กีตาร์ที่วางขายในท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่งหรือกีตาร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ล้วนทำจากไม้ทั้งสิ้น แต่เนื่องจากดนตรีนั้นมีความหลากหลายของโทนเสียงหรือความรู้สึก ไม้ที่ใช้สำหรับทำกีตาร์นั้นจึงมีความหลากหลายเพราะไม้แต่ละชนิดที่นำมาใช้ทำกีตาร์นั้นให้โทนเสียงที่แตกต่างกัน และบทความนี้ผมจะไม่บอกว่าไม้ชนิดไหนดีกว่ากันแต่หากจะนำเสนอลักษณะของไม้แต่ละชนิดเพื่อช่วยให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนตัดสินใจซื้อกีตาร์ได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยจะเน้นที่ไม้สำหรับทำกีตาร์โปร่งเป็นหลัก ซึ่งจะมีประมาณ 3 ส่วนนั่นคือ ไม้หน้า(Top) ไม้ข้าง(Side)กับไม้หลัง(Back) และฟิงเกอร์บอร์ด1. ไม้หน้า(Top)สำหรับไม้หน้าหรือที่เรียกกันว่าTop มีหน้าที่ในการต้านแรงตึงของสายและช่วยขยายเสียงของกีตาร์ให้อยู่ในระดับที่สามารถได้ยินได้ โดยไม้ที่ใช้ทำไม้หน้านี้ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 3 ชนิด ชนิดแรกคือไม้สปรูซ(Spruce) โดยไม้ชนิดนี้พบเห็นได้มากสุดในท้องตลาดและนิยมนำมาใช้ทำไม้หน้าของกีตาร์มากที่สุด ไม้สปรูซมีความแข็งแรงสูง ให้โทนเสียงที่ ใส กังวาล และมีความเคลียร์ของเนื้อเสียง นอกจากนี้เสียงของไม้ยังดีขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลาการใช้งาน ถัดมาไม้ซีดาร์(Cedar) เป็นไม้อีกชนิดที่นิยมนำมาทำไม้หน้าของกีตาร์ ไม้ชนิดนี้มีความแข็งแรงสูงและมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มีสีต่างจากไม้สปรูซ ให้โทนเสียงที่ อุ่นและนุ่มนวล เสียงมีความหวานกว่าไม้สปรูซ และสุดท้ายคือไม้โคอะ(Koa) เป็นหนึ่งในไม้ที่มีลวดลายสวยงามมากที่สุดชนิดหนึ่ง มีความแข็งแรงสูง ให้โทนเสียงคมชัดและสว่างมาก แต่หากเล่นไปสักระยะหนึ่งเสียงของไม้ชนิดนี้จะบาลานซ์และนุ่มนวลมากขึ้น โดยสำหรับไม้หน้านั้นส่วนตัวผมมองว่า ไม้สรูปซเป็นไม้ที่ค่อนข้างสมดุลที่สุดเหมาะกับผู้เล่นที่เพิ่งหัดเล่นเพราะสามารถให้โทนเสียงที่เป็นสไตล์ของเพลงPop ซึ่งมีอยู่มากในเพลงทั่วไป2. ไม้หลังกับไม้ข้าง(Back&Side)ในส่วนของไม้หลังกับไม้ข้างนั้น ไม้ที่นำมาใช้ทำ2ส่วนนี้จะมีความหลากหลายมากกว่าไม้หน้ามากโดยจะสามารถแบ่งได้หลักๆอยู่ 5 ชนิดได้แก่ไม้มะฮอกกานี(Mahogany) ไม้ชนิดนี้มีความแข็งแรงสูง สามารถนำมาใช้ทำได้ทุกส่วนของกีตาร์แต่จะพบมากในส่วนไม้หลังกับไม้ข้าง โดยจะให้โทนเสียงที่ทุ้มและอบอุ่น ซึ่งจะมีความโดนเด่นในย่านเสียงกลางมาก ไม้วอลนัท(Walnut) เป็นไม้ที่มีความหนาแน่นสูงและมีลวดลายที่สวยงาม นิยมนำมาทำไม้หลังกับไม้ข้างของกีตาร์ โดยจะให้เสียงที่มีความอบอุ่นและนุ่มนวล เสียงของไม้ชนิดนี้จะบาลานซ์และนุ่มยิ่งขึ้นไปอีกตามกาลเวลาไม้เมเปิ้ล(Maple) เป็นไม้ที่มีความหนาแน่นสูงและแข็งแรง ให้โทนเสียงที่ใสกังวาล มีโปรเจคชั่นดี ให้เสียงพุ่งและดังในระยะเวลาสั้นๆซึ่ง เนื้อเสียงมีความคล้ายกับไม้วอลนัท แต่โทนเสียงมีความสดใสกว่าและมีย่านเสียงต่ำค่อนข้างน้อยไม้โรสวูด(Rosewood) เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความสวยงามส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้ทำไม้ข้างและไม้หลังของกีตาร์ โดยจะให้โทนเสียงที่กว้างมีเสียงเบสที่ชัดเจน มีเสียงที่อบอุ่นและกังวาล และให้ความใสในย่านเสียงสูงได้ดีและสุดท้ายคือไม้อีโบนี(Ebony)เป็นไม้ที่มีความหนาแน่นและแข็งที่สุดชนิดหนึ่ง แต่มีความเปราะมากกว่าไม้โรสวู้ด ให้โทนเสียงในย่านแหลม เสียงมีความไบร์ท ซัสเทนยาว และมีความโดดเด่นในเรื่องของความคมชัดของตัวโน้ตมาก ให้คาแรคเตอร์แบบโมเดิร์นมากกว่าคลาสสิคส่วนของไม้หลังและไม้ข้างนะครับจากประสบการณ์ที่ผมได้ลองใช้ ผมมองว่าเนื้อเสียงของไม้มะฮอกกะนีมีความยืดหยุ่นเหมาะสำหรับแนวเพลงทุกแนวโดยเฉพาะเพลงคลาสสิคจะมีการให้โทนเสียงที่เข้ากับตัวเพลงมากครับ3. ฟิงเกอร์บอร์ดถัดมาในส่วนของฟิงเกอร์บอร์ดนะครับ ส่วนของฟิงเกอร์บอร์ดกีตาร์นั้นมีชนิดของไม้ให้เลือกใช้ไม่เยอะมากซึ่งจะแบ่งออกเป็น2ประเภทนะครับ นั่นคือคอขาวกับคอดำคอขาว ในส่วนของคอขาวนั้นจะมีอยู่ประเภทเดียวนั่นคือไม้เมเปิ้ล โดยที่นิยมหลักๆจะเป็น Eastern Hard Maple กับ Western Soft Maple นะครับ ไม้เปิ้ลมีจุดเด่นอยู่ตรงที่จะสามารถตอบสนองต่อย่านเสียงกลางและเสียงสูงได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ซาวน์ที่ได้ออกมานั้นมีความใส ถัดมาในส่วนของคอดำจะแบ่งได้เป็นอีก 2 ประเภทครับ นั่นคือ ไม้โรสวู้ด ไม้โรสวู้ดนอกจากนิยมนำมาทำBack&Side แล้วยังนิยมนำมาทำฟิงเกอร์บอร์ดอีกด้วย ซึ่งเป็นไม้ที่ให้โทนเสียงค่อนข้างหนาเนื่องจากเสียงเบสจะเยอะ และด้วยความหนาของตัวไม้ทำให้สามารถตอบสนองเสียงในย่านเสียงต่ำได้ดี และมีซัสเทนของเสียงที่ยาวอีกด้วย 2. คอดำ ในส่วนของคอดำอีกชนิดนั่นคือ ไม้อีโบนี่ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับไม้โรสวู้ดแต่ต่างกันตรงที่มีน้ำหนักเบากว่ามาก ซึ่งความคล้ายคลึงตรงนี้ทำให้เนื้อเสียงที่ออกมาจากไม้ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ด้วยความที่ไม้อีโบนี่มีความหนาน้อยกว่าไม้โรสวู้ด เสียงที่ออกมาจึงมีความชัดกว่านั่นเอง ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ราคาไม้อีโบนี่นั้นสูงขึ้นตามไปด้วยสำหรับฟิงเกอร์บอร์ดผมแนะนำว่าสามารถเลือกตามความชอบของสีไม้ได้เลยครับ เช่นหากชอบคอสีขาวก็จะเลือกซื้อเป็นพวกไม้เมเปิ้ล แต่หากชอบคอดำก็จะดูเป็นไม้โรสวู้ดกับไม้อีโบนี่ครับ และนี่คือวีดีโอแนะนำโทนเสียงของไม้แต่ละชนิดเพื่อนช่วยให้เพื่อนๆอ่านบทความแล้วเห็นภาพมากขึ้นครับ จากที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงการให้ข้อมูลของไม้แต่ละชนิดที่ใช้ในการสร้างส่วนต่างๆของกีตาร์เท่านั้น สุดท้ายแล้วการเลือกซื้อกีต้าร์ขึ้นอยู่กับความชอบเนื้อเสียงของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน บทความนี้เพียงแต่จะช่วยเพื่อนๆพี่ๆน้องๆสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นขอขอบคุณเครดิตรูปภาพและวีดีโอ:รูปภาพหน้าปกโดย rahu จาก pixabayภาพที่1 โดย endri yana yana จาก pixabayภาพที่2 โดย Yurii Stupen จาก Unsplashภาพที่3 โดย PIRO4D จาก pixabayและภาพที่ 4 โดย DistantSpace จาก pixabayวีดีโอ The basics of Tone Woods จาก Martin Guitarเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !