Pudploy (ผู้เขียน)