"ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" อาหารท้องถิ่นและต้นกำเนิดของอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ของชาวแปดริ้ว ที่กลายเป็นตำนานเป็นอาหารยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เรียกว่าถ้าได้แวะผ่านมาผ่านไปก็เป็นต้องหาร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อทานกันสักมื้อ หลายคนไปตระเวณกินหลายร้านจนกลายเป็นขาประจำ ร้านประจำกันไป หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องราวก๋วยเตี๋ยวปากหม้อมาแล้ว หรือหลายท่านที่ไม่ใช่สายทัวร์อาหาร อาจไม่เคยได้ยินมาเลย ในวันนี้ ผมซึ่งเป็นคนที่เติบโตมาจากตลาดพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จะขอเล่าในมุมมองของผมให้ฟังกันครับ ตั้งแต่ผมลืมตาดูโลกในปี พ.ศ. 2513 เติบโตจนเริ่มจำความได้ พอที่จะเริ่มกินอะไรได้ผมก็พบว่า "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ที่คนปัจจุบันเรียกกันติดปาก ก็มีร้านเปิดขายอยู่แล้ว บ้านของผมทำอาชีพค้าขายตั้งอยู้ในตลาดพนมสารคาม ลองนึกภาพสมัยก่อนจะมีถนนผ่านเมืองเล็กๆ แล้วก็มีบ้านไม้สองชั้น ชั้นล่างเปิดหน้าร้านขายของ ชั้นบนไว้อยู่อาศัย สร้างอยู่สองฝั่งถนนเป็นแนวยาวขนานไปด้วยกันมีความยาวประมาณ 1-2 กิโลเมตร เดิมทีผมเองไม่ได้เรียกว่า "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" หรอกครับ แต่ผมเรียกว่า "ปากหม้อ" สั้น ๆ ตั้งแต่ยังเด็กเป็นอันเข้าใจกันสำหรับคนในตลาดพนมสารคาม เช่น ถ้าแม่ผมถามว่า "กลางวันนี้จะกินอะไร" ผมก็จะตอบว่า "กินปากหม้อ" จะไม่พูดว่า "กินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" และคนในตลาดก็ไม่มีใครเขาพูดกัน มาเริ่มมีปัญหาการเรียกชื่อ "ปากหม้อ" ก็ตอนผมเริ่มเข้าศึกษาชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษดิ์ โรงเรียนประจำจังหวัด ตั้งอยู่ต่างอำเภอ คืออำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นที่รวมของนักเรียนจากหลาย ๆ อำเภอของจังหวัด เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ ทุกครั้งที่ผมพูดเรื่อง "ปากหม้อ" เพื่อน ๆ จะเข้าใจว่าผมกำลังพูดถึง "ข้าวเกรียบปากหม้อ" ซึ่งเป็นอาหารประเภทขนมกินเล่น กว่าจะสื่อสารอธิบายให้เพื่อน ๆ เข้าใจ เห็นภาพก็ใช้เวลาพอสมควร ทำให้ผมรู้สึกว่าที่อำเภออื่นในจังหวัดฉะเชิงเทราในช่วงเวลานั้น ไม่มีใครรู้จัก "ปากหม้อ" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" อย่างที่ผมรู้จักคุ้นเคยตั้งแต่วัยเยาว์ และผมก็เชื่ออย่างที่ทุกวันนี้ ผู้คนต่างกล่าวเป็นตำนานว่า "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ มีต้นกำเนิดมาจากตลาดพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา" แล้วก็ได้รับความนิยมกระจายออกไปตามอำเภอต่าง ๆ ในเวลาต่อมา แม้กระทั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อแถววัดหลวงพ่อพุทธโสธร วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของชาวแปดริ้ว ผมก็เพิ่งเคยเห็นมีร้าน "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ขายนับย้อนเวลาไปไม่เกิน 10-20 ปีที่ผ่านมา แต่ที่ตลาดพนมสารคามผมว่าอย่างน้อยก็นานกว่า 50 ปีขึ้นไป ตามอายุของผม ปัจจุบัน "ปากหม้อ" ได้รับความนิยม แพร่หลายมากแม้กระทั่งในกรุงเทพมหานคร ผมเองก็เปลี่ยนคำพูดมาเป็น "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ไปแล้วเช่นกัน เพื่อให้สื่อสารกับผู้คนได้ตรงกันชัดเจน พูดถึงรูปแบบดั้งเดิมของร้าน "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" จะใช้พื้นที่เล็ก ๆ หน้าร้านในตลาดพนมสารคามหรือว่าฟุตบาท หรือทางเดินเท้านั่นแหละครับเป็นพื้นที่ใช้ขายและลูกค้ามานั่งกิน เป็นโต๊ะและเก้าอี้แบบเตี้ย กลางโต๊ะก็จะมีชุดเครื่องปรุงเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยว ลูกค้าจะนั่งล้อมรอบแม่ค้า แต่ละคนก็จะมีชามช้อน มีน้ำซุปในชาม จะใส่ซี่โครงหมู ชิ้นฟัก ลูกชิ้น ก็แล้วแต่ชอบ แม่ค้าก็จะแคะปากหม้อทีละตัว เวียนให้ลูกค้าค่อยๆ กินกัน 10 บาท 20 บาท หรือจนอิ่มก็คิดเงินกันไป ไส้ของปากหม้อยอดนิยม ก็ต้อง ไส้กุ่ยช่าย ถ้าผมได้กินผมมักจะขอน้ำสีเขียว ๆ ในชามไส้กุ่ยช่ายจากแม่ค้ามาใส่ในชามน้ำซุปของผมทุกครั้ง ส่วนตัวผมว่าช่วยทำให้รสชาดน้ำซุปอร่อยขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมี ไส้ถั่วงอก ไส้ถั่วฝักยาว ไส้หวาน ไส้หน่อไม้ เป็นต้น ภาพร้านแบบนี้ยังหาดูได้ตามร้านขาย "ปากหม้อ" พื้นบ้านทั่วไป โดยเฉพาะที่ตลาดพนมสารคาม เมื่อเวลาผ่านไปการพัฒนาก็ต้องเกิดขึ้นครับ ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เริ่มเห็นรูปแบบการขายใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ delivery ใส่กล่องส่งให้ถึงมือลูกค้าไม่ต้องมีหน้าร้าน บางร้านก็เปิดแบบร้านก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าเข้าไปนั่งในร้าน สั่งได้เลยจะเอาไส้อะไร กี่ตัว น้ำซุปใส่อะไรบ้าง แล้วพนักงานก็จะเอามาเสริฟให้ที่โต๊ะ แม่ค้าหรือคนแคะจะยืนแคะอยู่หน้าร้านแทนที่จะนั่งอยู่กับลูกค้าแบบนี้ก็มี และล่าสุดที่เห็นก็คือเปิดร้านจัดที่นั่งในร้านเป็นแบบร้านชาบูคือมีเสริฟน้ำซุบที่โต๊ะ ส่วนตัวปากหม้อไส้ต่าง ๆ จะใส่ในจานเล็ก ๆ ลอยน้ำ มาทางสายน้ำวนผ่านโต๊ะที่ลูกค้านั่ง ให้เลือกไส้ที่อยากทานได้ตามสบายซึ่งบางคนก็เรียกว่า "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อสายพาน" ความที่เป็นคนถือกำเนิดและเติบโตในตลาดพนมสารคามจนถึงทุกวันนี้ ผมรู้สึกภูมิใจ ที่ได้เห็นอาหารพื้นบ้านของเรามีชื่อเสียง เล่าขานเป็นตำนาน สและเสริมสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนของเรา และยังได้รับความนิยมแพร่หลายไปในชุมชนอื่นอย่างกว้างไกลขนาดนี้ และในอีกมุมนึงของ "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ผมว่าจริง ๆ แล้วเมนูนี้เป็นอาหารที่ทุกคนสามารถทำกินกันเองได้ไม่ยากในครอบครัว แถมยังเป็นกิจกรรมของครอบครัวที่ดีมาก ส่วนตัวแล้วผมชอบทำกินกันเองร่วมกับครอบครัวของพี่สาวและน้องสาวที่เติบโตมาพร้อมกับคำว่า "ปากหม้อ" ตลาดพนมสารคามด้วยกันเหมือนผม เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เสริมสร้างความรัก ความผูกพันและความสนุกให้กับคนในครอบครัวและระหว่างครอบครัวกับครอบครัว ส่วนวิธีการทำก็มีหลายท่านให้ความรู้ สอนทำในสื่อ online ทั่วไป บางทีก็จัดเปิดสอนกันเป็นหลักสูตรก็มี ท่านที่สนใจลองเลือกศึกษาดูตามอัธยาศัยนะครับ และสำหรับอาหารพื้นบ้านเมนูนี้ ผมเชื่อว่า "ปากหม้อ" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" จะยังคงเป็นอาหารที่สร้างตำนานต่อไปและเป็นที่นิยมของนักชิมรุ่นใหม่ ๆ ต่อไปอีกยาวนานเลยครับ ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน