ในปัจจุบัน มีอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ไม่ว่าจะของกินเล่น ผัก ผลไม้นานาชนิด เมนูอาหารที่ผสมผสานกันทั่วโลก ขนมแปรรูปหน้าตาน่ารับประทาน แล้วเราจะเลือกทานแบบไหนดีล่ะ? เพื่อให้ผลดีต่อร่างกายของเรามากที่สุด บางครั้งเนื่องจากเวลาที่จำกัด ร่วมกับความอร่อยปาก ทำให้หลาย ๆ คนเลือกทานตามใจปาก แล้วใช้วิตามินอาหารเสริมเข้ามาทดแทน ซึ่งก็ช่วยเติมเต็มได้ในช่วงสั้น ๆ แต่ถ้าระยะยาวยังเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะ? บทความนี้ก็จะสรุปคร่าว ๆ ถึงเทคนิคการวางแผน แนวคิดแบบง่าย ๆ และยังสนุกไปกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ โดยที่ไม่ต้องอดอาหารอีกด้วย อะไรคือการกินเพื่อสุขภาพ? ไม่ใช่การอดอาหารกำจัดไขมัน หรือกินน้อยมาก ๆ เพื่อให้ผอม หรือการจัดเต็มในอาหารโปรดโดยไม่สนใจอะไรเลย ที่จริงแล้วมันคือการกินที่ให้พลังงานที่ร่างกายต้องใช้ในแต่ละวัน คำตอบคือ เมื่อสุขภาพดีแล้วความสุขก็จะตามมา จริง ๆ แล้วหัวข้อนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แต่แค่เราสับสนกับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของมันมากเกินไป โดยเฉพาะโฆษณาชวนเชื่อระบุสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย เช่น วิตามินนานาชนิด อาหารเสริม ยาวิเศษต่าง ๆ เป็นต้น ยกตัวอย่าง อาหารบางประเภทดีกับคน ๆ นึง แต่สำหรับอีกคนแย่มาก ๆ จริง ๆ แล้วมีอาหารอีกมากมายที่ทานแล้วจะช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์และร่างกาย ความจริงเพียงหนึ่งเดียวก็คืออาหารตามธรรมชาติใกล้ตัวเรานั่นเองไม่ใช่ที่สังเคราะห์ขึ้น ดังนั้นถ้าเราเข้าใจและมาถูกทางจะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีและแตกต่างอย่างแน่นอน เริ่มต้นเราอาจจะใช้รูปพิรามิดการกินช่วยอ้างอิงในการจัดลำดับความสำคัญ ทำให้เราจัดแจงอาหารมื้อต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รูปอ้างอิงจาก URL : Food Pyramid by Macrovector จากรูปไล่เรียงจากฐานถึงบนสุด ส่วนหัวซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุดเพราะฉะนั้นก็ควรจะรับประทานให้น้อยที่สุด กลับกันที่ส่วนฐานเป็นส่วนที่กว้างที่สุดดังนั้นในทุก ๆวันเราควรออกกำลังกายควบคู่กันไป ดังนั้นการกินอย่างเดียวไม่พอ ต้องออกกำลังการควบคู่ไปด้วย ทีนี้มาดูพื้นฐานของการกินเพื่อสุขภาพ หลัก ๆ ก็คือเราต้องบริโภคสารอาหารต่าง ๆ ให้ครบ และได้ปริมาณที่เหมาะสม หรือง่าย ๆ คือให้ครบถ้วนทั้ง โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต กากใย วิตามินและเกลือแร่ จริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องเพิ่มหรือลดจำนวนแคลอรี่เลยก็ได้ เพียงแค่เลือกทานอาหารในหมวดหมู่เหล่านี้ให้ครบ เราก็จะมีสุขภาพที่ดีได้ไม่ยาก โปรตีน ให้พลังงาน และยังช่วยในเรื่องความจำและอารมณ์อีกด้วย แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อไตได้ โปรตีนนอกจากเนื้อสัตว์แล้วก็ยังมีพืชจำพวกถั่วต่าง ๆ อีกด้วย ไขมัน ไม่ใช่ทั้งหมดจะเหมือนกัน ไขมันมีทั้งดีและไม่ดี แต่ที่ดีสามารถช่วยปกป้องความเสื่อมของสมองและหัวใจทำให้แข็งแรง เช่น โอเมก้า 3 ที่ช่วยปรับสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ กากใย เช่น เมล็ดพืช ถั่ว ผลไม้ ผักต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยให้ร่างกายสมดุลแล้วเป็นปกติ ช่วยการขับถ่าย ห่างไกลจากโรคหัวใจ เบาหวาน และยังทำให้ผิวไม่เหี่ยวย่นสวยงาม และที่สำคัญช่วยควมคุมน้ำหนักด้วย แคลเซี่ยม ถ้าเราบริโภคแคลเซี่ยมไม่เพียงพออาจส่งผลให้ เกิดความเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ หญิงหรือชาย สำคัญมาก ๆ ในการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม แล้วเสริมด้วยแมกนีเซี่ยมกับวิตามินดีและเคเพื่อให้เกิดประสิทธภาพสูงสุด คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานหลักที่ร่างกายต้องการ และควรมาจากธรรมชาติ เช่น ข้าว พืชและผักบางชนิด ไม่ใช่จากน้ำตาล นอกจากจะห่างไกลจากเบาหวานแล้ว ยังได้พลังงานที่เพียงพออีกด้วย รูปอ้างอิงจาก URL : No Fast Food by Jcomp แล้วรับประทานยังไงให้เพียงพอและเหมาะสม? พยายามลดปริมาณอาหารที่ไม่มีประโยชน์ให้น้อยลง เช่น อาหารขยะต่าง ๆ อาจจะไม่ต้องเลิกไปเลยในครั้งเดียว ทำจนเกิดความเคยชิน ทานแต่น้อย เคยสั่งแบบพิเศษลองสั่งแบบธรรมดาดู แล้วเราจะเริ่มชินไปเอง ทานหรือเคี้ยวให้ช้าลง แล้วให้คิดว่าพอแล้วอิ่มแล้ว ไม่ต้องกินจนจุก พยายามหาเพื่อนทานข้าวจะได้ทานน้อยลง ทานคนเดียวอาจจะทำให้ทานเยอะมากกว่าปกติโดยที่ไม่ต้องเกรงใจใคร งดขนมคบเคี้ยว ไม่ควรเก็บสะสมไว้เผื่อหิวแล้วหยิบ และห้ามเอาไว้ใกล้ตัวหรือภายในห้องนอนเพราะจะทำให้เราหยิบมาทานอยู่บ่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว อย่าเอาอาหารมาเป็นตัวแก้ความเครียด ความวิตกกังวล หรือทำให้เรารู้สึกว่ามีความสุขจากการกิน แต่ให้ถือว่าอาหารช่วยแก้หิว เราจะกินให้ตรงเวลาในมื้ออาหารเท่านั้น รูปอ้างอิงจาก URL : Time - Activities by Brgfx ทั้งหมดข้างต้นนี้ถ้าเราค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมการกิน แล้วสามารถปฏิบัติตามได้ รวมทั้งทานอาหารและลำดับความสำคัญของการกินให้ได้ตามรูปพิรามิดการกิน หรือให้ครบทั้ง 5 หมู่ แล้วออกกำลังควบคู่ไปด้วย เท่านี้คุณก็จะมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคร้าย เบาหวาน ไขมันอุดตัน และที่สำคัญหุ่นดีกันทุกคน ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.helpguide.org/