ถ้าเกิดพูดถึงขนมจีน หลายคนก็จะนึกถึง ขนมจีนเส้นเล็ก ๆ ที่กินกับน้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ น้ำยาป่า หรือแกงเขียวหวาน พร้อมด้วยเครื่องเคียงอย่างผักสด นานาชนิด และถ้าเป็นขนมจีน ไหหลำละ ? มันเป็นยังไงกัน "ขนมจีนไหหลำ" ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การกินอาหารของแมวเหมี๊ยวเลยก็ว่าได้ เพราะร้านนี้เป็นร้านที่รุ่นน้องที่ออฟฟิศพาไปกิน ซึ่งรุ่นน้องบอกว่าเป็นร้านที่เก่าแก่มาก เพราะมากินตั้งแต่เด็ก แน่นอนสายกินอย่างเราไม่มีพลาด ยิ่งของเก่าของแก่ ของต้นตำรับยิ่งน่าลอง เพราะจะได้มาเล่าให้คนอื่นฟังได้ยังไงละ (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) พอเข้าไปในร้านได้บรรยากาศเหมือนแม่พาไปกินร้านอาหารตอนเด็ก ๆ ได้อารมณ์แบบนั้นเลย เข้าไปก็เห็นเมนูหลากหลาย ใครอยากอิ่มท้องก็สั่งเมนูข้าว หรือถ้าอยากซดซุปคล่องคอก็จะเป็นเกาเหลา หรือก๋วยเตี๋ยวก็ได้ไม่ว่ากัน และแน่นอนว่าสิ่งที่แมวเหมี๊ยวจะกินวันนี้คือขนมจีนไหหลำ ซึ่งมีทั้งแบบเนื้อและหมู งานนี้รุ่นน้องกระซิบบอกว่าให้สั่งแบบแห้ง พอมีน้ำแดงขลุกขลิกอร่อยเด็ดแน่นอน ก็ตามนั้นจัดไป (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) ใช้เวลาไม่นานขนมจีนไหหลำก็พร้อมเสิร์ฟ ขอยลโฉมสักหน่อยชามของแมวเหมี๊ยวจะเป็นขนมจีนไหหลำหมู ราคาชามละ 40 บาท ในชามจะมีเครื่องใน หมู (เหมือนเค้าเอาไปตุ๋นมาเพราะเปื่อยมาก) ผักดอง เห็ดหูหนูขาว ถั่วลิสง งา หัวไชเท้า โรยด้วยผักชี ส่วนขนมจีนไหหลำเนื้อ ราคาชามละ 50 บาท ส่วนประกอบก็จะเหมือนกัน ต่างกันตรงที่จะใส่หน่อไม้แทนหัวไชเท้า ส่วนเส้นจะเป็นเส้นเหมือนเส้นอุด้งเจ้าของร้านบอกว่าเส้นนี้ทำสดนะจ๊ะ (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) เครื่องปรุงที่ดูแปลกตาก็คือ "กะปิเคย" ตอนแรกที่มานั่งก็ถามว่า เค้าเอาใส่อะไร เจ้าของร้านก็บอกว่าเอาใส่ขนมจีนไหหลำนี่แหละ ตอนแรกก็งงว่า กะปิเคยนี่เอาใส่ในขนมจีนจะได้เหรอ ? ตอนแรกที่นั่งมองก็คิดรสชาติไม่ออก แต่เจ้าของร้านการันตีว่าเด็ดมาก ตอนตักมาดูกะปิเคยที่ร้านข้นมาก ผสานกลิ่มหอมอ่อน ๆ และรสชาติของกะปิเคยที่ร้านไม่ได้เค็มโดด มันออกกลมกล่อมด้วยซ้ำ (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) หลังจากที่ใจกำลังคิดรสชาติอยู่ น้องที่ออฟฟิศก็จัดการจ้วงกะปิเคยและราดลงในขามขนมจีนไหหลำ พร้อมคลุก ๆ ให้ทุกอย่างเข้ากัน ตักเส้นขนมจีน และเครื่องเข้าปากคำโต แล้วบอกว่า "เจ๊ ตอนปรุงใส่กะปิเคยและลองกินก่อนถ้าอยากได้รสอื่นค่อยเพิ่มรสด้วยน้ำตาล กับพริกป่นตามใจชอบ" ก็จัดการตักกะปิเคยราดลงไปคลุก ๆ ให้เข้ากันแล้วพยายามตักเครื่องทุกอย่างแล้วกินพร้อมกันในคำเดียว รสกลมกล่อมมาก มันเข้ากันแบบบอกไม่ถูก เส้นของเค้าไม่ได้แข็งและไม่ได้นุ่มมาก มันกำลังพอดี มีความมันของถั่วลิสง พร้อมกลิ่นอ่อน ๆ ของงาขาว ส่วนหมูไม่ต้องบอกชิ้นใหญ่และนุ่มมาก ขนมจีนไหหลำชามนี้แมวเหมี๊ยวนอกจากกะปิเคยที่ใส่ลงไปแล้ว ก็ไม่ได้ปรุงรสอื่นเพิ่มเลย ปกติไม่ว่าอะไรก็ตามร้านไหนต่อร้านไหนที่บอกว่าอร่อยเด็ดโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม มักจะใช้มุขนี้กับแมวเหมี๊ยวไม่ได้ เพราะเป็นคนที่ต้องปรุงเพิ่มตลอดเพราะชอบทานอาหารที่รสถึงที่สุด คือถ้าเผ็ดต้องเผ็ดสุด เปรี้ยวสุด ซึ่งหาร้านยากมากที่จะทำให้เรากินอาหารที่เป็นรสชาติจริง ๆ ของเค้าได้ แต่สำหรับขนมจีนไหหลำชามนี้ไม่เลย แมวเหมี๊ยวโอเคกับรสชาตินี้ ไม่ต้องสุดมาก แต่หาความพอดีได้อย่าลงตัว เพราะแค่นี้ก็ได้รสชาติของส่วนผสมทุกอย่างได้อย่างชัดเจนแล้ว ใครที่ชอบอาหารจีนที่รสชาติจะออกเค็มนิด มันหน่อย วัตถุดิบมีประโยชน์เยอะ สารอาหารครบ ขนมจีนไหหลำชามนี้ตอบโจทย์คุณได้แน่นอน (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) เส้นขนมจีนไหหลำ คล้ายเส้นอุด้ง ที่เจ้าของร้านบอกว่าทำสด มันให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนมาก ยิ่งผสมกับน้ำซอสขลุกขลิกยิ่งอร่อย ชอบตรงที่เส้นไม่เละ และไม่แข็งไป ให้ความรู้สึกเบาสบาย ดูไม่หนัก (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) หมูชิ้นใหญ่ใส่จนคุ้ม ชามนี้ถ้าเกิดไม่ดูราคาตอนแรกก็เดาไว้ว่า 60 บาทขึ้นไปน่าจะได้ เพราะตอนแรกนึกว่าหมูจะน้อย แต่มันซ่อนอยู่ใต้เส้นจ้า ตักเท่าไรก็เจอหมูตลอด และเห็ดหูหนูที่ปกติมักจะเจอในอาหารประเภทยำ พอมาอยู่ในเมนูนี้ กลับรู้สึกอร่อยไปอีกแบบ เพราะตัวเห็ดหูหนูนี่ตัวดูดน้ำชั้นดีเลย พอกัดเข้าไปน้ำแดงของขนมจีนไหหลำที่เข้าไปแทรกอยู่ตามชั้นเห็ดนี้ ทำให้เห็ดหูหนูกลายเป็นของแรร์เลยทันที เพราะทั้งกรุบ ทั้งรสชาติของน้ำแดงที่เห็ดอุ้มชูไว้มันละมุนในปากดีจริง ๆ (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) ทานไปสักพักเจ้าของร้านก็ตักซุปมาให้ซดชามโต ซุปดูเหมือนไม่มีอะไร แต่รสชาติที่แฝงข้างในละมุนมาก เห็นสีน้ำซุปอ่อนแบบนี้ดูถูกไม่ได้นะจ๊ะ เพราะสารพัดสิ่งที่อยู่ในน้ำซุปมันทำให้น้ำซุปชามนี้หวานแบบธรรมชาติ แต่รสที่แมวเหมี๊ยวสัมผัสได้ครั้งแรกเลยคือ เห็ดหอม ได้รสชาติเห็ดหอมที่หวาน หอม พร้อมตบท้ายด้วยพริกไทยแสนเผ็ดร้อน คล่องคอมาก (หรือถ้าใครชอบซดซุปก็สั่งขนมจีนไหหลำแบบน้ำก็ได้ ก็จะได้รสชาติอีกแบบ เจ้าของร้านบอกว่า ไม่ผงชูรสด้วยนะ (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนหองหนังสือ) ขนมจีนไหหลำ ถ้าถามว่าแมวเหมี๊ยวรู้จักไหม บอกเลยว่าไม่รู้จักเลย เพราะตัวเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับร้านแบบนี้ ตอนไปทานเสร็จก็ยังเอารูปไปให้เพื่อนดูอยู่ว่ารู้จักไหม แต่ละคนที่เห็นรูปก็บอกว่าอุด้งกันทั้งนั้น ยิ่งบอกว่ารู้ไหมเวลาเค้าปรุงต้องใส่กะปิเคยนะ คนแต่ละคนก็จะสงสัยเหมือนแมวเหมี๊ยวในตอนแรกว่า ใส่แล้วรสชาติจะเป็นยังไง มันเข้ากันเหรอ และลองไปถามผู้ใหญ่บางคนเค้าก็จะบอกรู้จักสิ หากินยากนะ ก็ถือว่ารอบนี้แมวเหมี๊ยวก็มาแชร์อาหารที่แมวเหมี๊ยวไม่เคยรู้จักเลย เพิ่งจะมารู้จักตอนโตนี่แหละ เผื่อคนอื่นจะอยากลิ้มลองบ้าง เพราะก็หากินยากจริง ๆ อะไรที่หากินยากก็อยากจะให้ลองกินดู จะได้รู้ว่าต้นตำรับอาหารแต่ละชนิด ที่ไม่ต้องปรุงรสอะไรมาก ไม่ต้องใช้ผงชูรสชูรสชาติ เราก็จะได้รสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบแต่ละชนิด ขนมจีนไหหลำจะถือเป็นเมนูสุขภาพเลยก็ว่าได้เพราะได้สารอาหารครบจบในชามเดียว ทั้งเส้น เนื้อสัตว์และผัก และที่สำคัญไม่ใช้ผงชูรสนะจ๊ะอันนี้ปลื้มมาก ลิ้มรสความอร่อย ที่อร่อยจากตัววัตถุดิบจริง ๆ เพื่อสุขภาพ และราคาสบายกระเป๋า ลองไปกินกันได้ ขนมจีนไหหลำ บางทีพาพ่อแม่ไปกินแมวเหมี๊ยวว่ารสชาติแบบนี้ผู้ใหญ่น่าจะชอบ >< .... ร้าน : ขนมจีนไหหลำ พิกัด : 1319 ปากซอยเจริญนคร 19 เขตบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โทร : 02-4375391 เปิด : จันทร์ - อาทิตย์ เวลาตั้งแต่ 08.00 น. - 19.00 น.